ตอนที่ 4 : พี่ชายที่แสนดี
ภายในห้องทำงานของชายผู้สูงวัยผู้น่าเกรงขาม ภายในห้องทำงานขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยวัสดุราคาแพงที่ไม่ได้มีวางขายทั่วไป สายตาของทั้งคู่ประสานกันด้วยแววตาเรียบนิ่งไร้ซึ่งความรู้สึก โดยพายุนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผู้เป็นพ่อบนโซฟาหนังสีน้ำตาลเข้มสุดหรู
"ธุรกิจผ่านไปด้วยดี พ่อดีใจกับแกด้วยที่ประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน แกไม่เคยทำให้พ่อผิดหวังสมกับที่คอยปลุกปั้นสั่งสอนให้แกเป็นคนที่แข็งแกร่ง ทั้งเรียนและกิจกรรมไม่เคยเป็นที่สองรองใคร"
"ครับ" พายุตอบพ่อกลับไปเพียงคำสั้นๆ เพราะรู้ดีกว่าการเข้ามาในห้องครั้งนี้ไม่ใช่แค่จะมาพูดเยินยอแสดงความยินดีกับเขาอย่างเดียว สายตาประสานกันบ่งบอกถึงเรื่องสำคัญที่รออยู่จากปากผู้เป็นพ่อ
"อีกไม่นานพ่อจะวางมือจากตำแหน่งประธานบริษัทในเครือครอบครัวของเรา และพ่อหวังว่าแกจะรับช่วงต่อจากพ่อได้เป็นอย่างดี ควบคู่กับบริหารบริษัทของแกเอง เพราะพ่อไม่ไว้ใจคนอื่นนอกจากแก" พ่อของพายุใช้น้ำเสียงที่น่าเกรงขามและจริงจังกับสิ่งที่พูด ต่อให้อายุจะเยอะแล้วแต่บุคลิกและท่าทางทำให้หลายคนเคารพนับถือ
"ผมอยากยกให้น้องมากกว่าครับ พราวฟ้าโตพอที่จะทำงานและบริหารงานได้แล้ว สอนน้องนิดหน่อยผมเชื่อว่าคนอย่างยัยพราวสามารถทำงานออกมาได้ดีไม่ต่างจากผมแน่นอน"
"แกก็ยังคงรักน้องรักแม่แกมากกว่าตัวแกเองเหมือนเดิมนะพายุ" ชายหนุ่มสูงวัยกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกชายพูด แต่แล้วริมฝีปากนั้นก็หุบลงเหลือเพียงความเย็นชาที่ส่งตรงมาที่ลูกชายคนโต
"แกคิดว่าคนอย่างยัยพราวจะจัดการพวกหนอนบ่อนไส้ให้ราบคาบได้เหรอ คนจ้องที่จะทรยศเรามีอีกเยอะ แกกับพ่อรู้ดีว่าไอ้พวกเดรัจฉานพวกนั้นจุดจบมันเป็นยังไง คนเก่าของบริษัทแกก็จัดการมาถึงสองคนแล้วไม่ใช่เหรอ อีกอย่างคนที่สามตอนนี้ก็ถูกจับตัวอยู่ที่โกดังโรงไม้ย่านชานเมือง รอวันที่แกจะเข้าไปหาจริงไหมพายุ คนของพ่อที่จัดการไปก็ไม่ต่างจากคนของแกที่รอให้แกเข้าไปจัดการอยู่ตอนนี้ มีเพียงแค่แกเท่านั้นพายุที่จะจัดการเศษขยะพวกนั้นได้โดยไม่รู้สึกอะไร ยัยพราวหัวอ่อนไปกับเรื่องแบบนี้แค่เลือดออกก็ร้องไห้ฟ้องแม่แกแล้ว และแกเองคงไม่อยากให้มือน้องสุดที่รักต้องเปื้อนเลือด ฉันพูดถูกหรือเปล่า"
สายตาคมกริบจ้องมองผู้เป็นพ่อด้วยแววตาไร้ความรู้สึก ทั้งเขาและพ่อเกลียดพวกคิดทรยศที่เอาความลับไปให้คนอื่นยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือน ถึงแม้จะกำจัดทิ้งให้ไม่เหลือแม้แต่ซากก็ไม่เคยมีผลต่อความรู้สึกเขาเลยสักนิด
"แกรู้ดีว่ามือที่เปื้อนเลือดนี้มีเพียงพ่อกับแกเท่านั้นที่รู้เรื่องและทำได้ แม่กับน้องแกไม่มีโอกาสที่จะได้รับรู้"
