โครม
เสียงสั่งลั่นสนั่นหวั่นไหวเมื่อสองกะบะสองคนชนประสางากันอย่างแรง จนทำให้พลิกคว่ำตกลงไปยังข้างทาง ประชาที่อยู่บริเวณนั้นต่างเข้ามามุ่งดูและโทรตามรถพยาบาลและรถกู้ภัยทันที
“กรี๊ดดดดดดด”เสียงกรีดร้องดังลั่นของหญิงสาวคนหนึ่ง มีนามว่า “หนูนา” เมื่อคนแถวบ้านโทรมาบอกว่าสามีของเธอโดนรถกะบะขี้ย้อนศรมาอย่างแรงจนทำให้รถพลิกคว่ำกระเด็นไปไกล เธอรีบออกมายังที่เกิดเหตุทันทีแล้วไม่รอช้า แต่แล้วต้องหยุดชะงัดขึ้นเมื่อสภาพของสามีเธอเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลมากมาย
“ศักดิ์ตื่นขึ้นมาสิ! ศักดิ์! อยากทิ้งหนูนาไปนะ ศักดิ์! อย่าทิ้งหนูนากับลูกไปนะ”หล่อนฝ่าฝูงคนเข้าไปยังตัวสามี แล้วพยายามปลุกเรียกให้สามีตื่นขึ้นมาคุยกับเธอ ตอนนี้หัวใจของเธอสั่นระริกกลัวว่าเขาจะจากหล่อนไป
“หนูนา.....”เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยดังขึ้น ชายหนุ่มในกอดอ้อมของหญิงสาวพยายามลืมตาขึ้นมา มองหน้าดูคนรักเป็นคนสุดท้าย เขารู้ตัวเองว่าตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่นานที่เขาจะต้องไป ความเจ็บปวดที่เขาได้รับตอนนี้ ทำให้เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
“ศักดิ์.... ศักดิ์เข้มแข็งไว้นะ อย่าเป็นอะไรไป”หนูนาพยายามตบใบหน้าของสามีเธอเบาๆ เพื่อให้รู้สึกตัว
“หนูนา... ศักดิ์ไม่ไหวแล้ว.... ศักดิ์เหนื่อยเหลือเกิน...”มือหนาพยายามเอื้อมมือมาจับใบหน้าของภรรยาด้วยแรงเพียงน้อยนิดที่มี
“มะ... ไม่พูดแบบนี้สิ! ศักดิ์ต้องอยู่กับหนูนาและลูกนะ อย่าลืมสิว่าศักดิ์สัญญากับลูกไว้ว่าจะพาพวกแกไปเที่ยว”
“อย่าร้องเลยนะหนูนา.... ศักดิ์ไม่ไหวแล้วจริงๆ”
“ไม่.. อย่าทิ้งหนูนากับลูกไปนะศักดิ์ อย่าทิ้งไป”คำพูดของสามีทำหล่อนเริ่มใจคอไม่ดี แต่ถึงยังไงแล้วหล่อนพยายามเข้าข้างตัวเองว่าสามีจะไม่มีวันทิ้งหล่อนกับลูกไปแน่นอน
“ฝากดูแลลูกด้วยนะหนูนา เฮือก!!!”สิ้นเสียงทุกอย่างก็เข้าสู่ความเงียบ ดวงตาคมปิดลงพร้อมกับลมหายใจเฮือกสุดท้ายหยุดสนิทลง เมื่อบาดแผลจากโดนแรงอัดกระแทกอย่างแรงทำให้ชายหนุ่มไม่สามารถทนต่อพิษบาดแผลได้ไหวจึงต้องจากไปอย่างไม่มีวันหวนคืนกลับมา
“ศักดิ์!!!!! ฮือๆ ศักดิ์!! อย่าทิ้งหนูนากับลูกไป!!! ฮือๆ”เสียงกรีดร้องร่ำไห้เมื่อคนรักจากไปอย่างไม่มีวันกลับมา หัวใจดวงน้อยๆ แทบแตกสลายออกไปเป็นเสี่ยงๆ ไทยมุ่งบริเวณรอบๆ ต่างเบื้อนหน้าหนีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะคนมักง่ายที่ขับรถผิดกฎจราจรทำให้คร่าชีวิตคนดีๆ ไปอีกหนึ่งคน
วันต่อมา
งานฌาปนกิจศพของชาติศักดิ์ถูกจัดที่วัดใกล้บ้าน หนูนาและครอบครัวพร้อมกับลูกน้องอีก 2 คน กำลังนั่งฟังพระสวดด้วยความเศร้าโศก ตอนนี้หล่อนได้กลายเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องดูแล พ่อ แม่ และลูกอีก 2 คน ความสูญเสียที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้หล่อนและครอบครัวไม่สามารถยอมรับกับสิ่งที่เหตุเกิดขึ้นได้ ผู้ชายที่ดี เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี เป็นพ่อและสามีที่ดีของลูกและเมีย ต้องจากไปเพราะความมักง่ายของคนเรา
งานศพของชาติศักดิ์ถูกจัดขึ้นเพียงแค่ 4 วันเท่านั้น แต่แล้วความสูญเสียก็มาพร้อมกับความตกใจเมื่อบริษัทที่หนูนาทำงานอยู่ได้ถูกปิดตัวลงอย่างกะทันหันและเจ้าของก็ได้ชิงหนีไม่ยอมจ่ายเงินเดือน ทำให้ตอนนี้หล่อนแทบคิดวิตกว่าจะไปทำอย่างไรต่อไปดี เงินจากการจัดงานศพแล้วทั้งเงินช่วยเหลือก็ไม่ได้มากพอที่จะเลี้ยงชีวิตคนทั้ง 5 คนให้อยู่รอดได้นาน หล่อนจึงออกไปหางานทำเพื่อจะได้หารายได้มาจุณเจือครอบครัว ถึงแม้ว่าหนทางข้างนอกจะมืดหม่นก็ตาม
“กริ้งๆ”
“หนูนา!! อยู่ที่ไหนลูก! พ่อเขาล้มลงตอนนี้อยู่โรงพยาบาลแล้ว”เหมือนนหัวใจหลุดลอยไปอีกครั้ง เมื่อมารดาได้โทรมาแจ้งข่าวว่าบิดาของหล่อนท่านได้ล้มลงหมดสติไปตอนนี้กำลังอยู่ที่โรงพยาบาลรอหมอตรวจ หล่อนไม่รอช้ารีบออกจากบริษัทที่กำลังจะรอสมัครงานทันทีอย่างไม่ต้องคิดอะไร เพราะถึงยังไงแล้วชีวิตของบิดาเธอสำคัญกว่าสิ่งใด
ใช้เวลาไม่นานหล่อนก็มาถึงยังโรงพยาบาลใกล้บ้าน มารดาของเธอกำลังนั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยใจจดใจจ่อ หล่อนรีบวิ่งไปหาทันที
“แม่คะ พ่อเป็นอย่างไรบ้างคะ”หล่อนรีบถามมารดาทันทีอย่างใจร้อน กลัวว่าท่านจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้
“พ่อเขาล้มลงไปนะตอนที่กำลังเช็คตู้อยู่”มารดาของหนูนาที่มีนามว่า “ไพลิน” บอกขึ้น แล้วยื่นมือแตะไหล่ของบุตรสาวให้คลายความกังวลลง ถ้าหากลูกสาวของหล่อนเป็นอะไรไปอีกคน หล่อนคงได้หัวใจสลายแน่นอน ตอนนี่สามีของหล่อนอยู่ฉุกเฉินนานแล้วหล่อนกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ยิ่งเป็นคนแก่อยู่ด้วย หกล้มนิดหน่อยก็เป็นเรื่องใหญ่ได้แล้ว
“หมอออกมาแล้วค่ะแม่”หล่อนบอกขึ้นเมื่อเห็นประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกมา
“หมอคะ สามีของดิฉันเป็นยังไงบ้างคะ”มารดาของหนูนารีบปรี่เข้าไปถามหมอทันทีด้วยความเป็นห่วงสามี
“เชิญตามหมอมาที่ห้องหน่อยครับ”นายแพทย์บอกขึ้นแล้วเดินนำญาติคนไข้ทั้งสองไปยังห้องตรวจของตนเอง เพื่อบอกอาการป่วยของคนไข้ให้รับรู้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างหนักใจมาก
“มีอะไรหรือเปล่าคะหมอ”หล่อนถามหมอขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นสีหน้าหมอเคร่งเครียดไม่ค่อยจะดีสักเท่าไร
“พ่อของคุณเป็นเส้นเลือดในสมองแตกครับต้องได้รับการผ่าตัดด่วน”
“จริงเหรอคะหมอ หมอไม่ได้พูดเล่นใช่ไหมคะ”หล่อนถามย้ำหมออีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เพราะก่อนหน้านี้พ่อของหล่อนไม่มีอาการผิดปกติเลยสักนิด หล่อนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าท่านจะเป็นหนักขนาดนี้
“จริงครับ ตอนนี้อาการของคนไข้กำลังแย่ ต้องไปรับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน”หมอบอกขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อได้ทำการตรวจร่างกายคนไข้อย่างละเอียดและพบถึงสาเหตุที่ทำให้คนไข้ล้มลงไปอย่างไม่มีสาเหตุ
“ผ่าเลยค่ะ”หล่อนตอบขึ้นโดยที่ไม่ต้องตัดสินใจอะไร เพราะถึงยังไงแล้วชีวิตพ่อของหล่อนก็สำคัญอย่างสิ่งอื่นใด หล่อนไม่อยากจะเห็นท่านจากไปอีกคน ในขณะที่ทุกคนกำลังโศกเศร้ากับการจากไปของสามีเธออยู่
“หนูนา....”
“ไม่ต้องพูดค่ะแม่ ชีวิตพ่อตอนนี้สำคัญกว่าค่ะ ฉันอนุญาตให้หมอทำการผ่าตัดพ่อของฉันเลยนะคะ เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องเป็นห่วง”
“ได้ครับ หมอจะจัดการให้เร็วที่สุด”
“หนูนา..... ถ้าผ่าตัดพ่อเรา เงินเก็บที่มีจะหมดเลยนะลูก”ไพลินเอ่ยขึ้นหลังจากพูดคุยกับหมอเสร็จ หล่อนรู้มาว่าค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดไม่ใช่ถูกๆ ต้องเงินจำนวนมาก หล่อนกลัวว่าจะเป็นภาระให้กับบุตรสาวมากกว่าเดิม เพราะนี้ครอบครัวของหล่อนขาดเสาหลักไป ทำให้หนูนาต้องมาเป็นหัวหน้าครอบครัวแทน อีกทั้งตอนนี้ก็ตกงาน ไม่มีงานทำอีกด้วย ไหนจะค่าใช้จ่ายของหลานอีกสองคนอีก หล่อนไม่อยากให้หนูนาต้องเหนื่อยไปมากกว่านี้
“ไม่เป็นไรค่ะแม่ เดี่ยวหนูหาใหม่ได้ค่ะ ชีวิตพ่อสำคัญกว่าเงินพวกนั้นอีกค่ะ”
“หนูนาของแม่ ทำไมต้องมาเจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดแบบนี้ด้วยลูก”หล่อนลูบแขนบุตรสาวอย่างเห็นใจ ที่ต้องมาพบกับชะตากรรมแบบนี้ ไหนจะต้องสูญเสียสามีที่ตนเองรักไปอย่างไม่ทันตั้งตัวแล้วพ่อต้องมาเข้าโรงพยาบาลอีก ตอนนี้บุตรสาวของเธอเหมือนนกปีกหักที่ไม่สามารถโบยบินไปไหนได้
“แม่เฝ้าพ่อไปก่อนนะคะ เดี่ยวหนูนาไปรับเด็กๆ ก่อน”หล่อนยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา พบว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลารับลูกทั้งสองหล่อนจึงของตัวมารดาไปรับเด็กๆ ก่อน แล้วค่อยแวะมาเฝ้าบิดาต่อ
“ขับรถดีๆ นะลูก”
หนูนาเดินออกไปจากโรงพยาบาลเพื่อไปรับลูกทั้งที่โรงเรียน ตอนนี้เธอมืดแปดด้านไปหมดแล้ว ความหวาดกลัวเกาะจิตใจกลัวว่าบิดาท่านจะจากเธอไปอีกคน ซึ่งตอนนี้เธอยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของสามีเธอแบบกะหันทัน และตอนนี้เธอต้องแบกรับภาระเองหมดทุกอย่างหน้ำซ้ำงานก็ยังหาไม่ได้ ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดก็สูง เธอลองคำนวนจากเงินเก็บทั้งหมดแล้วแทบไม่เหลืออะไรเลย
“ศักดิ์ภาวนาให้หนูนาผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปด้วยนะ”