ตอนที่ 8 : ทำให้หายไปทีละคน
ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มเย็นยะเยือกฉายขึ้นบนใบหน้าคมคายในจังหวะที่พนักงานสาวกำลังจะก้าวขาออกจากห้อง
"เดี๋ยว" น้ำเสียงเข้มพูดขึ้นจนทำให้คนที่กำลังจะเปิดประตูออกสะดุ้งเฮือก
"คะ?" ฝีเท้าเล็กชะงักทันที ใบหน้าหวานซีดเผือด พยายามควบคุมร่างกายไม่ให้สั่นเทา นัยส์ตาทั้งสองข้างสั่นระริกเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ทำเอาเสียวสันหลังวาบอย่างที่เคยได้ยินมาก่อน ยิ่งเงยหน้ามองคนตรงหน้ายิ่งทำให้รู้สึกแปลกๆ ใบหน้าคมคายนั้นไม่เหมือนเดิม รอยยิ้มนั้นยิ่งบอกถึงความผิดปกติในตัวของเจ้านายหนุ่ม
"แฟ้มเอกสารไม่เอาเหรอ"
“อ่อ...ค่ะ" แก้มใสลนลานไปหยิบแฟ้มเอกสารที่เผลอวางไว้ไม่รู้ตัวที่โต๊ะเจ้านายหนุ่ม ตอนนี้ฉันเหมือนคนไม่มีสติอะไรเลยตั้งแต่เห็นรูปในซองนั้น ก่อนออกจากห้องไม่ลืมที่จะก้มหัวให้เจ้านายหนุ่มอีกครั้งถึงแม้หัวใจดวงน้อยจะเต้นระส่ำไม่ใช่เพราะเสน่ห์ความหล่อของเขาอย่างที่เคยเป็น แต่เป็นเพราะความสับสนที่อยู่ในตัวเอง
พายุมองหลังของพนักงานสาวจนประตูห้องทำงานปิดลง ไม่ได้ยื้อให้เธออยู่ในห้องนี้ต่อ ใบหน้าคมคายเรียบนิ่งไร้ซึ่งความรู้สึก ก่อนจะตวัดสายตาไปที่ซองเอกสารนั้น
"เหยื่อมาอีกแล้วสินะ" น้ำเสียงชวนขนลุกพูดขึ้นเบาๆ ริมฝีปากหนาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมาพลางเอียงคอซ้ายขวาสลัดความเมื่อยล้าราวกับจะได้ลงมือลงแรงอีกครั้ง มือหนาหยิบรูปที่อยู่ในซองเอกสารนั้นขึ้นมาดูด้วยสายตาว่างเปล่า ศพที่เต็มไปด้วยเลือดฉายขึ้นตรงหน้าและเป็นศพสดๆร้อนๆที่เขาพึ่งจัดการไปเมื่อวานนี้
"เธอไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เธอดันแส่หาที่ตายเองแก้มใส พนักงานสาวแผนกการตลาดใกล้จะเหลือแต่ชื่อให้คนพูดถึงแล้วสินะ"
แกร่ก...
ประตูห้องทำงานของผู้บริหารหนุ่มเปิดออกก่อนที่เลขาคนสนิทจะก้มหัวให้ เมื่อดนัยเห็นสายตาแข็งกร้าวของเจ้านายก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่องขึ้นแน่นอนเพราะเขาพึ่งเห็นพนักงานสาวเดินตัวสั่นออกไป สายตาชำเลืองมองรูปในมือพายุ เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความไม่รอบคอบของตัวเอง
"เป็นความผิดของผมเองครับ"
"ทำไมแฟ้มสีขาวถึงมาอยู่ในห้องทำงานของกู"
"แม่บ้านคงเก็บมาตั้งไว้ให้ครับ คงคิดว่าเป็นแฟ้มที่คุณพายุต้องเซ็น ผมผิดเองที่รีบจนลืมแฟ้มไว้ในห้องเก็บเอกสาร" ดนัยยอมรับความผิด เพราะก่อนออกจากบริษัทเขาลืมแฟ้มนั้นไว้ในห้องเก็บเอกสาร เลยโทรให้แม่บ้านไปหยิบออกมาให้และวางไว้ที่โต๊ะทำงาน แต่คงฟังไม่ได้ศัพท์แม่บ้านคนนั้นเลยถือวิสาสะนำแฟ้มนั้นมาวางไว้ในห้องเจ้านายแทนโต๊ะทำงานของเขาที่อยู่หน้าห้อง
"รูปพวกนี้วางไว้บนโต๊ะกูตั้งแต่เมื่อไหร่" คิ้วหนาเลิกขึ้นเมื่อต้องการคำตอบที่แน่ชัด แต่แล้วลูกน้องคนสนิทกับเงียบ ทำเอารอยยิ้มเย็นยะเยือกฉายขึ้นบนใบหน้าคมคายอีกครั้ง "ห้องทำงานกูกลายเป็นสวนสาธารณะไปตั้งแต่เมื่อไหร่"
ดนัยส่ายหัวเบาๆไม่ใช่เพราะปฏิเสธความผิด แต่เป็นเพราะตัวดนัยเลินเล่อไม่คิดว่าจะมีใครกล้าเข้ามาในห้องนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต และซองรูปนั้นเขาก็เป็นคนวางไว้ให้เองเหมือนกับครั้งก่อนหน้านี้ เพราะเจ้านายหนุ่มมักจะเก็บรูปพวกทรยศที่ไร้วิญญาณไว้ดูราวกับคนโรคจิตที่ได้ชื่นชมผลงานตัวเอง
แก่ก!
