อุ่นใจรัก 6

1278 Words
อุ่นใจรัก 6 “หลานอิ่มแล้วก็มากินข้าวนะ” พี่อุ่นใจบอกกับฉันและกินข้าวช้าลง รวมถึงมองฉันอย่างสำรวจอีกด้วย เขามักจะมองฉันอยู่เรื่อย ๆ บางครั้งที่ฉันเหม่อหรือคิดอะไรเขาก็จะเป็นคนชวนคุยทั้งยังชวนดูหนังชวนอ่านหนังสือ ราวกับว่าเขานั้นไม่อยากปล่อยให้ฉันจมดิ่งไปกับอารมณ์ที่เกิดขึ้น เขาใจดีกับฉันมากจริง ๆ นะพี่อุ่นใจน่ะ รวมถึงพี่ ๆ คนอื่น ๆ ด้วย รายการของเกือบสิบอย่างถูกเขียนใส่กระดาษให้พี่อุ่นใจ ส่วนมากเป็นของใช้และอาหารของต้นไม้ ฉันน่ะไม่มีอะไรให้อยากได้หรอกนะ กินอะไรก็ได้บางวันก็ไม่กินเพราะกินไม่ลง แต่ไม่ว่าจะยังไงหลานฉันจะต้องกินอิ่มนอนหลับ “ทำไมมีแค่ของหลานน่ะ บลูอยากได้อะไรเพิ่มไหมพี่ซื้อให้ได้นะ ของใช้ส่วนตัว...” “คือ ไม่มีหรอกค่ะ” “เอ่อ แล้วพวก ของใช้ที่ต้องใช้ทุกเดือนน่ะไม่ต้องใช้เหรอ?” พี่อุ่นใจถามด้วยท่าทีเขินอาย เมื่อได้ยินแบบนั้นฉันก็ฉุกใจคิดว่าใกล้ถึงช่วงรอบเดือนแล้วและไม่มีของใช้ส่วนตัวเลย “งั้น หนูรบกวนพี่ซื้อมาให้ด้วยได้ไหมคะ?” “ได้ พี่เองก็เคยไปซื้อให้น้องสาวอยู่บ่อย ๆ เขียนมาได้เลย” พี่อุ่นใจส่งกระดาษกลับมาให้ฉันจึงเขียนของใช้ส่วนตัวเพิ่มเติมลงไป “พี่อาจจะกลับค่ำเลยนะ ต้องลองไปกดเงินให้เราที่ต่างจังหวัด” “พี่...” “ครับ?” “พี่ระวังตัวด้วยนะคะ ถ้ามันอันตรายพี่ไม่ต้องทำแล้ว” ฉันไม่อยากให้ใครหายไปจากชีวิตฉันอีกแล้ว ฉันตั้งรับไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พี่จะระวัง อยู่ที่นี่ดูแลตัวเองดี ๆ นะอย่าเพิ่งออกไปไหน อดทนก่อนนะครับ” พี่อุ่นใจบอกกับฉันเสียงนุ่มพร้อมกับยกฝ่ามืออุ่นลูบที่เรือนผมฉันอย่างอ่อนโยน แววตาอบอุ่นที่จ้องมองมานั้นทำให้ฉันขอบตาร้อนผ่าวอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ หากไม่มีพวกพี่ ๆ เขาฉันจะเป็นยังไงกันนะ ตอนนี้โทรศัพท์ก็ใช้ไม่ได้ เพื่อนเพียงคนเดียวฉันก็ติดต่อไม่ได้ ไม่รู้เลยว่าตอนนี้จะเป็นยังไงเพื่อนจะเห็นข่าวการสูญเสียในครอบครัวของฉันไหม “เด็กดี เดี๋ยวพี่รีบกลับมาครับ” “ค่ะ” “มีอะไรฉุกเฉิน โทรศัพท์ในห้องกดเลขเพื่อโทรได้เลย มันจะเป็นเบอร์ที่ลิงก์ไว้กับห้องญาติ ๆ ของพี่ที่พักอยู่ที่นี่ และอยู่ชั้นนี้ทุกคน” “...” ญาติของพี่เขาก็อยู่ที่นี่อย่างนั้นเหรอ? “แต่ถ้ากดเลขศูนย์สี่ตัวแล้วโทรออกจะเป็นเบอร์แม่พี่นะ” “ค่ะ” “เอาละ พี่ต้องไปแล้ว เจอกันตอนเย็นครับ” “บุ บุ” ต้นไม้ที่นอนกลิ้งไปมาบนพรมหน้าโซฟาร้องเรียกฉันเสียงเล็กเสียงน้อยพร้อมกับหัวเราะคิกคักยามฉันขยับเข้าใกล้และฟัดพุงเจ้าหมูน้อยของตัวเอง “บลู ไหนเรียกสิ อาบลู” เอ่ยสอนหลานชายที่ตอนนี้ไม่สนใจเรียกฉันแล้ว แต่มือนั้นยื่นไปหยิบขวดนมเข้าปากแล้วขยับเข้ามานอนหนุนตักฉันไว้แทน “อ้าว มาหลับใส่กันแบบนี้ได้ยังไง อาก็เหงาเหมือนกันนะ” เอ่ยบอกหลานชายเสียงเบา สักพักเด็กน้อยก็หลับไปพร้อมกับนมที่หมดขวด ฉันค่อย ๆ ดึงขวดนมออกจากปากเล็กนั่น พร้อมกับขยับออกห่างหยิบหมอนใบเล็กของหลานมาให้หลานได้หนุนสบาย ๆ จากนั้นก็เดินเข้าห้องครัวล้างขวดนมให้หลาน รวมถึงซักเสื้อผ้าทั้งของหลานชาย ของตัวเองและของเจ้าของห้อง เสร็จแล้วก็กวาดและถูพื้นทำความสะอาดห้องเพื่อตอบแทนพี่อุ่นใจที่ให้ฉันและหลานพักอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราว “พ่อ แม่ พี่กาย ทุกคนเป็นยังไงบ้างคะ หนูกับต้นไม้กำลังอดทนและสู้กับความหวาดกลัวอยู่เลย ช่วยเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ” เหม่อมองไปนอกหน้าต่างอย่างเจ็บปวดยามหวนคิดถึงคนที่จากไป งานพิธีต่าง ๆ เสร็จสิ้นไปแล้วโดยมีพี่คิวและครอบครัวช่วยจัดการ น่าแปลกที่ข่าวใหญ่ขนาดนี้แต่ญาติฝั่งแม่ไม่มีใครเข้ามายุ่งด้วยเลย พี่คิวบอกว่างานสวดก็ไม่มีใครมาร่วมงาน ต่างจากตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ที่คนพวกนั้นจะเข้าหาพร้อมกับประจบประแจงและจบด้วยการขอยืมเงินหลายหลัก แต่ในวันที่สูญเสียพวกเขาต่างเมินหน้าหนี ในข่าวที่ออกมานั้นเนื้อหาข่าวแจ้งว่าฉันและต้นไม้บาดเจ็บสาหัส พี่คิวที่เป็นเพื่อนสนิทพี่ชายฉันเลยอาสาเข้ามาช่วยจัดการทุกอย่างให้รวมถึงจัดการเรื่องคดีความ ตลอดทั้งวันฉันนั่งเล่นและทำงานบ้านไปเรื่อยสลับกับเลี้ยงต้นไม้ จวบจนถึงตอนเย็นของวันที่พี่อุ่นใจเคยบอกไว้ว่าเพื่อน ๆ ของเขาจะมาที่ห้อง “วันนี้เรามากินชาบูกันเถอะ” พี่น้ำแฟนพี่คิวเอ่ยบอกกับฉันพร้อมกับรอยยิ้ม เมื่อมีเสียงกดกริ่งหน้าห้องฉันจึงค่อย ๆ เดินมาส่องดูก่อนจะเปิดประตูให้พี่ ๆ ได้เข้ามาในห้อง ตอนนี้หกโมงเย็นแล้วพี่อุ่นใจยังไม่กลับมาเลยล่ะ แต่เป็นพี่คิวและแฟนที่มาถึงก่อน รวมถึงพี่จันจิและพี่ธารเพื่อนในกลุ่มของพี่ ๆ ที่กำลังเดินตามเข้ามาด้วยกัน “หลานทำอะไรอยู่เหรอ?” พี่น้ำเอ่ยถามทันทีเมื่อมองไม่เห็นต้นไม้ แต่จะเห็นได้ยังไงกันละคะ ก็ต้นไม้เล่นซุกตัวใต้ผ้าห่มแบบนั้น ไหนจะแอบอยู่ช่องว่างข้าง ๆ โซฟาอีก “แอบอยู่ค่ะ ตรงนั้น” ฉันชี้นิ้วบอกพี่น้ำ กลุ่มคนที่มาใหม่เมื่อมองตามก็หลุดหัวเราะกันเบา ๆ ยามเห็นก้อนผ้าห่มขยับดุกดิกไม่หยุด “ต้นไม้อยู่ไหนนะ อาน้ำซื้อของเล่นมาให้ด้วยนะ” พี่น้ำแกล้งพูดและเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้ แต่เพราะยังหวาดกลัวต้นไม้รับเปิดผ้าห่มออกรีบคลานมากอดขาฉันไว้ทันที “สวัสดีครับอา ๆ หรือยังลูก” เอ่ยเตือนหลานชายพร้อมกับสอนให้รู้จักทักทายผู้ใหญ่ “ครับ ธุคร้าบ” เด็กน้อยยกมือไหว้พร้อมกับโค้งตัวจนล้มลงกับพรมนุ่ม ๆ เรียกเสียงหัวเราะและสายตาเอ็นดูจากทุกคนได้อย่างดี “สวัสดีครับ วันนี้อาคิวมีของเล่นมาให้ด้วยนะ” พี่คิวหัวเราะเบา ๆ ระหว่างที่ชวนต้นไม้คุย “อาธารก็มี มาดูสิว่าชอบไหม?” พี่ธารชวนต้นไม้พร้อมกับรอยยิ้มใจดี “อ้าว อาไม่มีแต่ขอเล่นด้วยนะ” พี่จันจิเอ่ยบอกกับต้นไม้พร้อมกับเสียงหัวเราะด้วยความเอ็นดู แม้จะมีของเล่นมาหลอกล่อเด็กน้อย มากมายแต่ต้นไม้ก็ยังไม่ไว้ใจให้อุ้ม ทุกคนทำได้เพียงแค่พาเล่นและส่งของเล่นให้เท่านั้น ระหว่างที่พี่ ๆ นั่งเล่นกับต้นไม้ฉันและพี่น้ำก็ช่วยกันเตรียมมื้อเย็นที่เป็นเตาไฟฟ้าและหม้อชาบู ส่วนวัตถุดิบนั้นพี่ ๆ ซื้อเข้ามาแล้วเรียบร้อยเช่นเดียวกัน ==== ต้นไม้คือความสดใสของอาบลูจริงๆ ส่วนพี่อุ่นใจคือพระอาทิตย์ของน้องบลูอีกที...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD