"อื้อ...อะอ่อย....นะหนู" น้ำเสียงหวานไม่อาจเอ่ยบอกได้ เมื่อคนใจร้ายพยามกระแทกจูบ บดขยี้เรียวปากนุ่มอย่างหึกเหิม พยามใช้ลิ้นสากบดเบียดเข้าด้านใน เธอรีบกัดเม้มปากแน่นอย่างขยะแขยง
~การกระทำของชายหนุ่มช่างเอาเปรียบคนไร้ทางสู้ ช่างไม่รู้เลยว่าสร้างความเกียจชังขนาดไหน~
"อื้ม..." ลำคอหนาเปล่งเสียงพอใจ ยามสัมผัสผิวสาวรสหวาน สองข้อมือเล็กโดนรวบไร้การหลบหนี แผงอกกว้างเปือยเกือบถึงหน้าท้อง ก้าวเดินดันร่างบอบบางชิดพนัง เร่งรุกล้ำเกี่ยวตวัดในโพรงปาก เหมือนเด็กสาวตัวสั่นเทิ่มกลั้นสะอื้น
ความรู้สึกเมามายหายเป็นปลิดทิ้ง ยามลิ้มรสหอมหวานในโพรงปากรอบที่สอง ดูดดึงลิ้นเล็กไม่รู้จักพอ จนมือหนาอีกข้างยอมปล่อยคางมน เลื่อนไปช้อนท้ายทอยหลอกล่อ แต่แล้วแก้มสากกลับสัมผัสความเปียกชื้นระลอกใหญ่ เลยถอนจูบออกเนิบช้า
"น่ารังเกียจที่สุดเลย" เค้กสบถถ้อยคำจากความรู้สึก ดวงตากลมแดงจัด ใบหน้าอาบด้วยน้ำตาเต็มแก้มเนียน ล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าลายการ์ตูน ในกระเป๋ากระโปรงปาดถูรอบริมฝีปาก กลับทำให้อีกฝ่ายประหม่า ยืนแน่นิ่งตั้งความคิดภายในใจ
"รีบไปซะก่อนฉันจะหมดความอดทน" ก็แค่ความต้องการนำพา อยากปลดปล่อยตามประสาชายมีอารมณ์ เหตุใดถึงรู้สึกผิดกับเด็กกะโปโล ทั้งที่ไม่ได้ใสซื่อเหมือนคนอื่นมอง
ท่อนแขนแกร่งยกขึ้น ใช้แขนเสื้อเชิ้ตดำเช็ดคราบน้ำลายบนปากหยัก รสชาติหอมหวานยังติดตรึง เขารีบล้วงเอาบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงหลัง จุดไฟแช็กสูบก่อนเข้าบ้านเบี่ยงเบน จนเหลือบมองห้องแม่บ้านมุมสุดท้าย เพิ่งเปิดไฟบ่งบอกว่ามีผู้อาศัยกลับมา
"เรียกราคาหน่ะสิไม่ว่า"
@ สองเดือนต่อมา
ช่วงเวลาหลังเลิกเรียน ต่างคนต่างกระตือรือร้นหาทางกลับบ้านไปพักผ่อน แต่ทว่ายังมีเด็กสาวชั้นมัธยมปลาย กำลังนั่งหน้างอระหว่างโทรหาบิดา เพราะนัดกันไว้ว่า จะไปธนาคารจ่ายดอกเบี้ยชำระหนี้ ครั้งเคยเอาที่ดินยื่นกู้ นำเงินก้อนเป็นค่ารักษามารดา
"พ่อผิดนัดหนูอีกแล้วนะ" ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับการรอคอยไร้เป้าหมาย ดูเหมือนผู้เป็นพ่อคงติดงานด่วน จนลืมรับสายลูกสาว ยังดีตรงที่ร้านอาหารสลับวันหยุดให้ เลยไม่ต้องลาเก้อเสียเวลาเปล่าประโยชน์
สองเท้าสวมใส่ผ้าใบขาวจนคุ้นชิน เร่งเดินมายังป้ายรถเมล์ แม้ท้องฟ้าเริ่มอึมครึมเพราะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนเต็มประดา แล้วดันก้ำกึ่งเวลาเลิกเรียนของเหล่านักศึกษาสายอาชีวะ ยืนพร้อมเพรียงเต็มริมฟุตบาท