ในเสี้ยววินาทีปืนกระบอกสีดำเงาวับที่พายุเก็บไว้ในลิ้นชักส่วนตัวก็ยกขึ้นมาและตั้งปลายกระบอกปืนไปที่เลขาคู่ใจ เขาไม่รู้ว่าแม่บ้านคนนั้นได้เห็นของสำคัญในซองนี้เหมือนกับพนักงานสาวที่ชื่อแก้มใสหรือเปล่า แต่ตัวต้นเหตุก็มาจากความสะเพร่าของคนข้างกาย
"คราวนี้มึงพลาดถึงสองครั้งติดเลยนะดนัย มึงคือคนต่อไปจากไอ้เวรนั่นหรือจะผู้หญิงสองคนนั้นที่ตามไอ้เวรนั่นไปดีล่ะ"
"ผมยอมรับผิดครับคุณพายุ" ดนัยก้มหัวอย่างสำนึกผิดไม่ได้หวาดผวากับสิ่งที่เจ้านายหนุ่มกำลังทำอยู่ตอนนี้ และพร้อมที่จะรับชะตากรรมถ้าเกิดหลังจากนี้หมดลมหายใจ
"ผมไม่คิดว่าจะมีใครเข้ามาวุ่นวายกับเอกสารของคุณพายุครับ เพราะทุกครั้งจะไม่มีใครกล้าแตะต้องของบนโต๊ะของคุณพายุแม้แต่แม่บ้านทำความสะอาดผมจะยืนเฝ้าจนกว่าจะทำงานเสร็จ และไม่คาดคิดว่าแม่บ้านคนนั้นจะกล้าเข้ามาในห้องนี้โดยพลการ และเด็กคนนั้นจะกล้าเปิดซองเอกสารสำคัญของเจ้านาย"
ตึก ตึก ตึก
ฝีเท้าหนักๆของพายุเดินเข้ามาหาเลขาคนสนิท พร้อมกับยกปืนจ่อเป้าหมายไว้ไม่มีท่าทีจะลดละ และท้ายที่สุดปลายกระบอกปืนนั้นแนบกับหน้าผากของเลขาคนสนิท
"ไม่คิดเหรอดนัย มึงกลายเป็นคนไม่คาดคิดตั้งแต่เมื่อไหร่..." แววตาแข็งกร้าวจ้องมองลูกน้องคนสนิท
"ผมน้อมรับผิดครับ"
"ถ้าวันนี้ไม่มีประชุม มึงได้นั่งทับรอยไอ้เวรนั่นตอนนี้แน่อีกอย่างมึงทำงานรู้ใจกูมาตลอด มึงรู้ดีว่าคนอย่างกูไม่เคยให้โอกาสใคร กูจะถือว่ามึงได้สิทธิ์พิเศษ แต่จำไว้ว่าแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น"
"ขอบคุณที่ไว้ชีวิตผมครับ ผมจะไม่มีทางทำพลาดอีกเด็ดขาด"
"จัดการแม่บ้านคนนั้นซะ ส่วนพนักงานที่ชื่อแก้มใสนั่นจับตาดูไว้ ถ้าคนในบริษัทหายไปติดต่อกันสามคนมันคงตื่นเต้นกับพวกสอดรู้สอดเห็นไม่ใช่น้อยๆ ให้มันค่อยๆหายไปทีละคน" น้ำเสียงเข้มเน้นประโยคสุดท้ายพร้อมกับใบหน้าเรียบนิ่งแววตาไร้ซึ่งความรู้สึกกับความเป็นความตาย
"ครับคุณพายุ" ดนัยก้มหัวรับคำสั่งหลังจากปลายกระบอกปืนถูกละออกจากหัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ภายในห้องน้ำหญิง
ดวงตากลมโตมองเงาสะท้อนของตัวเองผ่านกระจกเงา ใบหน้าหวานซีดเผือด พยายามควบคุมอาการสั่นเทาของตัวเอง
