บทที่ 1(1)

1279 Words
โปรย... ท่ามกลางชีวิตที่แสนสงบสุขของสาวบ้านป่าตัวเล็กคนหนึ่ง กำลังจะเปลี่ยนไปอย่างไม่มีทางหวนกลับมาเป็นแบบเดิมได้อีก เมื่อวันหนึ่งเสียงประหลาดฉุดกระชากความอยากรู้อยากเห็นให้เธอเดินตามเข้าไปอย่างไม่หวั่นเกรง หลังพุ่มไม้รกทึบที่ไม่เคยมีผู้คนเดินเข้ามา ร่างแกร่งของบุรุษที่แสนกำยำกำลังโยกโยนอย่างหลุดลอยบนร่างของสาวอวบแสนสวย กิจกรรมเสพสุขทางเพสรสที่สาวบ้านป่าไม่เคยได้เจอะเจอ ภาพแผ่นหลังแกร่งชุ่มเหงื่อกับเสี้ยวหน้าคมยังคงติดตาไม่เคยลืมเลือน มันถูกฝังแน่นอยู่ในความทรงจำของสาวน้อยจนกระทั่งวันหนึ่ง กลุ่มคนแปลกหน้าเดินทางเข้ามาเพื่อพาเธอออกไปสู่โลกภายนอก ชายหนุ่มเจ้าของไร่ผู้เปี่ยมไปด้วยพลัง กำลังกลายเป็นคนอ่อนแอเพียงแค่ได้เห็นดวงตากลมของสาวน้อยบ้านป่า พละกำลังที่เคยมีราวกับถูกสูบออกจากร่างไปจนหมดไม่มีเหลือ สาบานได้ว่าเขาจะใช้ความช่ำชองทั้งหมดที่มี เก็บกักเธอไว้ในอ้อมแขนเขาตลอดกาล เพียงแค่เสี้ยวหน้าหวานปรากฏต่อสายตา ชายหนุ่มบอกตัวเองว่าหล่อนผู้นี้เป็นของเขา ผู้ชายคนเดียวที่มีสิทธิ์เหนือร่างเธอคือเขาเท่านั้น! “สวยมากนายา สวยเหลือเกินสาวน้อย” มือหนาสะบัดเสื้อเชิ้ตออกไปกองไว้ที่พื้น แล้วหันมาปลดปมผ้าซิ่นที่สาวน้อยของเขาชอบใส่ ไม่นาน ปราการสีซีดก็ลงไปกองเป็นวงกลมอยู่แทบปลายเท้าเล็กของผู้เป็นเจ้าของ “เป็นเมียฉัน! นายา เธอต้องเป็นเมียฉันคนเดียวเท่านั้น จำไว้” สายตามืดดำเต็มไปด้วยความปรารถนาอยากจะครอบครองเป็นเจ้าของ โลมเลียไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของสิ่งมีชีวิตเพศหญิงที่สมบูรณ์แบบราวกับถูกช่างฝีมือดีปั้นแต่งขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ “ค่ะ นายาเป็นของนาย” สาวน้อยหลุดเสียงเบาราวกับคนละเมอ... //////////////////////////////////////////////////////////// @สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 @สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558(ฉบับเพิ่มเติม) ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดเพื่อสร้างฐานข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เป็นลายลักษณ์อักษรแล้วเท่านั้น /////////////////////////////////////////////////////////// สองขาเรียวภายใต้ผ้าซิ่นสีซีด เดินทอดอารมณ์พิศมองหมู่มวลธรรมชาติที่รายล้อมอยู่รอบตัวด้วยหัวใจชื่นบาน ใบหน้าหวานภายใต้ผ้าคลุมสีหม่น เงยขึ้นหันมองไปตามเสียงเล็กๆ ที่ดังอยู่บนกิ่งไม้ พลางริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอย่างยินดีเมื่อเห็นเจ้านกตัวเล็กๆ สองตัวกำลังส่งเสียงหยอกล้อกันอย่างร่าเริงภายใต้บรรยากาศสดชื่นหลังจากฝนตกหนักไปเมื่อครู่ “มีความสุขล่ะสิ” เอ่ยทักทายเจ้าตัวเล็กที่ยืนเกาะอยู่บนกิ่งไม้ และเสียงเจื้อยแจ้วนั่นตอบกลับมาราวกับจะบอกเธอว่ามันกำลังมีความสุขจริงๆ หญิงสาวตัวเล็กส่ายหน้าเบาๆ กับกิริยาท่าทางนั้น แล้วออกเดินต่อไปยังทิศทางที่จะนำไปสู่บ้านหลังน้อยกลางป่าทึบที่เธอและพ่ออาศัยอยู่มานานตั้งแต่จำความได้ ทางเดินดินที่สองเท้าเล็กเดินย่ำเบาๆ ชุ่มฉ่ำไปด้วยร่องรอยของสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาตั้งแต่เช้ามืด ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากถ้าไม่อยากลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ในโคลนสีแดงข้นควักนั่น ระหว่างทางหญิงสาวก้มลงเด็ดผักตำลึงที่ขึ้นอยู่ตามข้างทาง ทอดตัวเลื้อยอยู่บนพื้น