อุ่นใจรัก 12

2046 Words
อุ่นใจรัก 12 “เหมาะที่สุดแล้ว ที่นั่นคือบ้าน...” “พี่ไม่ต้องพูดเลย อะไรก็ไม่รู้” กลายเป็นฉันที่รู้สึกหัวใจเต้นแรงตึกตักกับสิ่งที่เขาเพิ่งเอ่ยบอกมา เขินจนไม่กล้าจะมองหน้าอีกฝ่ายแล้ว ไม่กล้าคิดอะไรไปมากกว่านี้แล้วเช่นเดียวกัน “แก้มแดง” พี่อุ่นใจยังไม่หยุดแกล้ง ฉันมองอีกมองคนงอน ๆ จนอีกฝ่ายที่มองอยู่หัวเราะเบา ๆ และนับว่าเป็นเรื่องดีที่เขาไม่ได้แซวอะไรต่อและขอตัวไปล้างมือเพื่อที่จะกลับมานั่งเป็นเพื่อนฉัน ต้นไม้ยังหลับอยู่ดังเดิม ยิ่งมีสายฝนตกลงมาแบบนี้แล้วด้วย หลานฉันยิ่งหลักสบาย ผื่นที่เคยขึ้นก็ยุบลงไปบ้างแล้ว แต่ตัวยังรุม ๆ อยู่เล็กน้อย ถ้าตื่นจะเช็ดตัวให้อีกรอบแล้วให้กินยาไว้ด้วยเพราะรู้สึกว่าอากาศเย็นกว่าปกติกลัวว่าหลานจะไข้ขึ้นอีกหนึ่งรอบ “เดี๋ยวพี่ออกไปเอานมหลานที่รถก่อนนะ” พี่อุ่นใจกระซิบบอกเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่านมหลานอยู่ในตะกร้าใส่ของที่อยู่ท้ายรถ ส่วนพี่ชุดดำที่ขับรถมาให้เราตอนนี้ไม่อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าพี่เขาหายไปไหนแล้วเหมือนกัน “หนูบลู ตาอุ่นไปไหนแล้วลูก” คุณน้าจี้เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเอ่ยถามฉัน ท่านนั่งลงที่ว่างข้าง ๆ พร้อมกับยกมือลูบที่ศีรษะเล็กของต้นไม้ แววตาท่านอบอุ่นมากเวลาที่จ้องมองคนตัวเล็กที่หลับอยู่ “พี่อุ่นออกไปเอาของค่ะ” “อ๋อ แล้วทำไมถึงเรียกพี่เขาว่าพี่ล่ะลูก?” จู่ ๆ คุณน้าก็เอ่ยถามฉันด้วยรอยยิ้มติดจะเอ็นดู “ก็พี่เขาอายุเยอะกว่า...” “พี่เขาอายุเท่าหนูค่ะลูก แต่ว่าพี่เขาเข้าเรียนก่อนเกณฑ์ปีหรือสองปีนี่แหละ” คุณน้าจี้หัวเราะอย่างเอ็นดู มือยังคงลูบศีรษะเล็ก ๆ ของต้นไม้อยู่ดังเดิม “อ้าว” ฉันพึมพำเสียงเขาอย่างงุนงง “แต่พี่เขาชอบนะลูกที่หนูเรียกแบบนั้น” “ก็ค่ะ หนูไม่ได้โกรธนะคะ แต่ก็งง ๆ ดีค่ะ” ฉันส่งยิ้มเขิน ๆ ให้น้าจี้และรู้สึกอย่างที่บอกจริง ๆ “เรื่องของหนูจี้ เล่าให้แม่ฟังด้วยได้ไหมลูกเผื่อแม่ช่วยอะไรหนูได้บ้าง” “ค่ะคุณน้า” “ไม่เอา เรียกว่าแม่จี้ก็ได้” “ค่ะแม่จี้” “คนเก่งของแม่ เราไปกินข้าวกันเถอะลูกแล้วค่อยมาคุยกันนะ” คุณน้าจี้เอ่ยชวน พร้อม ๆ กับมีแม่บ้านคนหนึ่งเดินออกมาเพื่อเฝ้าต้นไม้ พี่อุ่นเองก็เดินกางร่มกลับเข้ามาใกล้บริเวณหน้าบ้านก่อนจะวางร่มไว้ที่หน้าบ้านแล้วเดินเข้ามาใกล้เรา “ไปกินข้าวก่อนลูก หลานแม่ยังไม่ตื่นเลย” “ครับแม่ บลูเสื้อเราในรถไม่มีเลยเดี๋ยวอาบน้ำแล้วใช้เสื้อพี่ไปก่อนนะ” ระหว่างที่เดินตามหลังคุณน้าจี้เข้าไปยังห้องกินข้าวพี่อุ่นใจก็เอ่ยบอกกับฉันเสียงเบา และจู่ ๆ ฉันนั้นก็อยากจะเอ่ยแกล้งเขาอยู่ไม่น้อยเรื่องที่เข้าชอบให้ฉันเรียกเขาว่าพี่ “อายุเท่ากันนี่คะ ไม่เรียกพี่แล้วนะ” แกล้วแซวอีกฝ่ายพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก พี่อุ่นใจถึงกับหันมามองตาโตแล้วยิ้มเขินยกมือวางบนศีรษะฉันก่อนจะออกแรงโยกไปมา ฉันรู้ว่าตอนนี้เขาคงจะเขินไม่น้อยเลยล่ะที่ฉันรู้แล้วว่าเราอายุเท่ากันและยิ่งมั่นใจว่าเขาเขินเพราะใบหูของเขานั้นขึ้นสีแดงจนชัดเจนยังไงล่ะ “รู้แล้วเหรอ?” “ค่ะ แม่บอกเมื่อกี้” “ก็ชอบนี่นา อยากให้เรียกว่าพี่” “เจ้าเล่ห์นักนะ” แกล้งดุอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะอารมณ์ดีอยู่ไม่น้อย ระหว่างที่เรากำลังกินมื้อเที่ยงกันอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงร้องไห้งอแงของต้นไม้ ฉันรีบเอ่ยขอตัวแล้วกลับออกมาดูหลานทันที ต้นไม้ร้องงอแงไม่หยุดและไม่ยอมให้คุณป้าแม่บ้านเข้าใกล้เลยสักนิด กระทั่งเห็นฉันเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้ก็เริ่มที่จะคลานเข้ามาใกล้ ส่วนฉันเองก็รีบเดินเข้าใกล้หลานแล้วอุ้มเข้ามาแนบออก “แง!!!” แต่พอฉันกอดต้นไม้กลับร้องไห้งอแงเสียยิ่งกว่าเดิม “ชู่ อาอยู่นี่ลูก ใจเย็น ๆ อาอยู่นี่นะคะ” ทั้งกอดและลูบหลังปลอบ เด็กน้อยใช้สองมือเล็ก ๆ กำเสื้อฉันไว้แน่น ปลอบอยู่สักพักก็หยุดร้องไห้แต่ยังสะอื้นอย่างน่าสงสารอยู่ดังเดิม “คนเก่งของอาไข้ลดแล้วนะเนี่ย เก่งมากเลยนะ” ชวนหลายชายคุยเสียงเบาระหว่างที่พาเดินไปนั่งที่โซฟาโดยมีคุณป้าแม่บ้านมองตามทุกการกระทำจนเริ่มที่จะเกร็งขึ้นมาแล้วเช่นเดียวกัน “ฮึก” เด็กน้อยสะอื้นขอบตาแดงก่ำ มือเล็กกำเสื้อฉันไว้แน่นไม่ยอมปล่อย “ต้นไม้ของอาหิวหรือยังนะ หรือจะเช็ดตัวก่อนดี?” ชวนหลานชายคุยเสียงเล็กเสียงน้อย ต้นไม้เป็นเด็กที่ไม่ค่อยงอแง หากได้นั่งเล่นกับของเล่นที่เป็นบล็อกต่อสีสันสดใสหลานจะนั่งเล่นอยู่ได้ทั้งวัน น้อยครั้งที่จะร้องไห้งอแงแบบนี้ แต่ก็เข้าใจอีกนั่นแหละเพราะหลานฉันไม่สบายเลยงอแงเป็นพิเศษ “งั้นเช็ดตัวก่อนนะแล้วเราค่อยมาหม่ำ ๆ กันเนอะ” “หม่ำ ๆ” เด็กน้อยออกเสียงตามราวกับรู้ความหมาย มือเล็กข้างหนึ่งยกขึ้นกำแบ ๆ ยามเอ่ยคำว่าหม่ำ ๆ เป็นอันเข้าใจว่าหมายถึงกินนมอย่างแน่นอน จำได้ดีก็หม่ำ ๆ กับบ๊ายบายนี่แหละเพราะต้นไม้ทำบ่อยมากเวลาที่พี่อุ่นใจจะออกไปทำงานก็จะโบกมือขึ้นลงแล้วพูดคำว่าบ๊ายบายสลับกับเสียงหัวเราะเอิกอ้ากมีความสุข “พาหลานไปที่ห้องพี่ก็ได้ครับ บลูจะได้อาบน้ำด้วยเลย” พี่อุ่นใจที่ไม่รู้ว่าเดินตามออกมาตั้งแต่ตอนไหนเอ่ยบอกกับฉันเสียงนุ่มนวล พร้อมกับช่วยถือตะกร้าใส่ของใช้ต้นไม้เดินนำไปที่ชั้นสอง ฉันอุ้มหลานเดินตามพี่อุ่นขึ้นบันไดไปไม่นานก็เข้ามาอยู่ภายในห้องนอนขนาดกลางที่มีอุปกรณ์ต่าง ๆ ครบครัน พร้อมกับการตกแต่งที่คล้ายกับคอนโดที่ฉันและหลานอาศัยอยู่ในตอนนี้ “ห้องน้ำทางนี้ครับ” พี่อุ่นใจเอ่ยบอกพร้อมกับเปิดประตูห้องน้ำให้เราสองคนอาหลาน ฉันอุ้มต้นไม้เข้าไปมองสำรวจรอบ ๆ ก่อนจะเตรียมผ้าเช็ดตัวและมองหาชามผสมน้ำอุ่นให้หลาน ใช้เวลาเช็ดตัวและทำความสะอาดหลานชายสักพักใหญ่ เด็กน้อยก็ได้อยู่ในแพมเพิสตัวใหม่และเสื้อผ้าตัวใหม่เสียแล้ว หลังจากเช็ดตัวให้หลานเสร็จฉันก็ทาแป้งเด็กให้กับต้นไม้ก่อนจะแต่งตัวให้แล้วฟัดพุงเจ้าเด็กอ้วนของฉันอีกเล็กน้อย “โอ๊ย เบาลูกผมอาจะหมดหัวแล้วนะ” ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งสนุก หลานตัวกลมของฉันยิ่งใช้มือเล็ก ๆ กำเส้นผมฉันไว้แล้วหัวเราะร่าอย่างชอบใจ “ฮา ๆ ๆ ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ” พี่อุ่นใจที่อาบน้ำเพิ่งเสร็จถึงกับหลุดหัวเราะยามเห็นสภาพฉันและหลานชายในตอนนี้ “เล่นนิดหน่อยค่ะ” “มานี่มา ให้อาบลูไปอาบน้ำก่อนครับ” พี่สกายเดินเข้าใกล้พร้อมกับช่วยแกะนิ้วเล็ก ๆ นั่นออกจากเส้นผมฉัน พอแกะออกมาได้ก็พบว่ากำมือเล็กนั่นมีเส้นผมฉันติดไปอยู่หลายเส้น “ชอบนักนะแกล้งอาแบบนี้น่ะ” แกล้งดุหลานมือก็ยื่นไปเก็บเส้นผมออกจากกำปั้นเล็ก ๆ นั่นเกรงว่าหากปล่อยไว้หลานจะเอาเข้าปากไปเสียก่อน “เดี๋ยวพี่ดูให้ ไปอาบน้ำเถอะ เสื้อผ้าพี่เอาของเอมมาให้แล้วเป็นชุดใหม่น่ะ” “ขอบคุณค่ะ ฝากต้นไม้ด้วยนะคะ” “ยินดีครับ เดี๋ยวพี่เฝ้าให้เอง” แม้จะมีคนอาสาเฝ้าให้แต่ฉันกลับใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนั้นไม่นานเลยสักนิด เรียกได้ว่าทำเวลากันสุด ๆ กระทั่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จถึงได้เดินออกจากห้องน้ำ แต่เสียงที่ได้ยินกลับทำให้ฉันหลุดขำเบา ๆ ทันที เจอหน้ากันก็บ่อยนะทำไมถึงยังไม่สนิทกันก็ไม่รู้ “ต้นไม้อย่าคลานหนีอา” “มานี่ก่อน” “กางเกงหลุดหมดแล้ว อย่าไปถอดกางเกงครับต้นไม้” “กรี๊ด!” “โอเค ๆ อาไม่จับแล้วครับ อย่าคลายหนีอาเลยนะ” ภาพที่เห็นคือพี่อุ่นนั่งอยู่ที่พื้นโดยมีต้นไม้คลานหนีแล้วยังพยายามถอดกางเกงตัวเองออกมาด้วยความซน