วันต่อมา
โกดังใหญ่
"นายจะให้ผมจัดการกับพวกมันยังไง"
"ส่งของขวัญไป"
"ที่บ้านหรือบริษัทดี"
"บ้านก็พอ" เพราะถ้าไปถึงบริษัทเขากลัวว่าคนที่นั่นจะแตกตื่นจนไม่กล้ามาทำงาน ในเมื่อมันไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้ ล้ำเส้นเขาเป็นครั้งที่สอง แล้วทำไมเราต้องรักษาสัจจะที่เคยให้ไว้ด้วยล่ะ เขาเป็นพวกคำไหนคำนั้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่รักษาสัญญา เขาจะถือว่าเป็นโมฆะทันที
"รับทราบครับ"
"พรุ่งนี้ไปส่งของแทนกู"
"แล้วนาย.."
"กูมีธุระสำคัญ"
"จริงสิ ว่าแต่ผู้หญิงคนที่นายไปส่งเมื่อคืนใครเหรอครับ ดูแสบดี"
"....." ผืนป่าตวัดสายตามองลูกน้องตัวเองนิ่ง เดี๋ยวนี้มันไปเอานิสัยขี้เสือกมาจากใคร ไม่ยักรู้ว่าสนใจเรื่องของคนอื่นด้วย แต่ถึงมันอยากรู้เขาก็ไม่ตอบให้หรอกนะ เพราะผู้หญิงแบบนั้นไม่มีค่าให้ต้องพูดถึง
"อ่า~ หึหึ"
"มึงหัวเราะทำไม"
"เปล่า" สกายตอบเสียงลากยาว ก็รู้แหละว่ายังไงก็ไม่ได้คำตอบจากเจ้านาย แต่มันก็อดกวนไม่ได้
หลังจากที่ลูกน้องออกไป ภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ จู่ ๆ ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัว คำพูดและท่าทางน่ารำคาญของเธอทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ไม่เคยพบเคยเจอผู้หญิงคนไหนน่ารำคาญเท่านี้มาก่อน เหมือนลิงกับชาติมาเกิดยังไงก็ไม่รู้ เป็นลิงสายพันธุ์นกแก้วที่มีเสียงน่ารำคาญ ใครได้เป็นเมียคงโชคร้ายอยู่ไม่น้อย
ณ คฤหาสน์หลังหนึ่ง
"จะไปไหน" น้ำเสียงทุ้มต่ำดังมาจากด้านหลัง ทำเอาร่างเล็กที่กำลังจะก้าวออกจากบ้านหยุดชะงักไปทันที ก่อนที่ใบหน้าสวยจะหันกลับไปมอง
"ไปข้างนอกค่ะ" พร้อมกับตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน
"ไปหาใคร"
"เพื่อนเซย์สิ"
"เฮียอนุญาตยัง"
"แต่นั่นมันเพื่อนเซย์นะ!" เฮียเธอต้องบ้าไปแล้วแน่เลย เข้าใจแหละว่าหวงน้องสาว แต่จะหวงเธอกับเพื่อนไม่ได้ มันไม่ใช่! อีกอย่างเพื่อนเธอก็เป็นผู้หญิงด้วย ชาตินี้กะจะไม่ให้เธอมีแฟนเลยมั้ง
"รู้ว่าเพื่อนแต่มีผู้ชายหรือเปล่า" ว่าแล้วเชียวต้องถามคำถามนี้ จะให้ใครมาคบเธออีกล่ะ แค่ผู้ชายมองยังไม่มีใครกล้าเลย นับประสาอะไรที่จะมาคบเป็นเพื่อนเป็นแฟน
"ให้คนไปด้วย"
"เฮียช่วยเข้าใจเซย์หน่อยได้ไหม"
"แล้วเซร่าไปไหน" นั่นไง พอเธอเริ่มหงุดหงิดเฮียก็เปลี่ยนเรื่องใหม่ทันที แล้วมักจะเป็นแบบนี้เสมอ ถามว่าถึงขั้นโกรธไหมที่เฮียตัวเองเป็นแบบนี้ มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอก มันเป็นอารมณ์หงุดหงิดมากกว่า ที่ไม่ว่าเราจะทำอะไรหรือไปไหนก็ต้องคอยมีคนตามไปด้วย เธอแทบไม่มีอิสระติดตัวเลยตอนนี้ ส่วนเซร่าน้องสาวเธอน่ะเหรอ รายนั้นก็พอ ๆ กับเธอแหละ แต่นิสัยเซลีนจะเป็นพวกไม่ยอมคนเลยไม่ค่อยกลัวใครสักเท่าไหร่ ผิดกับน้องสาวที่ไม่สู้คนเอาเสียเลย
"พาเซลีนไปหาเพื่อน"
"ครับนาย"
"เฮ้อ" เธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างจำนน งั้นก็คงต้องยอมไปก่อน คิดเสียว่ามีคนไปช่วยถือของก็แล้วกัน เมื่อตกลงกับเฮียได้แล้วเซลีนก็รีบให้คนบึ่งรถไปหาลูกพีชทันที ป่านนี้คงคอยทางแย่แล้ว
ช่วงเย็น
"พรุ่งนี้นายจะเข้าบริษัทไหมครับ" หลังจากเคลียร์งานบางส่วนไป ได้เวลาพักสกายก็เข้ามาถามเจ้านายตัวเองที่อยู่ในห้อง
"ไม่" วันนี้กับพรุ่งนี้เขามีนัดแล้ว ต้องกลับบ้านไปหาใครบางคนที่กำลังรออยู่ ไม่รู้ว่างอนไปแล้วหรือยังที่ไปหาช้า
"เดี๋ยวผมให้คนขับรถให้" เนื่องจากสกายต้องเคลียร์งานต่อ จึงจำเป็นต้องให้ลูกน้องอีกคนเป็นคนขับรถให้ คืนนี้เขาน่าจะดึกเลย
"ไม่ต้อง"
"แล้วนาย.."
"กูจะไปซื้อของให้ฉลามก่อน"
เวลาต่อมา..
บ้านผืนป่า
ตึก ตึก
ผืนป่าก้าวเข้ามาในตัวบ้าน เขายืนนิ่งอยู่กับที่ กวาดสายตามองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นเป้าหมายก็ตรงดิ่งไปหาทันที
"ทำอะไรอยู่"
"พี่ผืนป่า^^"
"คิดถึงไหม"
"คิดถึงมากครับ"
"อยากได้เหรอ"
"อืม" พยักหน้ารัว ๆ
"พรุ่งนี้พาไปดูเอาไหม"
"...." แววตาเด็กหนุ่มเป็นประกายวิบวับเมื่อรู้ว่าจะได้ไปดูสิ่งที่ตนชอบ แล้วใจตอนนั้นเอง..
"อ้าวคุณผืนป่า" ขยับสายตามองไปยังเจ้าของเสียง
"วันนี้เขาเป็นยังไงบ้าง"
"วันนี้ไม่หงุดหงิดเลยค่ะ นั่งดูรถทั้งวัน รู้สึกว่าวันนี้จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษด้วย" อารมณ์ดีงั้นเหรอ ผืนป่าเหลือบมองเสี้ยวใบหน้าของเด็กหนุ่มด้วยแววตาอบอุ่น ทุกคนคงจะสงสัยว่าบทสนทนาที่เขาและพี่เลี้ยงกำลังคุยกันอยู่นั้นคืออะไร และเด็กหนุ่มที่ว่านั้นคือใคร
ฉลาม หนุ่มน้อยวัย 19 ปี ฉลามคือน้องชายผืนป่า ไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เป็นเด็กที่เขาเอามาเลี้ยงดูหลังจากที่ครอบครัวหนีไปพร้อมกับเงินของเขา เมื่อก่อนพ่อแม่ฉลามทำงานในบริษัทเขา แม่ฉลามเป็นพนักงานบัญชี ส่วนพ่อเป็นหัวหน้าฝ่ายจัดซื้อ แต่แล้วคนพวกนั้นกลับไม่รักดี ช่วยกันปกปิดยักยอกเงินบริษัท สูญไปกว่า 500 ล้านบาท ด้วยความเชื่อใจและไว้ใจคนทั้งสองมาก ทำให้เขาพลาดเรื่องนี้ไปจนได้ เมื่อทราบตัวคนทำ ผืนป่าและลูกน้องก็ตามไปถึงบ้านคนพวกนั้น แต่มันก็ช้าไปเมื่อพวกมันพากันหนีไปแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เขาโกรธมากกว่าเรื่องเงิน ทั้งสองทิ้งลูกวัย 10 ขวบไว้ในบ้านตามลำพัง หากวันนั้นเขาไม่ไปเจอเสียก่อน เด็กน้อยจะเป็นยังไง ผืนป่าตัดสินเอาฉลามกลับมาด้วย ตอนแรกไม่คิดจะเลี้ยงลูกของคนทรยศ แต่พอได้อยู่ด้วยกัน ฉลามดูร่าเริงขึ้น ถึงจะมีถามหาพ่อกับแม่ตัวเองบ้าง แต่ตอนนั้นเปมนีย์ดูแลฉลามเป็นอย่างดี ทำให้เด็กน้อยยิ้มได้ ผืนป่าที่เห็นฉลามก็นึกถึงตัวเองในวัยเด็ก มันเหมือนว่าเขากำลังมองตัวเองอยู่ยังไงไม่รู้ แต่มีหนึ่งสิ่งที่เราไม่เหมือนกัน
ฉลามเป็นเด็กพิเศษ หรือออทิสติกนั่นเอง ไม่สามารถเข้าสังคมได้เหมือนกับคนทั่วไป ฉลามค่อนข้างเป็นเด็กเงียบ ถามอะไรไม่ค่อยตอบ ไม่สบตา และจดจำเฉพาะสิ่งที่ตัวเองสนใจเท่านั้น ยอมรับว่าช่วงแรกมันเป็นอะไรที่ลำบากมาก ผืนป่าจึงตัดสินใจจ้างพยาบาลมาช่วยดูแล คอยหาสิ่งมาเสริมสร้างพัฒนาการให้กับเด็กคนนี้ พอเวลานานเข้า ก็ทำให้เขาเลือกจะไม่ปล่อยฉลามไป ผืนป่าจึงบอกพ่อกับแม่ว่าจะเลี้ยงเด็กคนนี้เอง จากนั้นเขาก็เริ่มศึกษาการเลี้ยงดูกับหมอ ไปหาวิธีต่าง ๆ ว่าต้องทำยังไง ต้องใช้วิธีพูดแบบไหนกับเขา ต้องคุยเรื่องอะไร จนตอนนี้ผืนป่ากลายเป็นคนที่เข้าใจฉลามมาก ๆ ทั้งพรเกียรติและเปมนีย์เองก็ด้วย
ส่วนเรื่องเรียน ผืนป่าเคยส่งฉลามไปเรียนแล้ว อยากฝึกเขาให้ลองเข้าสังคมดูบ้าง แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจสักเท่าไหร่ เมื่อฉลามถูกเพื่อนรุ่นพี่แกล้งโดยการให้กินของตกพื้น จับขังในห้องน้ำเก่า รุมทำร้ายร่างกายจนตอนนั้นฉลามกลายเป็นเด็กหวาดระแวงไปเลย ไม่กล้าเข้าหาคน พอเจอคนเยอะหน่อยก็กลัว นั่นจึงเป็นสาเหตุทำให้ผืนป่าไม่ปล่อยให้ฉลามออกไปด้านนอก จ้างครูมาสอนที่บ้านแทน ส่วนเด็กเปรตพวกนั้น เขาได้สั่งสอนด้วยการแจ้งผู้อำนวยการขอให้ทำโทษโดยพักการเรียน ถูกอบรบวินัยไปพักใหญ่ พ่อแม่เด็กเหล่านั้นต่างไม่พอใจกันเป็นอย่างมา ยกโขยงมาโวยวายเรื่องที่เขาทำกับลูก ๆ ของตน แต่แล้วยังไง ดีแค่ไหนที่ไม่ส่งลูกน้องไปกระทืบเรียงตัวเหมือนที่พวกมันทำกับฉลามน้องเขา
"เตรียมสถานที่ไว้แล้วใช่ไหม" ผืนป่าถามพี่เลี้ยงฉลาม วันนี้จะมีปาร์ตี้เล็ก ๆ ของครอบครัวเรา
"เรียบร้อยค่ะ"
"เดี๋ยวฉันพาเขาไปอาบน้ำก่อน" ทั้งสองมักจะอาบน้ำพร้อมกัน แต่บอกก่อนว่าห้องน้ำบนห้องผืนป่าสั่งให้ทำใหม่แบบพิเศษ เพิ่มขนาดให้ใหญ่กว่าเดิม จากที่ตอนแรกมีห้องน้ำแค่ห้องเดียว เขาทำใหม่โดยทำเป็นสองล็อกแล้วใช้ม่านกั้นเอา เพราะฉลามก็เริ่มโตแล้ว จะให้อาบแบบเปิดเผยก็คงไม่ได้ ตอนนี้ก็กำลังฝึกให้เรียนรู้ชีวิตในแต่ละวันไป ยอมรับว่าฉลามเก่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เริ่มรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่เรื่องอารมณ์ยังมีอยู่บ้าง ฉลามยังแยกแยะไม่ออกว่าอันไหนแรงอันไหนเบา ต้องค่อย ๆ สอนไป ต้องบอกก่อนเลยว่าเด็กออทิสติกแต่ละคนจะมีนิสัยแตกต่างกันไป ฉะนั้นจะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้เด็ดขาด
"ให้ดิฉันทำดีกว่าไหมคะ คุณผืนป่าเดินทางมาเหนื่อย ๆ ด้วย"
"ไม่เป็นไร" จากนั้นผืนป่าก็พาฉลามขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวลงมาร่วมปาร์ตี้กับคนอื่น ๆ