อวดยอดอ่อนชูช่อจนนึกถึงแกงจืดตำลึงในน้ำซุปร้อนๆ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับอากาศเย็นๆ หลังฝนตกแบบนี้ มือบางสองข้างเอื้อมออกไปจนสุดแขน เพื่อเด็ดเจ้ายอดอ่อนที่อยู่ไกลออกไปไม่มากนัก มือข้างหนึ่งเท้าไว้กับต้นไม้ อีกข้างออกแรงดึงไม้เลื้อยกินได้ที่เป็นของโปรดเข้ามาหาตัวอย่างแรง พร้อมกับเด็ดเฉพาะยอดอวบและมีใบอ่อนเท่านั้น พอเก็บได้เต็มกำมือก็หันมาวางในตะกร้าหวายใบเล็กที่วางอยู่ข้างตัว สายตากวาดมองไปรอบๆ เพื่อจะดูว่าในบริเวณนี้ยังหลงเหลือพอให้เธอเก็บอีกไหม พลันเสียงดังแว่วๆ ที่ลอยเข้ามาปะทะกับโสตประสาทการได้ยินทำให้คิ้วเรียวต้องขมวดมุ่นด้วยความสงสัย ร่างบางก้มลงหยิบตะกร้าที่บรรจุไปด้วยพืชผักหลากหลายชนิดซึ่งหญิงสาวเก็บได้ระหว่างทางพลางยืดลำตัวขึ้นตรง แล้วหันไปมองยังทิศทางซึ่งคิดว่าเป็นที่มีของเสียงเมื่อครู่ สมองน้อยๆ กำลังถามตัวเองกลับไปกลับมาว่าจะเดินตามเสียงนั้นไปดีหรือไม่ ใจหนึ่งอยากจะเข้าไปดูให้รู้ว่าเสียงครวญครางเบาๆ ที่ดังอยู่นั้นคือเสียงอะไรกันแน่ แต่อีกใจก็นึกกลัวหากเป็นโจรผู้ร้ายหรือสัตว์ใหญ่ที่กำลังออกหากินเธออาจเป็นอันตรายได้ แต่เนื่องด้วยเธอใช้ชีวิตอยู่ในป่าแห่งนี้มาตั้งแต่เกิด เรื่องอันตรายจากสัตว์ป่านั้นเป็นไปไม่ได้เลย เพราะในบริเวณนี้ไม่เคยมีสัตว์ใหญ่เข้ามาหากินมาก่อน แต่เรื่องโจรผู้ร้ายนี่สิที่เธอนึกกลัว แม้ไม่เคยมีแต่ใช่ว่าจะไม่มี! ขณะที่กำลังคิดวุ่นวายอยู่นั้น สองเท้าก้าวเดินช้าๆ ตามเสียงนั้นไปซะแล้วอย่างไม่รู้ตัว “โอว...แรงๆ...ดูดแรงๆ...มันส์เป็นบ้าเลย” เสียงทุ้มครวญครางที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ขณะหญิงสาวเดินเข้าไปนั้น ทำให้ร่างบางชะงักกึกอยู่กับที่ ดวงตาหวานเบิกโพลงด้วยความตกใจ “นายจ๋าเป็นยังไงจ๊ะ ชอบไหม...ดูดแบบนี้เสียวไหมนาย” เสียงกระเส่าหวานเพิ่มมาอีกหนึ่งเสียง ทำให้เธอเดาว่าหลังพุ่มไม้นั่นคงมีคนอย่างน้อยสองคน แต่จะเป็นใครก็สุดจะคาดเดาได้เพราะตั้งแต่อยู่ที่นี่มานานเธอไม่เคยเห็นใครเข้ามาในป่าแห่งนี้เลย “เยี่ยม...อ๊าส์...อูยยย....เสียว” เสียงห้าวทุ้มเอ่ยชมเมื่อเสียงหวานขาดหาย “อร่อยเหลือเกินนาย แข็ง...ใหญ่...ยาว...สมคำร่ำลือ” เสียงหวานเซ็กซี่ดังเป็นระยะสลับกับเสียงห้าวครางระงม หลังพุ่มไม้ที่เธอกำลังใช้มือบางค่อยๆ แหวกออกช้าๆ ทันใดนั้นหญิงสาวผู้มาใหม่ก็ต้องเบิกตากว้างกับภาพเบื้องหน้า หัวใจดวงน้อยสั่นระริกอย่างนึกหวั่นกับสิ่งมีชีวิตเปลือยเปล่าล่อนจ้อนที่กำลังนั่งก้มหน้ากัดกินอะไรบางอย่างด้วยความเอร็ดอร่อย หญิงสาวร่างอวบเปลือยเปล่าที่กำลังนั่งก้มหน้าซุกอยู่กลางหว่างขาแกร่งของชายหนุ่มร่างใหญ่ที่ตอนนี้มีเพียงเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีกรมท่าขาวแขนยาวติดกาย แผ่นหลังแกร่งเอนพิงอยู่กับก้อนหินขนาดใหญ่ ใบหน้าคมแหงนเงยขึ้นฟ้าสีหน้าบิดเบี้ยวเหยเกราวกับกำลังทรมาน ริมฝีปากหนาอ้ากว้างครวญครางกับการโดนสาวร่างอวบก้มๆ เงยๆ ถี่รัวอยู่ด้านล่าง จากระยะที่เธอนั่งอยู่ นายาไม่อาจเห็นได้เลยว่าชายหนุ่มหญิงสาวทั้งคู่นั้นเป็นใคร แต่ถึงจะได้เห็นหน้าชัดเจน เธอก็ไม่รู้อยู่ดีนั่นแหละเพราะตั้งแต่โตมาจนอายุสิบแปดปีเต็ม เธอไม่เคยรู้จักใครนอกจากบิดาที่เลี้ยงดูมา นายาพยายามเพ่งสายตามองไปยังสองร่างที่กำลังส่งเสียงครวญครางนั่นอีกครั้ง กิ่งไม้ใบหญ้าที่ขึ้นรก ทำให้เธอไม่สามารถเดินเข้าใกล้ได้มากกว่านี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD