และเมื่อนาทยสุรีถูกแม่นมจับแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว จึงพากันเดินออกไปยังด้านนอกคฤหาสน์เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยกัน เธอไม่ได้ยินดียินร้ายกับงานเลี้ยงแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธจะไม่เข้าร่วมงานได้ จุดประสงค์ของงานนี้ไม่ใช่เพียงแค่เลี้ยงต้อนรับพี่อานนท์ของเธอ แต่เป็นการโชว์ตัวให้บรรดาหนุ่มๆฐานะมั่นคั่งในงานได้เก็บเธอไปพิจรณาเป็นคู่ครองเสียมากกว่า...
“คุณพ่อจัดงานนี้ให้พี่นนท์นะคะ ไม่ใช่จัดให้นิ่มเสียหน่อย คุณน้าจะให้นิ่มออกไปคุยกับใคร นิ่มไม่รู้จักใครสักคนเดียว นิ่มก็เลยเบื่อๆนะคะนมแจ่มจ๋า...”
พอเดินออกมาจากห้องพักส่วนตัวได้สักระยะ นาทยสุรีจึงเปรยขึ้นเสียงเหนื่อยใจ ทำไมเธอจะไม่รู้ถึงจุดประสงค์อันแท้จริงของงานเลี้ยงในวันนี้ มันไม่ได้ถูกจัดขึ้นเพื่อเลี้ยงต้อนรับพี่นนท์เพียงอย่างเดียวเสียหน่อย แต่จุดประสงค์สำคัญมันอยู่ที่ตัวเธอเองต่างหากล่ะ...
“คุณพ่อกับคุณน้าคงเบื่อนิ่มแล้ว ถึงได้อยากกำจัดนิ่มออกไปจากบ้านหลังนี้เร็วๆใช่ไหมคะนมแจ่มจ๋า ...” หญิงสาวเอ่ยถามแม่นมคนสนิทเสียงเศร้า ใบหน้าสวยก็หมองหม่นลงตาม เธอแอบคิดด้วยความน้อยใจ เพียงเธอเกิดมาเป็นลูกผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชายอย่างพี่นนท์ คุณพ่อกับคุณน้าถึงได้อยากให้เธอแต่งงานออกเย้าออกเรือนไปให้พ้นหูพ้นตาเสียทีใช่ไหม พวกท่านคงไม่อยากเลี้ยงดูเธออีกต่อไปแล้ว...
“ตายแล้ว! ทำไมคุณนิ่มถึงได้คิดแบบนั้นล่ะคะ ไม่เอาค่ะคนดี ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกของตัวเองหรอกนะคะ การที่ท่านเจ้าสัวกับคุณผู้หญิงท่านคิดอยากให้คุณนิ่มมีคนรัก ก็เพราะพวกท่านหวังดีกับคุณนิ่มต่างหากล่ะ ใช่อยากจะไล่ให้คุณนิ่มไปไหนเสียหน่อย...” แม่บ้านเก่าแก่ดันร่างอรชรออกห่างด้วยความรู้สึกตกใจมิใช่น้อย กับความคิดของเจ้านายตัวน้อย
“แต่นิ่มได้ยินคุณพ่อกับคุณน้าคุยกัน พวกท่านอยากให้นิ่มแต่งงานไปกับใครสักคนที่มาในงานเลี้ยงวันนี้...แต่นิ่มไม่ทันได้ยินชื่อของเขาหรอกนะคะว่าเขาเป็นใคร...” หญิงสาวเอ่ยเสียเศร้า ก็เธอไม่อยากแต่งงานกับใครถ้าคนนั้นไม่ใช่คนที่เธอกำลังรอคอยเขาอยู่ ถึงแม้การรอคอยนั้นอาจจะไม่มีวันมาถึงเลยก็ตาม แต่ผู้ชายเพียงคนเดียวที่สามารถอยู่กับเธอทั้งยามหลับฝันและยามตื่น อยู่ในโลกแห่งความจริงและความฝันได้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ...
พี่เสือ!...
“พวกท่านทั้งสอง ก็แค่อยากให้คุณนิ่มลองเปิดใจมองใครสักคนดูบ้าง ไม่ใช่วันๆเล่นหมกตัวเองอยู่แต่ในบ้านปิดกั้นตัวเองจนไม่ยอมสนใจมองใครเลยสักคน พวกท่านแค่อยากเห็นคุณนิ่มมีความสุขกับใครสักคนที่คุณนิ่มรักแล้วเขาก็รักคุณนิ่มเท่าๆกับพวกท่านรักด้วยน่ะค่ะ” นมแจ่มแย้งขึ้นด้วยความเข้าใจ ถึงแม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยง แต่ก็ไม่ได้ทำตัวร้ายกาจเหมือนอย่างในละครทีวีที่มีให้ดูกันอยู่เกลื่อนกลาดทั่วไปเสียหน่อย แต่ท่านทั้งรักและเอ็นดูลูกเลี้ยงคนนี้ไม่ต่างจากความรักของแม่แท้ๆที่มีต่อบุตรลูกสาวแท้ๆของตัวท่านเองเลยด้วยซ้ำไป...