พี่อุ่นใจหลุดขำเสียงเบาเมื่อเห็นว่าจู่ ๆ ต้นไม้ก็ทิ้งตัวนอนหงายบนพื้นยกขาขึ้นทั้งสองข้างโดยที่มือเล็กนั่นกำลังพยายามดึงกางเกงออกจากขา “ต้นไม้ทำอะไรลูก” เอ่ยถามพร้อมกับเดินเข้าใกล้คนตัวเล็ก “บุบุ หม่ำ หม่ำ” นั่นคือสิ่งที่ต้นไม้บอกกับฉัน “งั้นมาหาอาค่ะ อาจะชงนมให้” ต้นไม้คลานเข้าใกล้โดยมีพี่อุ่นเอ่ยอาสาลงไปเอาน้ำร้อนให้ ฉันเปิดผ้าม่านในห้องนอนพี่อุ่นจนภายในห้องนั้นสว่างไสวพร้อมกับด้านนอกที่ยังมีสายฝนตกลงมาอย่างหนัก อยู่ในช่วงพายุเข้าอย่างนั้นสินะ ช่วงนี้น่ะ “หม่ำๆ” “รอก่อนค่ะ อาอุ่นลงไปเอาน้ำให้อยู่นะ” บอกกับต้นไม้แล้วค่อย ๆ อุ้มหลานขึ้นมาแนบอกชี้ให้ดูสิ่งต่าง ๆ นอกหน้าต่าง ซึ่งเป็นต้นไม้และมีดอกไม้สีแดงและสีต่าง ๆ ปลูกอยู่ริมรั้ว “ดอกไม้สวยไหม?” ชี้นิ้วให้เด็กน้อยมองตาม “ฟีฟี” จู่ ๆ หลานก็ส่งเสียงแปลก ๆ ออกมายามมองตามฉันไปยังต้นดอกเข็มสีแดง “สวยใช่ไหม ถ้าเรากลับบ้านได้ อาจะปลูกดอกไม้ให้เยอะ ๆ เลยนะ” เอ่ยบอกหลานเสียงเบา ยามได้เอ่ยถึงบ้านตัวเองฉันกลับพบว่าเสียงตัวเองนั้นสั่นเครืออยู่ไม่น้อย “น้ำมาแล้วครับ” “อ้อ ขอบคุณค่ะ” หันกลับไปส่งยิ้มให้คนที่เพิ่งเดินเข้าห้องนอนมา ฉันไม่อยากให้พี่ ๆ รู้ว่าฉันเศร้า เพราะทุกคนจะเป็นห่วง แค่นี้ที่ทุกคนคอยช่วยเหลือฉันมันก็ยิ่งใหญ่มากแล้วดังนั้นฉันต้องเข้มแข็งให้ทุกคนได้เห็น “หม่ำ” “อารู้แล้วค่ะ ขอชงให้ก่อนนะคะ” ค่อย ๆ วางต้นไม้ลงบนพื้นจากนั้นก็เริ่มชงนมให้หลาน เมื่อได้นมหลานตัวน้อยก็ยกขวดนมเข้าปากทิ้งตัวนอนหงายไปกับพื้น ยังดีที่พี่อุ่นรีบใช้มือรองศีรษะเล็กนั้นไว้ได้ทันเสียก่อน ไม่อย่างนั้นต้องมีเด็กได้ร้องไห้เพราะศีรษะโขกพื้นแน่นอน “พาไปนอนบนเตียงเถอะ” “หลานชอบกลิ้งเล่นกลัวจะตกเตียงน่ะสิคะ” ฉันบอกกับพี่อุ่น ก็เจ้าตัวเล็กชอบกลิ้งไปมาเล่นกับตัวเอง หวุดหวิดที่จะตกเตียงอยู่หลายรอบ ตอนที่อยู่ห้องพี่อุ่นฉันก็ใช้ผ้าห่มปูที่พื้นนอนกับหลานนะ ป้องกันหลานกลิ้งตกเตียง “งั้นเดี๋ยวพี่หาผ้ามาปูให้ก่อน” เอ่ยจบเจ้าของห้องก็รีบเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของเขา ก่อนจะได้ผ้าห่มมาสองผืนพี่อุ่นใช้ผ้าห่มปูที่พื้นว่างใกล้ ๆ กับโซฟาที่ตั้งอยู่มุมห้อง ความหนานุ่มจากผ้าห่มทำให้หลานชายฉันส่ายหน้าไปมาอย่างชอบใจ มือข้างหนึ่งถือขวดนมไว้ให้ตัวเอง ส่วนมืออีกข้างยื่นมาจับนิ้วฉันไว้ ==== แงงง ต้นไม้น่ารักจังเลยลูก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD