“ฉันจะนั่งตรงไหนได้”ฉันถามแบบเหนื่อยๆ ตอนนี้หิวก็หิว คนก็เริ่มมาเยอะแล้วด้วย
“แถวนี้ได้หมดอ่ะ แต่ห้ามเข้าตรงนั้น”
ฉันถอนหายใจกรอกตามองบนเดินไปหาร้านข้าวกิน บางทีก็โตแล้วนะ เหตุผลบ้าไรเนี่ย
“ไอ้เคใครวะ หวัดดีครับฉันชื่อเว่ย”ฉันตกใจจู่ๆก็มีผู้ชายสองคนเดินเข้ามา ฉันก็แค่ยื่นจับมือทักทายแบบงงๆ
“แล้วนี่ไอ้ถงถง ชื่อมันออกเสียงยากหน่อย”
“ฉันชื่อจี”ฉันยิ้มให้อ่อนๆ ดีนะข้าวในมือไม่หกเพราะตกใจสองคนนี้เนี่ยแหละ
“ไปกินข้าวกับพวกเรามั้ย ไม่ต้องกลัวยังมีแฟนพวกเราอีกสบายใจได้”
“อ่อโอเคๆ”โชคดีที่มีผู้หญิงอยู่ด้วย ถ้าให้ฉันนั่งกินข้าวอยู่กับผู้ชายสามคนมันไม่ชินน่ะสิ
“นายมีแฟนแล้วหนิ”ฉันเข้าใจถูกมั้ย คำว่า มีแฟนพวกเราอยู่ด้วย แสดงว่ามีกันหมดแล้ว
“แค่มันสองคน ฉันยังไม่อยากมี”
“อ่อ”ฉันตอบสั้นๆได้ใจความ ไม่ได้อยากรู้อะไรมากหนิแค่ถามเฉยๆ
“แชยอนแฟนฉัน เป็นคนเกาหลี”
“หวัดดี”
“เสี่ยวลี่แฟนฉัน”
“หวัดดี”
“ฉันชื่อจีนะ”ฉันแนะนำตัวเองยิ้มให้ผู้หญิงสองคน แฟนของเว่ยกับถงถง
“มานั่งข้างพวกเราสิ”ฉันพยักหน้ายิ้มๆแล้วเอาจานงานวางนั่งข้างแชยอน
“เธอสวยมากเลยอ่ะ น่าอิจฉาจัง”เสี่ยวลี่เห็นใบหน้าของจีเหมือนกับตุ๊กตาบาร์บี้ หน้าตาเด่นมากใครเห็นต้องมอง
“พวกเธอก็สวย คนเราสวยคนละแบบนะมั่นใจในตัวเองสิ”ฉันว่าคนเราสวยคนละแบบนะ แชยอนก็สวย เสี่ยวลี่ก็สวย ฉันหน้าตาบ้านๆแค่พึ่งเคยเจอหน้าเท่านั้นแหละ
“สำเนียงเธอออกไม่ค่อยชัดนะ”เสี่ยวลี่ฟังสำเนียงการพูดของจีดูไม่ค่อยชัดบางคำ
“กำลังปรับตัวน่ะขอเวลานิดนึง”ฉันไม่ได้พูดก็นานแล้วก็มีออกเสียงเพี้ยนๆอยู่บางคำ
“เรียนต่างประเทศเป็นยังไงบ้าง เล่าให้ฟังบ้างสิพวกเราสองคนไม่เคยไปเรียนเลย”เสี่ยวลี่ถามจี
รู้กันหมดเลยหรอว่าฉันย้ายมาจากต่างประเทศก็ว่าทำไมมีแต่คนมองตลอดทางเดิน ฉันถือว่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์แล้วกันจะเล่าให้ฟังหมดเลย
“พรุ่งนี้มากินข้าวด้วยกันอีกนะ”ทุกคนกินข้าวอิ่มนั่งคุยเล่นจนถึงเวลาต้องแยกย้ายกันไปเรียนแล้ว
“ได้สิ ฉันไปเรียนก่อนนะ”ฉันบอกทุกคนในโต๊ะ กลุ่มนี้ก็ตลกดีนะคุยแบบเป็นกันเองฉันเลยไม่เกร็งอะไรมาก
“บาย~ / บาย~”
ฉันเดินกลับไปที่ตึกพร้อมกับเค เรียนตึกเดียวกัน สาขาเดียวกันก็เริ่มคุยกันมากขึ้น แต่ยังไม่สนิทกันกับกลุ่มนี้เท่าไรหรอก ถือว่าเป็นเพื่อนใหม่ที่ฉันเจอเราคุยถูกคอ
17.30
“ขับรถกลับดีๆอ่ะ”ฉันพยักหน้าตอบเค ตอนนี้ก็เลิกเรียนแล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
เรียนวันแรกฉันก็รู้สึกเหนื่อยเลย ที่นี่ต่างจากนิวยอร์กนิดหน่อย ที่นี่สอนหนักพอสมควรเลยพูดหลายภาษาจนบางทีเบลอ
กึกปัง
“อยากกินขนมปังจัง..........”ฉันบนรถวันนี้เลิกเรียนเย็นมากฟ้าจะมืดหมดแล้วไม่รู้จะมีร้านขนมปังขายรึป่าว
ฉันขับรถออกจากมหาลัย ขับไปเรื่อยๆมองหาร้านขนมปังแต่ปิดกันหมดเลยเพื่อของกินฉันขับหาร้านได้สบายอยู่แล้ว
“กว่าจะเจอร้าน”ฉันจอดรถริมถนนเอากระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ลงไป ร้านนี่เป็นร้านเล็กๆอยู่ในตึกกลางคืนดูน่ากลัวหน่อย
“ป้าคะเอาขนมปังสี่ชิ้นค่ะ”ฉันเดินเข้ามาบอกป้าคนขาย กลิ่นขนมปังหอมมากน่าจะอร่อย
“ได้จ่ะ นี่จะหมดแล้วป้าแถมให้”
“ขอบคุณค่ะป้า”ฉันจ่ายเงินแล้วยืนกินอันนึงก่อนค่อยเดินออกจากร้าน ป้าเค้าแถมขนมปังให้ฉันสองชิ้นแหน่ะ
“อ๊ากกกกกก!!”
“ อุ้ย!!!........เสียงอะไร!?”
“อ๊ากกกกกก!!”
“ อุ้ย!!!........เสียงอะไร!?”ฉันหันมองตึกฝั่งซ้ายมือในนั่นมืดมากแทบจะไม่มีแสงไฟส่องเลย
“อ๊าากกกกกก!!”
เสียงคน! ฉันค่อยๆเดินเข้าไปมองแต่เสียงมันเงียบไปแล้ว แล้วเสียงคนมาจากตรงไหนล่ะ? เค้าเป็นอะไรรึป่าวร้องเสียงดังมาก
“มืดจัง”ฉันเปิดแสงโทรศัพท์ค่อยเดินเข้ามาเงียบๆใช้แสงไปส่องไปตามทางเดิน ในนี้ดูเป็นทางเดินตึกเก่าๆ
“ไว้ชีวิตผมเถอะ ขอร้องไว้ชีวิตผม”
“กราบตีนกูดิ!!”
ฉันปิดแสงโทรศัพท์แอบยืนมองกลุ่มคนอยู่ในตึก เลือด! เลือดไหลกองมีคนนอนจมกองเลือดอยู่ นี่มาฆ่ากันหรอเนี่ย!
ปัง!!
“ว๊ายยยยย!!”ฉันตกใจเผลอร้องเสียงดัง ผู้ชายคนนั้นยิงหัวคนได้เลือดเย็นมาก
“ใครวะ!!”
ฉันรีบวิ่งหนีออกมา ไม่รู้ทางไหนเป็นทางไหนตอนนี้ฉันต้องวิ่งหนีให้รอดก่อน
ฟึบ!
“โทรศัพท์!”ฉันวิ่งไปเก็บโทรศัพท์หลุดมือทำตกแล้ววิ่งต่อ เสียงคนวิ่งตามฉันตามมาไม่หยุด
“เห้ย! หยุดกูบอกให้หยุด!!”
ฉันวิ่งเข้าซอกตึกซ่อนตัวเอามืดปิดปากตัวเองให้หายใจเบามากที่สุด วิ่งเหนื่อยมากไม่รู้ตอนนี้ฉันวิ่งหนีมาทางไหนอยู่ตรงไหน
“พี่เจย์ช่วยจีด้วย”ฉันตัวสั่นน้ำตาคลอเบ้า ตอนนี้ฉันกลัวมากพวกมันมีปืนกันทุกคน ถ้าเจอฉันมันอาจจะฆ่าก็ได้
กึก!!
“ไง!!”ผมเอาปืนจี้หัวผู้หญิงยืนปิดปากตัวสั่น ไม่มีใครรอดหรอกครับถ้ามาเห็นพวกผมกำลังทำงานกันอยู่!
เฮือกกก!!
“ยะอย่าฆ่าฉันเลยขอร้อง”ฉันยืนนิ่งตัวแข็งปืนจ่ออยู่ที่หัวแม้แต่หน้าฉันยังไม่กล้าหันไปมองเค้าเลยฉันกลัวมาก
“ใครให้มึงมา!!”ผมจับหน้าเธอหันมาถามเสียงกดต่ำ หึ! หน้าแม่งสวยใช้ได้เลยว่ะแต่เสือกมาหาที่ตาย
“ฉะฉันไม่รู้”เค้าบีบแก้มฉันแน่นจนเจ็บแววตามีแต่ความดุดันน่ากลัวปืนจี้อยู่ที่เอว ฉันจะถูกฆ่าทิ้งใช่มั้ย
พรึ่บ!!