นรินดารู้สึกว่าขาเธอแทบทรุดเมื่อเขาถอนกายออกห่าง เธอจับขอบอ่างแน่น หอบหายใจรุนแรงก่อนจะค่อยๆ ผ่อนคลาย
“วันนี้ทำอะไรกิน”
เขาเอ่ยถามหลังจากปล่อยเธอเป็นอิสระ คนที่ยังขาสั่นก้มงุดก่อนจะเอ่ยตอบ
“ทำแกงส้ม ผัดผักบุ้งแล้วก็หมูทอดกระเทียมพริกไทยค่ะ”
“อืม... น่ากิน”
เขาตอบรับ เธอเหลือบมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะก้มงุดเดินขาสั่นๆ ไปยกอาหารออกมาจัดบนโต๊ะ
เธอเห็นเขาเดินไปล้างไม้ล้างมือแล้วมาทรุดนั่งลงใกล้ๆ จึงรีบตักข้าวใส่จานให้เขา
นรินดามองเขารับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ในขณะที่เธอเขี่ยอาหารไปมาอย่างใจลอย
“เป็นอะไร”
เสียงเข้มปนดุที่เอ่ยถามทำเอาเธอสะดุ้ง ก่อนจะรีบส่ายหน้าไปมา
“เปล่าค่ะ”
สิ้นคำตอบของเธอ จู่ๆ ฝนด้านนอกก็เทลงมาแถมลมยังพัดแรงจนน่ากลัว
นรินดามองอากาศด้านนอกอย่างเป็นกังวล หลังรับประทานอาหารเสร็จสิ้นเธอจึงรีบเก็บจานชามไปล้าง แล้วออกไปยืนดูฝนที่หน้าบ้าน ฟ้าคำรามเสียงดังลั่นรวมถึงลมแรงและฝนห่าใหญ่ทำเอาเธอต้องรีบหลบเข้ามาในบ้าน
“อุ๊ย!”
เธออุทานเมื่อชนเข้ากับร่างสูงของพยัคฆ์ เขาอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว เนื้อตัวหอมกรุ่น พอเธอถอยหนีเขาก็รีบดึงเธอไปกอดแนบอก เธอดันอกกว้างของเขาใจสั่นสะท้านไปหมด
“ฝนตกหนักน่ะค่ะ”
เธอชวนคุยสีหน้าเป็นกังวล
“ตกแล้วทำไม”
เขาเอ่ยถามเหมือนไม่ยี่หระ แต่เธอยิ่งกังวลเพราะไม่รู้จะกลับบ้านยังไง
“ลุงเสือมีเสื้อกันฝนหรือร่มไหมคะ”
“ไม่มีนะ”
คำตอบของเขาทำให้เธอเป็นกังวลไม่น้อย
“เอาไปทำไม”
เขาถามอีก เธอมองเขาอย่างงงๆ ฝนตกหนักแบบนี้เธอขอเสื้อกันฝนกับร่มก็ต้องใช้เพื่อเดินกลับบ้านน่ะสิ เขาก็ถามแปลก
“หนูดาจะกลับบ้านน่ะค่ะ”
“ฝนตกแรง ลมก็แรง จะไปยังไง อันตราย”
เขาทำเสียงดุ
“งั้นหนูดาคงต้องรบกวนลุงเสือขอติดฝนอยู่ที่นี่ก่อนนะคะ เดี๋ยวฝนซาแล้วจะรีบกลับ จะงับประตูบ้านให้ ลุงเสือเหนื่อยมาทั้งวันคงอยากนอนพัก หนูดาไม่กวนแล้วนะคะ”
เธอพาตัวออกห่างจากอ้อมแขนของเขา แต่เขากลับรัดแน่นยิ่งขึ้น
“จะนั่งอยู่ด้านนอกเหรอ”
“ค่ะ ว้าย!”
เธออุทานเมื่อจู่ๆ ไฟเกิดดับขึ้นมา คราวนี้จากที่หนีจากอ้อมแขนของเขา เธอก็เบียดเข้าไปหาในทันที
“ไฟดับแบบนี้จะอยู่คนเดียวได้เหรอ”
เธอได้ยินเสียงกระซิบถามที่ริมหู ลมหายใจของเขาเป่ารดอยู่ตรงพวงแก้มสาว
เธอเม้มปากเล็กน้อย การอยู่คนเดียวในความมืดมิดทำให้เธอหวั่นใจไม่น้อย ยอมรับว่ากลัวน่าจะถูก
เขาดึงให้เธอเดินตาม เธอเลยรีบเอ่ยถามว่าเขาจะพาไปไหน สายตาเริ่มชินกับความมืด แสงฟ้าแลบด้านนอกส่องเข้ามาในบ้านทำให้มองเห็นเป็นพักๆ
“จะไปไหนคะ”
เขาไม่ยอมตอบแต่เธอรู้คำตอบตอนเขาเปิดประตูห้องเข้าไปแล้วแสงฟ้าแลบอีกครั้ง
ดูเหมือนเขาจะเคยชินกับบ้านของตัวเอง พอปิดประตูก็ดันเธอไปที่เตียงนอนกว้าง
นรินดาถูกกดให้นั่งลงบนเตียง เธอเห็นเขาคว้าอะไรบางอย่างที่หัวเตียงก่อนที่แสงสว่างจะส่องขึ้นมาตรงหน้า
เขาจุดเทียน...
“ลุงเสือมีเทียนสำรองเอาไว้ด้วยเหรอคะ”
เธอไม่รู้จะถามอะไร ก็เลยถามเขาไปแบบนั้น
“สำรองเอาไว้เผื่อไฟดับน่ะ”
เปรี้ยง!!!
“ว้าย!!”
เสียงฟ้าทำให้เธอร้องอย่างตกใจ โผเข้ากอดร่างที่อ้าแขนออกมากอดรัดอยู่ก่อนแล้ว นั่นทำให้เขาเสียหลักล้มลงทาบทับบนร่างเธอเต็มเหนี่ยว
นรินดากะพริบตาปริบๆ เมื่อมองสบตากับเขาในระยะกระชั้นชิด ลมหายใจร้อนรุ่มที่เป่ารดใบหน้าของเธอทำเอาท้องไส้ของเธอเริ่มปั่นป่วนขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน
“ขอโทษค่ะ”
“ขอโทษทำไม”
น้ำเสียงของเขาที่เอ่ยถามทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความแหบพร่า
นรินดาสะท้านเมื่อเขาทาบปากลงมาหา เธอดันอกกว้างของเขาเพียงแค่เล็กน้อย ก่อนจะวางเอาไว้เฉยๆ จูบตอบเขาไปอย่างมึนเมา
พยัคฆ์รู้สึกได้ถึงแรงหอบของคนใต้ร่าง เขาจัดการปลดอาภรณ์ของเธอออกจากกายอย่างรวดเร็ว แล้วตัวเองก็จัดการกับอาภรณ์ของตัวเองให้เปลือยเปล่าไม่แพ้เธอ
ร่างกายเปลือยเปล่าที่เสียดสีเข้าหากันทำเอาเธอสั่นระริก หยาดน้ำหวานไหลเยิ้มออกมาจากร่องสวาท เธอถูกเสียดสีด้วยความแข็งแกร่งไปทั้งเนื้อทั้งตัว
เขาใช้อุ้งมือแข็งแรงแหวกกายสาวให้แยกกว้างออก นรินดาตัวสั่นยามเมื่อมือของเขาลูบไล้ซอกขาด้านใน
“หนูดาเยิ้ม”
เป็นประโยคสั้นๆ แต่ทำเอาเธอตัวสั่น เขาแหวกขาของเธอแยกกว้าง
นรินดาหลับตาด้วยความอาย สัมผัสได้ถึงลิ้นของเขาที่ค่อยๆ แทรกแซะลามเลียเบาๆ อยู่กับสัดส่วนความเป็นสาว
นิ้วของเขาปาดขึ้นลงไปกับกลีบสาว บดบี๋เบาๆ ที่ติ่งสวาท
“อ๊า...”
เธอร้องครางเมื่อเขายิ่งบี๋หนักข้อขึ้นจนปากน้อยเผยออ้าออกหอบกระเส่าเร้าอารมณ์
“ลุงเสือ อื้อ... ตรงนั้น”
เธอร้องบอกก่อนจะผงกศีรษะขึ้นมอง เห็นนิ้วของเขาที่บี๋ติ่งเสียวไปด้วย ดูดเลียไปด้วยก็ทิ้งศีรษะลงบนหมอนใบโตด้วยความกระสันซ่าน
“ตรงนี้ทำไม”
เขาเอ่ยถาม ลามเลียหนักขึ้นไปเรื่อยๆ
“สะ... เสียวค่ะ ลุงเสือ อ๊ายย อย่าเลียแบบนั้นค่ะ”
เธอดิ้นพล่านพาสะโพกหนีเขาก็ตามมาบดปากกับกลีบสาว ร่างน้อยหนีไปชนกับพนักหัวเตียง
เธอเจอทางตันและยิ่งสะท้านหนักขึ้นไปอีกเมื่อเขาจับมือเธอไปกอบกุมท่อนลำใหญ่โตเอาไว้
“ให้ฉันเอาเธอนะหนูดา”
ประโยคที่เอ่ยขอดูธรรมดา แต่ท่อนลำที่เสียดสีกับร่องเสียวทำเอาเธอเยิ้มฉ่ำหนักกว่าเดิม
นรินดาไม่ได้ตอบรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ดูเหมือนเขาจะเหมารวมว่าเธอไม่ได้ขัดขืน
“อ๊าย....”
เธอร้องเมื่อเขากดกายเข้ามาแทรกลึกในร่องสวาท พอเธอขยับสะโพกให้คลายความอึดอัดเขาก็กระแทกเข้ามาจนมิดดุ้น
“อ๊า... ลุงเสือ”
เธอร้องก่อนจะกัดปากจิกมือกับผ้าปูเตียง พยัคฆ์ประคองใบหน้าของเธอให้มองท่อนลำที่กำลังวิ่งเข้าวิ่งออกในร่องสาว เธอซี๊ดปากเหมือนกินพริกเผ็ดๆ เข้าไปกำมือใหญ่ ส่ายหน้าไปมากับความเสียวซ่านที่ได้เห็น ร่องของเธอตอดรัดท่อนเนื้ออวบใหญ่ทุกทิศทาง ผนังด้านในเสียดสีกับความใหญ่โตที่โจนจ้วงเข้ามาจนร่างน้อยสั่นคลอน
“ลุงเสือขา มะ... มันแรงไปค่ะ หนูดา อ๊า...”
เธอร้องประท้วงเมื่อร่างน้อยสั่นระริกเขายิ่งกระแทกเมื่อเธอวอนขอ
นรินดาจิกมือกับบ่ากว้าง ขาของเธอถูกมือหนาจับแยกออกโดยการที่เขาค้ำไปกับพื้นเตียง
พยัคฆ์ละมือข้างหนึ่งขึ้นไปประคองใบหน้าของเธอให้แหงนมองความฉ่ำเยิ้มของร่องรักที่ไหลซึมออกมายามเมื่อถูกทะลวงล้ำเข้าไปจนมิดโคน
ท่อนเนื้อปริ่มน้ำหวานที่สาวเข้าสาวออกทำเอานรินดาร้องเสียงหลง เธอทั้งเสียวทั้งสยิวไปทั้งกายกับภาพที่มองเห็น เขาซอยเร็วขึ้นเรื่อยๆ จับมือเธอไปบี๋ติ่งเสียวไปพร้อมๆ กัน
นรินดาหวีดร้องสุดเสียงเมื่อเธอค้นพบความสุขสุดยอดอย่างรุนแรง
เขาถอดแก่นกายออกจากร่องสวาทหลุดออกมาดัง
พล่อก!!!
หยาดน้ำรักไหลเยิ้มออกมาตามซอกขา ก่อนที่จะได้ยินเสียงสั่นแหบห้าวของเขาดังขึ้นเป็นลำดับถัดมา
“คุกเข่า”
เธอทำตามอย่างว่าง่าย ในขณะที่เขารวบเอวคอดของเธอเอาไว้ พยัคฆ์เสียดสีส่วนปลายของความแข็งแกร่งกับร่องฉ่ำเยิ้ม
นรินดาซี๊ดปากเบาๆ เธอรอคอยเขาอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนที่ความแข็งแกร่งที่โจนจ้วงเข้ามาภายใน ทำเอาเธออ้าปากค้างเมื่อร่องสาวต้องคาบคาความอวบใหญ่ที่บดเบียดเข้าหาเต็มรัก
อุ้งมือใหญ่เลื่อนมากอบกุมทรวงอกอวบอิ่มขยำหนักหน่วงและยึดเอาไว้เพื่อให้เขากระแทกกายเข้าหาได้หนักเน้นยิ่งขึ้น
ไฟฟ้าในห้องสว่างวาบขึ้นมา พร้อมกับฝนที่ซาเม็ดลง นรินดาหน้าแดงซ่านเมื่อก้มมองแก่นกายที่วิ่งเข้าวิ่งออกในโพรงเนื้อสาว หยาดน้ำรักไหลซึมไปตามเรียวขาหยดลงบนพื้นเตียง