“หนูนิ่ม!ทำไมถึงออกมาช้านักหึ...” บทสนทนามีอันต้องยุติลงเท่านั้น เมื่อบุคคลที่ทั้งสองกำลังกล่าวถึง เดินหน้าบูดบึ้งตรงดิ่งเข้ามาเสียก่อน...
“คุณน้า!”
“ว่าแล้วนิ้มต้องอยู่ในนี้...ทำไมถึงได้ออกไปช้านักล่ะลูก งานเลี้ยงเขาเริ่มมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือไงเรา...แทนที่หนูนิ่มจะออกไปช่วยพี่นนท์เขารับรองแขกเหรื่อ แต่นี่อะไร มาขลุกตัวอยู่แต่ในครัว น้าถามหน่อยเถอะ มันเหมาะสมแล้วหรือไง...กลับสิ่งที่หนูนิ่มกำลังทำอยู่...”
เสียงทรงอำนาจกล่าวตักเตือนใบหน้าเรียบนิ่ง ถึงแม้นาทยสุรีจะเป็นหญิงสาวที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีกิริยาวาจาเรียบร้อยอ่อนหวาน ว่านอนสอนง่ายอยู่ก็จริง แต่ถ้าหากว่าเจ้าตัวเกิดไม่ชอบใจกับเรื่องอะไรก็แล้วแต่ หญิงสาวจะทำตัวดื้อเงียบ ไม่สนใจ ไม่รับรู้ ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ต่อสิ่งนั้นๆอีกเลย จนบางครั้ง ทั้งตัวนางเองหรือกับสามี ถึงกับเอามือกุมขมับส่ายหน้าเหนื่อยใจกับความดื้อเงียบนี้ของบุตรสาวอยู่บ่อยครั้ง
“แต่นิ่มไม่อยากออกไป นิ่มไม่ชอบเสียงดังนี่คะ คุณน้าก็ทราบดีอยู่แล้ว...” นาทยสุรีใบหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น
มันเป็นเพราะอุบัติเหตุรถชนครั้งเมื่อเธอยังเป็นเด็กอายุได้เพียงสองขวบ ทำให้หญิงสาวถึงกับขวัญผวาทุกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงดังอึกทึก และเป็นเพราะอุบัติเหตุครั้งนั้นอีกเช่นกัน ทำให้หญิงสาวต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อมารดาของเธอ เสียชีวิตคาที่ในวันเกิดเหตุ...
“น้ารู้...แต่วันนี้เป็นวันสำคัญของตานนท์เขา นิ่มน่าจะออกไปแสดงความยินดีกับพี่เขาสักหน่อย พี่เขาน้อยใจแล้วรู้ไหม ถามหาแต่หนูนิ่มกับน้าไม่ขาดปาก...ที่ไม่ได้เห็นหน้าน้องสาวสุดที่รักของตัวเองในงานเลี้ยงวันนี้เสียที นี่ก็เร่งให้น้าเข้ามาตามนิ่มออกไปด้านนอก บอกว่ามีเพื่อนจะแนะนำให้รู้จักกันเอาไว้น่ะ...”
คุณหญิงละไมเดินเข้ามาใกล้ร่างน้อย ก่อนจะโอบไหล่บุตรสาว พากันเดินออกไปด้านนอก นางเองยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ในวันนั้นไม่หายเช่นกัน กลับการจากไปของเพื่อนรักอย่างกะทันหัน ถึงจะมีสามีคนเดียวกัน แต่ก็เป็นความยินยอมของตัวนางเองด้วย นางแค่ต้องการให้สามีมีใครอีกสักคน เพราะตัวนางเองเมื่อคลอดบุตรชายออกมาแล้ว ก็ไม่สามารถให้ความสุขกับสามีได้อย่างเต็มที่นัก ด้วยเรื่องของสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอลงหลังจากการคลอดบุตรชายนั่นเอง...
“นิ่มขอโทษค่ะคุณน้าขา นิ่มทำตัวไม่น่ารักวันนี้...” นาทยสุรียกมือขึ้นกราบขอโทษ
“นิ่มจะไม่ทำตัวดื้อกับทุกคนอีกแล้วล่ะค่ะ” คุณหญิงละไมส่ายหน้าระบายยิ้มอบอุ่น
“จ้ะลูกแม่...” คุณหญิงละไมลูบศีรษะสวยด้วยความรักและเอ็นดู
“นี่ถ้าพี่นนท์เขามาได้ยิน นิ่มบอกจะไม่ดื้ออีก พี่เขาคงดีใจสุดๆแน่เลยนะน้าว่า...” คุณหญิงละไมพูดยิ้มๆ เพราะนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกเช่นกัน ที่นางได้ยินคำพูดอ่อยๆของลูกเลี้ยงสาว ว่าจะไม่ดื้อ...แต่พอมีงานเลี้ยงทีไรก็ต้องคอยวิ่งไล่กันอย่างนี้ตลอด
***********************