พยัคฆ์แห่งพงไพรจ้องมองนักล่าแห่งรัตติกาลนิ่งงัน มือใหญ่ข้างหนึ่งเคลื่อนออกจากขอบถังมาสัมผัสเข้าที่ลำคอเรียวหงษ์ผุดผ่อง แสงจากเปลวเทียนวูบไหวสะท้อนกับหยดน้ำที่เกาะติดอยู่จนร่างบางดูเย้ายวนขึ้นมาโดยปริยาย ความร้อนผ่าวจากปลายนิ้วสัมผัสลงบนลำคอเล็กก่อนจะเริ่มลูบคลำ ไม่นานนักก็สัมผัสเข้ากับขอบหน้ากากหนังมนุษย์ที่แนบอยู่บนผิวนุ่ม เขาเชื่อมั่นในลางสังหรณ์ของตนเอง ในเมื่อมันร้องบอกออกมาแล้วว่าคนผู้นี้คือ ‘นาง’ เขาก็มั่นใจว่ามันต้องใช่! ครั้นท่านอ๋องห้าทรงบรรจงถอดหน้ากากออก ชายหนุ่มหน้าหยกก็กลายเป็นโฉมสะคราญที่คุ้นเคย “ไม่ได้พบกันนาน ดวงตาเจ้ายังงดงามไม่เปลี่ยน” ถ้อยคำหวานหู ส่งผลให้ผู้ที่ไม่อาจบิดพลิ้วได้อีกส่งเสียงออกมาให้ได้ยินเป็นครั้งแรก “ท่านอ๋องห้าแห่งแคว้นอู๋ช่างมีความสามารถในการเกี้ยวนารีเสียจริง” นางเอ่ยพลางเค้นยิ้มบางที่มุมปาก สีหน้าแววตาแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามิได้เคลิบเคลิ้มกับคำห