“โอ๊ะ!....ว้าย!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นหลังจากที่หญิงสาววิ่งห่างออกมาได้ไม่นาน อารามรีบทำให้เธอสะดุดรากไม้ในความมืดก่อนร่างบางจะล้มลงซ้ำยังกลิ้งไปตามทางลาดที่มองไม่เห็นและกระแทกกับโคนไม้ใหญ่เข้าอย่างจัง
“โอย!...โอย!...” ปรายฟ้าร้องครางในความเงียบงันมีเพียงแสงจันทร์สาดส่องกับความรู้สึกเจ็บปวดไปหมดทั้งตัวโดยเฉพาะที่ขาซึ่งเมื่อเธอฝืนหยัดกายขึ้นนั่งก็เห็นรอยน้ำเหนียวข้นไหลออกมาเป็นทางยาวน่าตระหนกยิ่งนัก เธอได้รับบาดเจ็บจากความเร่งรีบและขลาดกลัวที่มีท่วมท้น ทว่าก่อนหญิงสาวจะได้ตัดสินใจทำอะไรต่อไปกลับต้องหยุดชะงักเมื่อเท้าของใครคนหนึ่งเหยียบย่างลงบนพื้นตรงหน้าเธอ
“เขมราช!”
“ผมบอกคุณแล้วใช่มั้ย ปรายฟ้า!...อย่าคิดลองดีกับผม”
“คุณเขมราช...ได้โปรดเถอะนะ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันอยากกลับบ้าน!”
หญิงสาวยกมือทั้งสองขึ้นแนบอกละล่ำละลักบอกเขาด้วยน้ำตา หากแต่ชายหนุ่มกลับกระชากตัวเธอเข้ามาใกล้ใบหน้าที่ฉาบทาด้วยโทสะร้อน ปรายฟ้าไม่มีโอกาสจะพูดอะไรได้อีกเมื่อคางเรียวถูกมือหนาบีบไว้ เจ็บปวดจนน้ำตาไหลหากก็ตอบโต้อะไรคนป่าเถื่อนอย่างเขมราชไม่ได้เลย
“คุณได้กลับแน่ ปรายฟ้า...คุณจะได้กลับบ้าน แต่ต้องหลังจากที่ร่างกายของคุณบอบช้ำยิ่งกว่าซากศพเพราะชีวิตของคุณจะถูกฝังไว้ที่นี่!...อย่าอวดดีถ้าคุณมาอยู่ในป่า บางทีทางที่คุณคิดว่าจะได้กลับบ้าน อาจจะเป็นทางไปนรกก็ได้...ไปกันได้แล้ว...ผมเสียเวลากับคุณมามากพอ ผมจะตอบแทนความอวดดีอวดเก่งของคุณซะเดี๋ยวนี้ล่ะ!”
สิ้นคำชายหนุ่มจึงยกร่างนั้นขึ้นพาดไว้บนบ่าโดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องและการดิ้นขัดขืนซึ่งก็ดูราวเป็นความพยายามอันสูญเปล่าภายใต้รัตติกาลอันมืดมน
“ปล่อยฉันนะ!...คนบ้า!...ถ้าฉันออกไปได้ฉันจะแจ้งตำรวจ...ฉันจะ...”
ปรายฟ้ายิ่งเหนื่อยหอบและรู้ว่าตัวเธอตกอยู่ในความตีบตันของทุกเส้นทาง เขมราชวางร่างของเธอลงข้างรถก่อนจะดึงเชือกบนข้อมือร่างเล็กออก หญิงสาวนึกใจชื้นเพียงชั่วครู่แต่แล้วก็ต้องพบกับสิ่งที่น่าพรั่นพรึงยิ่งกว่านั้นเมื่อร่างสูงใหญ่หันไปเปิดประตูด้านหลังเพื่อดึงโซ่เหล็กออกมาไว้ในมือ
“นี่มันอะไรกัน!...คุณจะทำอะไรฉันอีก...ในเมื่อฉันก็หนีคุณไม่ได้แล้วคุณจะเอายังไงอีก คุณเขมราช!”
“เชือกเส้นเดียวมันยังน้อยไปสำหรับผู้หญิงเจ้าเล่ห์เพทุบายอย่างคุณ ถ้าไม่ทำให้คุณเห็นซะบ้างว่าการอวดดีกับผมมันเป็นยังไง คุณก็ไม่มีวันหลาบจำ!”
“ไม่นะ!...อย่าทำกับฉันแบบนี้ ฉันเป็นคนนะคุณเขมราช คุณมัดฉันไว้กับโซ่อย่างพวกสัตว์ไม่ได้!”
เขมราชดึงร่างนั้นเข้ามาหาตัวเขาหากก็ต้องชะงักเมื่อหญิงสาวอ่อนเปลี้ยไปหมด แทนที่จะใช้โซ่มัดเธอตามความตั้งใจกลับต้องตระกองกอดเธอไว้เมื่อก้มลงดูที่เรียวขาใต้กระโปรงขาดวิ่นมีธารโลหิตไหลออกมาเป็นทางยาว
“คุณเขมราช...ได้โปรดเถอะนะคะ ปรายเจ็บไปหมดแล้ว ปรายหนีคุณไปไหนไม่ได้แล้ว”
ยามนี้ใบหน้าของเขาและเธอห่างกันเพียงคืบและเสมือนมีอะไรบางอย่างจุดประกายขึ้นมาท่ามกลางความเคียดแค้นและอาการขัดขืนของร่างอรชรหากทว่าอ่อนหวานในอ้อมแขนนั้น แววตาของปรายฟ้าบอกความเว้าวอนร้องขอความเห็นใจแต่สิ่งที่ชายหนุ่มทำได้คือตอบรับความเย้ายวนด้วยการประกบริมฝีปากเพื่อดูดกลืนความนุ่มนวลนั้นเสีย ปรายฟ้าทั้งตื่นตกใจและวาบหวิวนักในคราเดียว เธอแค่อยากให้เขาปราณีใช่มาทำแบบนี้กับจำเลยที่เขาหยาบเถื่อน หญิงสาวตัวแข็งด้วยไม่เคยตั้งรับสัมผัสจากชายใดเลยในชีวิต ลิ้นเล็กในปากอิ่มยังขาดประสบการณ์หากแต่หวั่นหวามยิ่งเมื่อถูกลิ้นสากหนาของชายแปลกหน้าล่วงล้ำเข้ามาเป็นครั้งแรก หากก็เพียงครู่เดียวราวต่างใช้ความพยายามถอนสติกลับคืนจากบ่วงอารมณ์ชั่วแล่นที่คล้องกระหวัดความปั่นป่วนของทั้งสองเข้าหากันโดยไม่ทันรู้ตัว ทันทีที่เขาถอนริมฝีปากออกจากใบหน้าของหญิงสาว ความเคียดขึ้งก็แล่นปรี่เข้าจับหัวใจและนัยน์ตาเข้มคลั่กของเขมราชอีกหน ปรายฟ้ายืนตาค้างตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกแม้แต่จะร้องไห้น้ำตาเจ้ากรรมก็พาลไม่ยอมไหลในขณะที่ชายหนุ่มก็ขัดใจใยจึงเผลอไผลตัวเองไปกับผู้ที่อยากลงโทษได้ถึงเพียงนี้
“ผู้หญิงจอมมารยาอย่างคุณน่าจะเป็นดาราระดับรางวัล ขนาดผ่านมือผู้ชายเจนจัดอย่างไอ้ก้องกาจมาแล้วก็ยังทำเหมือนตัวเองไร้เดียงสาไม่รู้จักจูบว่าต้องทำยังไง...ผมไม่หลงกลคุณหรอก ปรายฟ้า คุณยังต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับเขมราชคนนี้อีกนาน!”
บทที่ ๒ ความจริงอันเจ็บปวด
ปรายฟ้าจำยอมให้เขมราชใช้โซ่มัดตัวเธอยิ่งกว่านักโทษคดีอุกฉกรรจ์ หญิงสาวข่มความเจ็บตามเนื้อตัวและบาดแผลบนเรียวขาซึ่งมีเลือดไหลออกมามากจนน่าตกใจ หากแต่ร่างสูงใหญ่ก็ยังมีเมตตาอยู่บ้างด้วยการเอาเสื้อแขนยาวตัวโคร่งบนเบาะด้านหลังพันแผลไว้แค่ห้ามเลือดไม่ให้ไหลออกมามากกว่าเดิม
“คุณจะหนีไปไหนได้ในป่าตอนกลางคืนแบบนี้ คนเมืองอย่างคุณถ้าไม่ตกเหวตายก็คงถูกสัตว์ร้ายแถวนี้มันคาบไปกิน นึกว่าสนุกนักรึไงคิดจะวิ่งไปไหนก็ไปได้ ถ้าเกิดคุณตายขึ้นมาผมก็เสียเวลาแย่ที่อุตส่าห์ไปพาตัวคุณมาแบบนี้”
เขมราชเปรยเสียงเบาลงกว่าเดิมขณะเข้าเกียร์และเหยียบคันเร่งพารถเดินหน้าