“ป้านวลคะ... พี่อรไปไหน”
สาวน้อยใบหน้าสะสวยสะดุดตาในชุดนักเรียนถามหาพี่สาวในทันทีที่กลับมาถึงบ้าน สองมือหอบตำราเล่มหนาแนบเอาไว้กับอก
“ตอนนี้คุณอรคงกำลังอยู่ในห้องนอนกับคุณดำน่ะค่ะคุณพิมพ์... อะคริคริ”
ป้านิ่มตอบแล้วก็หัวเราะ ขณะกำลังทำอาหารอยู่ในครัว
คุณ ‘ดำ’ ที่ป้านิ่มเอ่ยถึงก็คือชื่อเล่นของ ‘อดัมส์’ เศรษฐีหนุ่มใหญ่ลูกครึ่งอิตาลีรูปหล่อ วัยเกือบสี่สิบปีผู้เป็นเจ้าของบ้านหลังใหญ่ราวกับคฤหาสน์หลังนี้ อดัมส์เป็นสามีของ ‘อรทัย’ ที่ป้านิ่มเรียกชื่อสั้นๆ ว่า ‘คุณอร’
“อุ๊ย... วันนี้คุณดำกลับมาแล้วหรือคะป้า”
สาวน้อยดีใจจนออกนอกหน้าเมื่อได้ยินป้านิ่มเอ่ยถึงพี่เขยสุดหล่อ
“ก็ใช่น่ะสิค่ะ... คุณดำเพิ่งมาถึงเมื่อบ่ายนี้เอง”
“แล้วทำไมคุณดำไม่บอกล่วงหน้าคะว่าจะกลับมาวันนี้”
พิมพ์ลดานึกสงสัย
“คงอยากเซอร์ไพรส์มั้งคะ... คุณดำก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ เอาแน่เอานอนไม่ได้”
ป้านิ่มตอบอย่างคนที่รู้จักเจ้านายคนนี้เป็นอย่างดีเพราะแกอยู่รับใช้ในบ้านหลังนี้มานานหลายปี
ทุกวันนี้อดัมส์มีธุรกิจในต่างประเทศหลายอย่างให้ต้องดูแล ทั้งโรงแรมและรีสอร์ตที่ตั้งอยู่ในเมืองท่องเที่ยวชื่อดังหลายภูมิภาคทั่วโลก
“คุณพิมพ์หิวมั้ยคะ”
ป้านิ่มทำท่าว่าจะเตรียมของว่างให้สาวน้อยที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียน
“ไม่ต้องค่ะป้า... เดี๋ยวพิมพ์ว่าจะนอนพักสักครู่ วันนี้สอบเสร็จแล้วค่ะ รู้สึกปวดศีรษะนิดหน่อย”
วันนี้เป็นการสอบวันสุดท้ายของหญิงสาว ก่อนจะอำลาชีวิตนักเรียนมัธยม หลังจากต้องคร่ำเคร่งอยู่กับการอ่านหนังสือสอบมาตลอดสัปดาห์ก่อนจบชั้นมอหก จากนี้ก็ต้องเตรียมตัวสอบเอ็นทรานส์เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยต่อไป
“ทานยาแล้วนอนพักนะคะคุณพิมพ์”
ป้านิ่มเป็นห่วง แม้ว่าพิมพ์ลดาซึ่งเป็นน้องเมียเจ้าของบ้านจะเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ของอดัมส์ได้ไม่นานก็ตาม แต่ด้วยความที่พิมพ์ลดาเป็นคนน่ารัก ร่าเริงแจ่มใสและมีอัธยาศัยไมตรีต่อทุกคนในบ้าน ทำให้ป้านิ่มรักและเอ็นดูพิมพ์ลดาไม่น้อยไปกว่าอรทัยผู้เป็นพี่สาวของหล่อน
“ป้านิ่มจ๊ะ... เมื่อสองวันก่อนมีโมเดลลิ่งโทรมาหาพิมพ์ค่ะ... อยากให้พิมพ์ไปเทสต์หน้ากล้องดูตัวจริง”
เมื่อหลายวันก่อนพิมพ์ลดาเคยส่งรูปถ่ายเข้าไปที่เวปไซต์โมเดลลิ่งชื่อดังแห่งหนึ่งพิจารณา และความสะสวยของหล่อนก็สะดุดตาเอเจนซี่โฆษณารายหนึ่งเข้าอย่างจัง ทางโมเดลลิ่งก็เลยโทรกลับมาตามให้หล่อนไปเทสต์หน้ากล้อง
“อุ๊ย... แบบนี้ก็ดีสิคะ โมเดลลิ่งอะไรนี่มันเหมือนพวกแมวมองมั้ยคะหนูพิมพ์... ”
ป้านิ่มย่นหน้าผากสงสัย เอาใจเชียร์ อยากให้พิมพ์ลดาได้เป็นดารา
“จะว่าไปก็คล้ายๆ กันน่ะค่ะ โมเดลลิ่งเป็นสาขางานอย่างหนึ่งเกี่ยวกับวงการนางแบบนายแบบ แมวมองก็ไม่ต่างกันค่ะ เพราะว่าคอยมองหานางแบบกับนักแสดงเหมือนกัน”