"ผมไม่เคยต้องการให้น้องกับแม่รู้เรื่องแบบนี้ ไม่ต้องห่วงทุกอย่างผมจะจัดการมันด้วยตัวเอง แต่เรื่องบริษัทพ่อผมยังยืนยันคำเดิมว่าอยากให้น้องรับช่วงต่อ แต่เรื่องอื่นผมจะเป็นคนจัดการให้น้องเอง พวกขยะไร้คุณค่าพวกนั้นผมจะจัดการให้ไม่เหลือแม้แต่กลิ่นเหม็นจนยัยพราวสงสัย หวังว่าพ่อจะเปิดใจให้ลูกสาวคนเล็ก ถึงแม้พราวฟ้าจะเกิดมาเพราะความไม่ต้องการของพ่อก็ตาม” พายุจ้องหน้าผู้เป็นพ่อหลังพูดจบก่อนจะยัดกายลุกขึ้นและก้มหัวให้เป็นการทำความเคารพ
ฝีเท้าแกร่งก้าวออกจากห้องทำงานของผู้เป็นพ่อด้วยท่าทางเรียบเฉย ใบหน้าคมคายไม่หลงเหลือประธานหนุ่มผู้อ่อนโยน ทั้งสีหน้าและแววตาแข็งกร้าวราวกับซาตานร้ายเข้าสิง เขารู้ดีว่าการที่พราวฟ้าเกิดมามันคือความไม่ต้องการของพ่อ เพราะพ่ออยากได้ลูกผู้ชายอีกคน ไม่ต้องการลูกผู้หญิง ถึงขั้นแอบใส่ยาขับเลือดในอาหารเพื่อให้แม่กินจะได้แท้งพราวฟ้า แต่พายุได้เข้าไปเห็นการกระทำของพ่อเสียก่อน ถึงแม้ตอนนั้นเขาจะอายุเพียงสิบขวบแต่ก็รับรู้ได้ถึงความอันตรายที่จะเกิดขึ้น ตั้งแต่นั้นมาทำให้พายุดูทุกขั้นตอนในการทำอาหารของแม่บ้าน และไม่เคยให้ใครยกอาหารมาให้แม่กินโดยที่ไม่รู้ต้นตอจนน้องสาวคนเล็กคลอดออกมา และยังเลี้ยงพราวฟ้าเองกับมือ ไม่เคยให้คาดสายตา จนพราวฟ้าโตสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ เขาเลยปล่อยอิสระให้น้อง เรื่องนี้ไม่มีใครรู้แม้แต่แม่ มันกลายเป็นความลับของเขากับพ่อ และอีกไม่นานความลับนี้ก็จะตายไป
เมื่อกาลเวลาผ่านไปความแก่นแก้วและไร้เดียงสาของพราวฟ้าก็ได้ใจพ่อไปไม่มากก็น้อย แต่สุดท้ายก็ยังไม่เชื่อมั่นในตัวของลูกสาวคนเล็กอยู่ดี
เพียงลงมาชั้นล่างของคฤหาสน์หลังใหญ่ เห็นน้องสาวกับแม่นั่งดูโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่น ใบหน้าคมคายก็แปลเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มผู้อ่อนโยนด้วยการเผยรอยยิ้มบางๆก่อนที่จะเข้าไปประจันหน้ากับทั้งคู่
"ข้อมือสวยดีนะ" พายุพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นข้อมือน้องสาวใส่ของที่เขาพึ่งซื้อให้
"พราวตาถึงจริงๆว่าไหมคะ ขับกับผิวมากเลย และยิ่งไม่ต้องเสียเงินด้วยยิ่งเข้ากันมาก"
"พึ่งจะเข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่งแต่ใช้ของแบรนด์เนมอย่างกับคนทำงานแล้ว เบาๆบ้าง" ผู้เป็นแม่ยังคงเอ็ดลูกสาวตัวแสบพลางส่ายหัวเบาๆเมื่อเห็นท่าทางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของลูกสาวและลูกชาย
"ของทุกอย่างพี่พายุซื้อให้ค่ะ พราวไม่ได้ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายนะคะคุณแม่" พราวฟ้าเกาะแขนผู้เป็นแม่พลางเอาหัวซบไหล่ราวกับเด็กน้อยติดแม่ "ว่าแต่พี่ไปคุยอะไรกับคุณพ่อคะ นานเป็นชั่วโมงเลย
"ถ้าอยากรู้ก็จะบอกให้...ตั้งใจเรียนให้จบและมารับช่วงต่อของบริษัทที่คุณพ่อทำอยู่ คุณพ่อจะลาตำแหน่งประธานบริษัทหลังจากพราวเรียนจบ" น้ำเสียงเข้มพูดด้วยสีหน้าจริงจัง บ่งบอกว่าเขาไม่ได้พูดเล่น
"ไม่น่าถามเลย พอรู้ปุ๊บกดดันปั๊บ...พราวหนีไม่พ้นจริงๆใช่ไหมคะพี่พายุ" พราวฟ้าทำหน้าละห้อยเมื่อรู้ว่าเรียนจบต้องรับภาระอันยิ่งใหญ่ของครอบครัว
"ไม่มีทางหนีพ้น ไม่ต้องกลัวช่วงแรกพี่กับพ่อจะสอนงานเราก่อน ปีสี่มีฝึกงานก็เขียนเข้าฝึกงานที่บริษัทคุณพ่อ ตอนนี้พราวอยู่ปีหนึ่ง พี่ให้พราวเที่ยวเตร่ยันถึงปีสาม แต่อย่าให้มันเกินเลยไปถึงขั้นเรื่องอย่างว่า แล้วปีสี่พราวต้องโตที่จะรับผิดชอบงาน เรียนจบเมื่อไหร่พราวต้องเป็นผู้นำให้ได้ จะอ่อนแอไม่ได้ และทำให้คนอื่นเห็นว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างพราวฟ้าเด็ดขาดและสามารถยืนเป็นที่หนึ่งได้อย่างสง่า"
"ทำไมต้องน้ำเสียงจริงจังขนาดนี้ ตั้งแต่พราวรู้จักพี่พายุมายังไม่เคยได้ยินน้ำเสียงแบบนี้เลย"
"ก็พี่เขาต้องพูดจริงจังกับพราวไงลูก เราก็เอาแต่เล่นไปวันๆไม่ได้แล้วนะ สิบเก้าแล้วนะลูกไม่ใช่เก้าขวบ ปีหน้าก็ยี่สิบแล้วบรรลุนิติภาวะมากพอที่จะจริงจังได้แล้ว"
"วันนี้กลายเป็นพราวโดนเล่นงานอยู่คนเดียวเลย" เด็กสาวทำหน้าเจื่อนทันทีเมื่อถูกทั้งแม่และพี่ชายทำสีหน้าจริงจัง
พรึบ
"ไม่ต้องคิดมาก ปิดเทอมใหญ่พี่มีตั๋วไปสวิตเซอร์แลนด์พร้อมกับงบไม่จำกัด เที่ยวให้เต็มที่ไปเลย" มือหนาเอื้อมไปโยกหัวน้องสาวเบาๆเหมือนเป็นการปลอบขวัญ ใบหน้าคมคายกลับมาอ่อนโยนและส่งยิ้มให้เพราะเมื่อกี้เขาเผลอจริงจังอย่างที่พราวฟ้าพูดจริง ด้วยอารมณ์คลุกกรุ่นตั้งแต่อยู่ในห้องทำงานพ่อ
"ว้าว...แบบนี้ค่อยคุ้มหน่อย งั้นสามปีนี้พราวก็เที่ยวต่างประเทศได้สบายเลยใช่ไหมคะ พี่พายุจัดการให้ทุกอย่าง"
"อืม...แต่ต้องตั้งใจเรียน เอาเกรดมาให้พี่ประเมินทุกเทอมและพี่จะจัดสรรเองว่าควรไปเที่ยวประเทศไหน ถ้าอยากไปเที่ยวประเทศยุโรปค่าใช้จ่ายแพงควรได้เกรดแบบไหน พราวคงรู้ดี"
"รับทราบค่ะ รักพี่พายุที่สุด พี่ชายที่แสนดีของน้อง" พราวฟ้ากอดร่างสูงด้วยความรัก
มือหนาลูบหัวน้องสาวอย่างแผ่วเบา สายตาคมมองผู้เป็นแม่ที่ส่งยิ้มด้วยความปลื้มใจที่เห็นพี่น้องรักกัน เพราะความไร้เดียงสาของพราวฟ้าทำให้ไม่เอะใจว่าพ่อไม่ค่อยสนใจ ยังคงอ้อนและทำตัวเป็นเด็กกับผู้เป็นพ่อเสมอ และยังดีที่พ่อไม่แสดงความเกลียดชังลูกสาวคนเล็กออกมาอย่างเปิดเผย ไม่งั้นพราวฟ้าคงรับกับสถานการณ์ที่พ่อไม่ต้องการให้เกิดตั้งแต่แรกไม่ได้แน่ และพายุต้องเป็นพี่ชายที่แสนดีของน้องสาวคนนี้ไปตลอด จะไม่ให้น้องสาวคนนี้ขาดความอบอุ่นเลยแม้แต่นิดเดียวทำให้พายุตามใจพราวฟ้าทุกอย่าง