ฉันต้องแวะเข้าห้องน้ำก่อนเข้าห้องประชุม ถ้าเกิดเข้าห้องประชุมไปตอนนี้มีหวังควบคุมตัวเองไม่ได้แน่ ฉันไม่รู้จะทำหน้าแบบไหนเมื่อต้องเข้าประชุมพร้อมกับเจ้านายหนุ่ม ทั้งที่ก่อนหน้านี้อยากได้รับคำชมจากปากเขา แต่สถานการณ์เมื่อกี้น้ำเสียงนั้นและรอยยิ้มที่ดูไม่เหมือนบอสคนเดิมกับทำให้หัวใจดวงน้อยตกไปที่ตาตุ่ม ถึงฉันจะอ่านสีหน้าและแววตาของเขาไม่ออกแต่การแสดงออกที่ส่งมากลับทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ
"นั่นมันภาพคุณนพ...ไหนว่าคุณนพลาออก" แก้มใสพึมพำกับตัวเองเบาๆ ฉันเกือบสติแตกเมื่อเห็นภาพนั้น ต่อให้คนในรูปจะเต็มไปด้วยเลือดสีแดงออกคล้ำแล้วก็ตาม แต่ฉันจำได้แม่นว่านั่นคือพนักงานในบริษัทนี้ที่ถูกติดประกาศว่าลาออก ความคิดมากมายผุดขึ้นในหัวทำไมเจ้านายฉันถึงมีรูปพวกนั้นอยู่ในห้องทำงาน
ตึก ตึก ตึก....
ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงรองเท้าเดินใกล้เข้ามาในห้องน้ำเรื่อยๆ ขาเรียวยาวก้าวถอยหลังอัตโนมัติ เมื่อเสียงที่ได้ยินประกอบกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทำเอาอกสั่นขวัญหายไม่ต่างจากดูหนังฆาตกรรม
ตึก ตึก ตึก
ปึก!
แผ่นหลังบางติดกับผนังกำแพงของห้องน้ำ แววตาสั่นระริกจับจ้องไปที่ประตูห้องน้ำเมื่อเสียงนั้นหยุดอยู่ตรงประตู มือบางกำหมัดแน่น
“อย่าเข้ามานะ…” แก้มใสพูดออกมาเบาๆด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ นัยส์ตามั้งมองข้างเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
แกร่ก
"อ้าวแก้ม...เราก็ตามหาไปเถอะ อยู่ในนี้นี่เอง พี่ฝนให้เราออกมาตามเห็นว่าไปหาแฟ้มงานนานเกินไปแล้ว"
"เฮ้อ...ฟู่ว.." ฉันถึงกับเป่าลมออกจากปากเมื่อเจอเพื่อนสาวตุ้ยนุ้ยเปิดประตูเข้ามา ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นเพื่อไล่น้ำตาออกจากนัยส์ตา
"เป็นอะไรทำไมหน้าซีดแบบนั้น เมื่อกี้เหมือนคนกำลังกลัวอะไรเลย" เฟิร์นเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง
"ปะ เปล่าหรอก ว่าแต่เมื่อกี้เจอใครอยู่ข้างนอกไหม แบบ...เอ่อ..คนอื่นอะ เสียงเดินเมื่อกี้เหมือนไม่ใช่เฟิร์นเลย" ฉันถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักทั้งที่พยายามควบคุมตัวเองแล้วแต่อาการหวาดผวาก็ยังไม่จางหาย
"คนอื่นเหรอ...ไม่มีนะ มีแต่คนรู้จัก"
"ใครเหรอ"
"คุณดนัยไง เลขาคู่ใจของบอส สงสัยทำงานหนักจนลืมว่ามันเป็นทางเข้าห้องน้ำหญิง"
ฉันถึงกับเสียวสันหลังวาบเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนพูด อยากจะขอบคุณเฟิร์นที่เข้ามาทันเวลา ตอนนี้สมองฉันฟุ้งซ่านไปหมด ทำไมเลขาของเจ้านายต้องมาอยู่หน้าห้องน้ำหญิง และรูปนั้นมันเกี่ยวอะไรกับบอส