พิมพ์ลดาอธิบาย
“ว้าว... แบบนี้คุณพิมพ์จะมีโอกาสได้เป็นนางเอกละครไหมคะ... ว้าว”
ป้านิ่มที่ติดละครหลังข่าวงอมแงมแสดงอาการตื่นเต้นอย่างออกนอกหน้า อดคิดไม่ได้ว่าคงจะดีไม่น้อยถ้าคนรู้จักอย่างพิมพ์ลดาได้เป็นดาราขึ้นมาจริงๆ
“อีกไกลจ้ะ ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอกจ้ะป้า... เพราะว่าพิมพ์จะต้องไปเทสต์หน้ากล้องก่อน ถ้าผ่านก็น่าจะมีงานตามมา”
พิมพ์ลดาเอ่ยขึ้นอย่างมีความหวัง
“ว้าว... แบบนี้ก็ดีสิคะ ป้าเชื่อว่าคุณพิมพ์ต้องผ่านอยู่แล้วละค่ะ ก็สวยขนาดนี้ ออร่าเจิดสรัสขนาดนี้ ราศรีดาราจับค่ะ... รู้ตัวหรือเปล่าคะ”
ป้านิ่มรู้ว่าตัวเองไม่ได้พูดเกินเลยไปจากความเป็นจริง เพราะว่าพิมพ์ลดาเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ใบหน้ารูปไข่ ตาคม จมูกโด่ง ผมดำ ผิวพรรณเปล่งปลั่งสะอ้านสะอาด ช่วงขาเรียวยาวเหมือนพวกนางแบบ
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกจ้ะป้า... พิมพ์ก็ยังกังวลอยู่ว่าควรจะบอกเรื่องนี้กับพี่อรดีไหม?”
“ทางที่ดีป้าว่ายังไม่ต้องบอกหรอกค่ะ”
ป้านิ่มแนะ
“นั่นน่ะสิคะ... คิดอยู่เหมือนกัน รายนั้นหัวโบราณ คิดว่าพี่อรคงไม่ชอบ แล้วคุณดำก็คงไม่ชอบเหมือนกัน”
พิมพ์ลดายังไม่ลืมเหตุการณ์เมื่อครั้งที่แล้ว ตอนนั้นหล่อนได้รับเลือกให้เป็นเชียร์ลีดเดอร์กีฬาสีของโรงเรียน แต่สุดท้ายก็มีอันต้องล้มเลิก เพราะว่าพี่เขยกับพี่สาวไม่ชอบให้หล่อนใส่กระโปรงสั้นๆ ออกไปเต้นแร้งเต้นกาต่อหน้าผู้คน
“ถ้าเทสต์หน้ากล้องผ่านก็คงดี... พิมพ์จะได้มีเงินเก็บสักก้อน จะได้ไม่ต้องเป็นภาระให้คุณดำมารับผิดชอบเรื่องค่าเล่าเรียน”
นี่คือเหตุผลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความพยายามของพิมพ์ลดา ที่อยากหางานพิเศษทำ หล่อนคิดมาตลอดว่าสักวันหนึ่งจะหาเงินเลี้ยงตัวเองให้ได้
“โอ๊ย... อย่าไปคิดว่าเป็นภาระเลยนะคะ... คุณดำออกจะรวย ส่งเสียน้องเมียเรียนหนังสือแค่นี้ขนหน้าแข้งคุณดำไม่ร่วงหรอกคะ”
“แต่พิมพ์ก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี”
“ไม่เอา... อย่าคิดมากสิคะ คุณพิมพ์ไม่ได้เป็นภาระใครหรอกค่ะ ทุกวันนี้ก็ช่วยงานบ้านจนป้าเกรงใจจะแย่”
ป้านิ่มกล่าว นึกชื่นชมในความขยันของพิมพ์ลดา
“พิมพ์อยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ค่ะป้า ไม่อยากอยู่เฉยๆ”
หญิงสาวสำนึกในความกรุณาของเจ้าของบ้าน งานอะไรที่ช่วยได้พิมพ์ลดาไม่เคยเกี่ยง
ทั้งที่อดัมส์ก็เคยออกปากห้ามหล่อนมาทำงานของคนใช้ เพราะว่าพิมพ์ลดามีฐานะเป็นน้องสาวของภรรยาเจ้าของบ้าน แต่พิพ์ลดาก็ยังแอบช่วยงานครัวเรื่อยมา
“สักวันถ้ามีเงินสักก้อน... พิมพ์จะย้ายออกไปเช่าบ้านอยู่เอง”
เรื่องนี้พิมพ์ลดาคิดมาตลอด มันเป็นแรงผลักดันที่ทำให้หล่อนพยายามหางานพิเศษ
“โถ... ทำยังกับว่าคุณดำกับคุณอรจะยอม”
ป้านิ่มรู้ว่าอรทัยรักและห่วงน้องสาวคนนี้มาก