"รอรถเมล์สายไหนจ๊ะคนสวย" ดั่งตามตำรำเวลาเจอหญิงสาวอายุน้อยกว่าต้องเอ่ยแซว ชายหนุ่มเสื้อชอปสภาพสะบักสะบอม สะกิดเพื่อนแถวนั้นมองดู
"รอพ่อมารับค่ะ" เด็กสาวตอบไปเพราะอายุน้อยกว่า ไม่ได้อยากมีปัญหากับพวกคนเกเร ที่ในมือยังถืออุปกรณ์ต่อสู้ คาดว่าพึ่งเสร็จจากการทะเลาะวิวาทกับคู่อริ พอมองเห็นที่นั่งว่าง ร่างบอบบางรีบตรงไปทิ้งกาย นำกระเป๋าเป้ปิดคลุมหน้าขา กันชายกระโปรงเปิดวับแวม
"ว้าว...น่ารักซะด้วย แถมพูดเพราะอีกมีแฟนหรือยังจ๊ะ" ชายหนุ่มคนนั้นยังไม่เลิกตามราวี แถมลากกลุ่มเพื่อนมายืนมองระยะใกล้ ส่งเสียงแซวต่อท้ายอีกด้วย
พอเห็นเหตุการณ์เริ่มไม่ดี มือบางรีบควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าบนหน้าตัก กดรหัสผ่านเร่งรีบ แล้วกดเบอร์โทรออกล่าสุด นั่นคือต่อสายหาบิดานั่นเอง
"ฮัลโหลพ่ออยู่ไหน" ยังไม่ทันที่อีกฝั่งจะพูดรับสาย น้ำเสียงหวานเร่งแทรกขัดเสียก่อน ทำกลุ่มคนเกเรยืนนิ่งรอฟังบทสนทนา
~พ่อกำลังไปรับ รออีกแป๊บเดียวนะ~
"หนูออกมารอหน้าป้ายรถเมล์แล้ว รีบมานะคะ หนูกลัวฝนตก" น้ำเสียงหวานย้ำในประโยคสุดท้าย แม้ไม่ได้กลัวเวลาฝนตกขนาดนั้น หากบอกความจริงไป พวกชายกลุ่มนี้อาจได้ใจ อยู่แกล้งเธอต่อกว่าบิดาจะมาถึง
"ให้พวกพี่นั่งรอด้วยไหมเอ่ย" ยังอุตส่าห์มีน้ำใจ โบกมือบอกเพื่อนๆนั่งลงที่ว่างตาม ทั้งๆที่เด็กสาวไม่ได้ขอร้องเลย นอกจากภาวนาให้พวกเขารีบไปซะที
"ไม่เป็นไรค่ะ"
"เรามารอตรงนี้ทุกวันไหม"
"ไม่ค่ะ" ใบหน้าใสก้มอย่างไม่สนใจ กดโทรศัพท์อ่านบทความเตรียมทำรายงาน ทั้งๆที่ไม่มีสมาธิจดจ่อ ยังบริเวณนี้มีผู้คนพลุ่งพล่าน เกิดอะไรขึ้นแค่ส่งเสียงร้องดังๆน่าจะพอ
"น้องชื่ออะไรหรอจ๊ะ เรายังไม่รู้จักกันเลย"
"......." ความอดทนกำลังอดกลั้น ปิดเปลือกตาสูดลมหายใจ กดปิดหน้าจอเครื่องมือสื่อสาร ฝืนอ่านต่อไปก็จำไม่ได้อยู่ดี
"ขอเบอร์ไว้คุยเล่นๆกันดีไหม พวกพี่ดูแลเก่งนะ" ชายหนุ่มเกเรยังขอยืมโทรศัพท์ คาดว่าน่าจะเป็นเครื่องราคาแพงสุดในกลุ่ม ยื่นมากดดันด้านหน้าเด็กสาว เกือบเฉี่ยวผ่านลำตัวบอบบาง
"......" เมื่อความอดทนขาดสะบั้น เค้กกระชากตัวลุกพรวดพราด กระเป๋าเป้สะพายเกือบโดนข้อมือชายเกเร เขารีบโยนส่งคือให้เพื่อน แต่ยังไม่เลิกวอแววเด็กสาวอีก
เอี๊ยดดด~~~~(เสียงรถเบรกลากยาว)
....................................
#รบกวนนักอ่านทุกท่านช่วยกดถูกใจ กดรีวิวด้วยคนับ เพื่อดันเรื่องนี้เปิดการมองเห็น???
ใครตามมาจากเรื่องเฮียซายน์คอมเม้นท์บอกหน่อยเร็ว