แพทกลับจากทำงานในเวลาเกือบรุ่งสาง ขณะนอนหลับอย่างสบาย ท้องเจ้ากรรมก็ส่งเสียงประท้วงครืดคราด จำต้องลุกจากเตียงนอนแสนอุ่นนุ่ม เสียงขัดพื้นห้องน้ำทำให้เธอเปลี่ยนทิศทาง จากที่จะลงไปหาอะไรใส่ท้องแล้วค่อยกลับไปนอนต่อ ภาพเด็กชายฝาแฝดเหงื่อท่วมตัวทำให้เธอตื่นเต็มตา
“เมฆ หมอก”
“น้าแพท” เด็กชายฝาแฝดมองแพทราวกับนางฟ้ามาโปรด แม้แต่ปุ้ย พี่เลี้ยงของสองหนุ่มน้อยที่มุกให้คอยดูทั้งคู่ล้างห้องน้ำ และสั่งห้ามเข้าไปช่วยเด็ดขาดยังมีสีหน้าดีใจที่มีคนมาช่วยเจ้านายตัวน้อยแล้ว
“ปุ้ย ทำไมไม่บอกฉันว่ามุกลงโทษเมฆ หมอก”
“หนูเห็นคุณแพทหลับอยู่เลยไม่กล้ารบกวนค่ะ อีกอย่างคุณมุกก็ไม่ให้บอกด้วย”
“คงกลัวแพทเข้าข้างหลานน่ะสิ และใช่มุกคิดถูก แต่จะมาลงโทษหลานน้าแพทแบบนี้ได้ยังไง ถ้าให้เดาลุงตรินต์มาอีกแล้วใช่ไหมคะเมฆ หมอก” แพทรู้ได้ในทันทีว่าสาเหตุที่หลานชายทั้งสองต้องมาล้างห้องน้ำแบบนี้เพราะอะไร และใครเป็นตัวต้นเหตุ เมฆกับหมอกพยักหน้าหงึกๆ ตอบคนเป็นน้า
“เพราะตานั่นหลานชายน้าแพทเลยต้องมาล้างห้องน้ำแบบนี้ พอแล้วค่ะ ไม่ต้องทำ ดูสิเหงื่อเต็มหน้าเลย” แพทเคืองโกรธตัวต้นเหตุ และสงสารหลานจับใจในเวลาเดียวกัน
“แต่…” คำสั่งของแม่ถือเป็นเด็ดขาด แต่น้าแพทคือคนที่คอยให้ท้าย และสามารถยุติบทลงโทษได้
“ไม่มีแต่ค่ะ น้าแพทจะคุยกับแม่มุกเอง ไปค่ะอาบน้ำตัวหอมๆ” แพทคว้าแปรงขัดห้องน้ำในมือหลานใส่กระป๋องน้ำ แล้วให้ทั้งสองคนอาบน้ำชำระคราบเหงื่อไคล เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ก่อนจะพาไปหามุก และตัวต้นเหตุก็อยู่ด้วย
“นายมาทำไม” แพทถามอย่างคนไม่ชอบขี้หน้า เมฆกับหมอกเกาะติดคนเป็นน้าราวกับเป็นเกราะกำบัง
“ฉันมาคุยเรื่องงานกับมุก” ตรินต์ตอบเสียงเรียบ ด้วยไม่ค่อยลงรอยกับแพท
“ข้ออ้าง มาทีไรทำหลานฉันถูกลงโทษทุกที” แพทรู้ดีว่าตรินต์ยกเรื่องงานมาอ้างเท่านั้น จริงๆ แล้วอยากหาเรื่องใกล้ชิดเพื่อนของเธอมากกว่า
“มุกลงโทษเมฆกับหมอกเหรอ” แม้เมฆกับหมอกจะแสบสัน เล่นงานตรินต์ให้เจ็บเนื้อตัวหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยคิดอยากจะให้มุกทำโทษลูก
“เมฆกับหมอกทำผิดก็ต้องถูกลงโทษสิคะ”
“เรื่องแค่นี้เอง มุกไม่เห็นต้องลงโทษลูกเลย พี่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย อีกอย่างเมฆกับหมอกก็ยังเด็กอยู่ ก็ซนไปตามประสาเท่านั้น”
“ทำมาเป็นพูดดี แต่จะให้ดีนายไม่ต้องมาที่นี่เลยจะดีกว่า”
“ใช่ๆ ไม่ต้องมาหาแม่…” เมฆกับหมอกโผล่หน้าออกมาเห็นด้วยกับน้าแพท แต่เมื่อเห็นสายตาดุๆ ของแม่ก็หลบหลังคนเป็นน้าอีกครั้ง
“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมฆกับหมอกทำผิด ถ้ามุกไม่ทำโทษบ้างเมฆกับหมอกก็จะได้ใจ”
“ปกติเมฆกับหมอกเคยแกล้งใครซะที่ไหน ที่ทำลงไปก็เพราะหวงแม่เท่านั้น ถ้าจะโทษก็ต้องโทษตัวต้นเหตุ ไม่รู้แหละ แพทไม่ให้เมฆกับหมอกไปล้างห้องน้ำนั่นแล้ว”
“โอเคๆ ไม่ล้างก็ไม่ล้าง แต่ต่อไปเมฆกับหมอกห้ามทำแบบนี้อีก” มุกไม่อยากมีปัญหากับแพท อันที่จริงเธอก็ไม่ได้อยากลงโทษลูกแบบนี้ แค่อยากให้เมฆกับหมอกรู้ว่าการกลั่นแกล้งให้คนอื่นเจ็บตัวไม่ใช่เรื่องถูกต้อง
“น้าแพทๆ แม่มุกให้งดขนมด้วยครับ มันฝรั่งทอดกรอบๆ อดกินสามวันเลยครับ” เมฆบอกบทลงโทษที่ได้รับอีกอย่าง และถือว่าบทลงโทษนี้หนักหนากว่าการล้างห้องน้ำเสียอีก
“แม่มุกห้ามเล่นโทรศัพท์ด้วยครับ ตั้งสามวันแหนะ” หมอกก็ได้โอกาสให้น้าแพทช่วยเรื่องบทลงโทษที่ตนได้รับ ปกติจะได้รับอนุญาตให้เล่นโทรศัพท์แค่หนึ่งชั่วโมงต่อวันก็ว่าน้อยอยู่แล้ว แต่นี่โดนสั่งห้ามถึงสามวัน
“มุกอย่าใจร้ายกับลูกสิ”
“แพทก็เข้าข้างหลานทุกที ตามใจหลานมากๆ หลานจะเสียนิสัยนะ”
“หลานแพทไม่เสียนิสัยหรอก ก็บอกแล้วว่าเมฆกับหมอกแค่หวงแม่ เรื่องนี้เราต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุสิ” แพทจ้องหน้าตัวต้นเหตุ อีกฝ่ายก็จ้องกลับอย่างคนไม่กินเส้นกัน ก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่น ทำให้แพทคิดว่าตรินต์ไม่กล้าสู้สายตา แต่ทำไมเขาต้องหน้าแดงด้วย?
“แพทก็พลอยเป็นกับหลานไปด้วย มุกกับพี่ตรินต์คุยกันเรื่องงาน พี่ตรินต์เห็นว่ามุกกำลังหาโรงงานใหม่ที่มีกำลังผลิตสูง ก็เลยช่วยแนะนำแค่นั้น ไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่นเลยนะ” ตรินต์หน้าเจื่อนเล็กน้อยเมื่อมุกพูดออกมาตรงๆ แต่เขาก็ไม่ยอมถอยง่ายๆ หรอก และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ฟังคำพูดเหล่านี้
“มุกไม่คิด แต่คนอื่นคิด” แพทพูดแขวะอย่างไม่ไว้หน้า
“ช่ายยยย” สองหนุ่มน้อยเห็นด้วยกับน้าแพท
“พี่ว่าพี่กลับก่อนดีกว่า วันศุกร์นี้พี่มารับนะมุก”
“ไม่ต้อง!!!” แพท เมฆ และหมอก พูดเป็นเสียงเดียวกัน
“บริษัทนี้มุกรู้จักค่ะ มุกไปเองดีกว่า ขอบคุณพี่ตรินต์มากนะคะที่แนะนำ”
“ได้ยินชัดแล้วนะ กลับไปสิ กลับไปเลย”
“ชิ่วๆ” เมฆกับหมอกสะบัดมือไล่ตรินต์ มีน้าแพทเป็นแบ็คก็ไม่ต้องกลัวแม่ลงโทษแล้ว มุกส่ายหน้าเอือมๆ สามคนน้าหลาน
“มุกไปส่งที่รถค่ะพี่ตรินต์” ตรินต์ยิ้มขึ้นมาได้เมื่อมุกจะเดินไปส่งที่รถ
“มุก/แม่มุก/แม่มุก” แพทกับหลานชายทั้งสองหน้าเง้าไม่พอใจ
“เมฆกับหมอกพาน้าแพทขึ้นห้องจะดีกว่าค่ะ” มุกลุกขึ้นยืน แล้วโน้มหน้าลงมาใกล้พูดเสียงกระซิบ ช้อนสายตามองหน้าอกของเพื่อน บอกเป็นนัยๆ ว่าแพทไม่ได้ใส่เสื้อใน และเสื้อยืดเนื้อบางๆ ก็เป็นรอยหัวนมเด่นชัด
“เฮ้ย!! แล้วทำไมมุกพึ่งบอกเล่า” แพทรู้แล้วว่าทำไมตรินต์ถึงหน้าแดง แต่ตอนนี้เป็นเธอเองที่หน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอาย และตอนนี้หน้าของเธอมันต้องแดงมากแน่ๆ แพทใช้สองมือปกปิดหน้าอกของตนเอง แล้วรีบวิ่งขึ้นห้อง
“อ้าว น้าแพท …แม่มุก” เมฆกับหมอกมองตามแบ็คที่เขินวิ่งหนีขึ้นบันไดไป มองหน้ากันเลิ่กลักว่าจะตามน้าแพทไป หรือจะตามแม่ไปเป็นก้างชิ้นโต และสองหนุ่มน้อยก็เลือกอย่างหลัง แม้จะพึ่งถูกทำโทษไปหยกๆ แต่เมฆก็หยิบฉวยมีดดาบของเล่น ส่วนหมอกคว้าปืนของเล่น วิ่งตามคนเป็นแม่ออกไป ทั้งสองตั้งท่าจังก้าเตรียมพร้อมเล่นงานตรินต์ หากเข้าใกล้แม่ของพวกตนมากเกินไป
“เอาออกมาให้หมดค่ะ ไม่งั้นก็ไม่ต้องไป” มุกยืนกอดอกมองลูกชายทั้งสอง เมฆกับหมอกค่อยๆ หยิบมีด ดาบ ปืน งู จิ้งจก ตุ๊กแก และของเล่นอีกสารพัดที่ทั้งสองคนใส่ในกระเป๋าเป้ วันนี้โรงเรียนหยุด ทั้งสองคนจึงร้องขอตามเธอไปคุยงานกับบริษัทที่ตรินต์แนะนำ ด้วยรับปากแข็งขันว่าจะไม่ดื้อ ไม่ซน จะเชื่อฟังแม่มุกทุกอย่าง จะอยู่กับพี่ปุ้ยไม่รบกวนแม่มุกคุยงาน
“หมดแล้วครับ” เมฆกับหมอกเปิดกระเป๋าเป้ที่ว่างเปล่าให้คนเป็นแม่ดู
“ในกระเป๋าเสื้อด้วยค่ะ” มุกชี้ไปที่กระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตของลูกชายอย่างรู้ทัน
“แม่มุกรู้ทันตลอดเลย” เมฆบ่นอุบ ล้วงแมลงสาบปลอมออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“หมดแล้วครับ” หมอกวางแมงมุมปลอมกองรวมกับของเล่นอื่นๆ แล้วดึงกระเป๋าเสื้อให้คนเป็นแม่ดูว่าไม่มีอะไรแล้ว เห็นดังนั้นมุกพร้อมลูกชายทั้งสองกับพี่เลี้ยงก็เดินทางไปยัง Captivating W Enticing Co.,Ltd บริษัทที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเธอได้อย่างครบถ้วน ส่วนแพทต้องเข้าร่วมซ้อมการหนีไฟประจำปีที่คลับที่เธอทำงานอยู่จึงไม่ได้ไปด้วย
“คนนี้กูจริงจังมากนะมึง” ตรินต์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สองมือวางเท้าบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของท่านประธาน ร้องขอให้คนเป็นเพื่อนออกหน้าช่วยพามุกชมการผลิตของโรงงาน ด้วยตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท
“คนนี้คือคนไหน กูก็เห็นมึงจริงจังทุกคน” วราพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก ก้มหน้าก้มตาจัดการกับเอกสารตรงหน้า
“ก็มุกไง มุกไหม คนที่กูเคยเล่าให้มึงฟังไง คนนี้กูโคตรจริงจังเลย” มุก วราสะดุดหูกับชื่อนี้ทุกครั้งที่เพื่อนเอ่ยถึง มันทำให้เขาคิดถึง…เธอ ในคืนนั้น หกปีแล้วที่เขาไม่เคยเข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงลืมผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ รอยยิ้มของเธอคล้ายจะตามหลอกหลอนให้เขาเฝ้าคิดถึงคะนึงหาอยู่ร่ำไป
“วรา วรา! วรา!! ไอ้วรา!!!” ตรินต์เรียกคนที่ชะงักนิ่ง ดังขึ้น ดังขึ้น และดังขึ้น
“อะไรของมึง” วราที่หลุดจากภวังค์เงยหน้ามองเพื่อนคิ้วขมวดยุ่ง
“มึงคิดอะไรอยู่ มึงลงไปหามุกกับกูเดี๋ยวนี้เลย”
“มึงจะให้กูลงไปทำไม แค่สั่งผลิตครีม เดี๋ยวฝ่ายขายก็ดำเนินการได้ หรืออยากวิเคราะห์สูตร พัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทกูก็มีทีมวิจัยและพัฒนาที่มากประสบการณ์ ทำตามความต้องการได้อยู่แล้ว ไม่ต้องถึงมือกูหรอก ก็แค่แม่หม้ายลูกติด มึงจะอะไรนักหนาวะ”
“ถึงมุกจะเป็นแม่หม้าย แต่มุกก็พิเศษกับกู”
“พิเศษกับมึง แต่ไม่ได้พิเศษกับกูนี่” วราวางปากกาเก็บที่ แล้วปิดแฟ้มเอกสาร ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หยิบสูทมาสวมด้วยท่าทางไม่ใส่ใจความร้อนรนของเพื่อน
“แต่กูเป็นเพื่อนรักมึงนะ”
“เหรอวะ มึงเป็นเพื่อรักกูเหรอวะ”
“ไอ้วรา ไอ้เพื่อนชั่ว…”
“เออๆ กูไปกับมึงก็ได้” วราขบขันที่แกล้งยั่วประสาทตรินต์ได้
“กวนตีนนะมึง”
“อยากจะเห็นหน้านักว่าจะสวยแค่ไหนกันเชียว ถึงทำให้มึงเป็นบ้าเป็นหลังยอมเปิดใจให้แม่หม้ายได้”
“สวยมากเลยละ มึงอย่ามาตกหลุมรักมุกของกูแล้วกัน”
“ไม่มีทาง คนอย่างกูไม่ยุ่งกับผู้หญิงของเพื่อนหรอกเว้ย” วรารู้จักตัวเองดี เหมือนที่รู้จักเพื่อนคนนี้ เช่นเดียวกับตรินต์ที่ก็รู้จักวราดี ต่างมั่นใจว่าเพื่อนจะไม่ยุ่งเกี่ยวหรือแอบมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงของเพื่อน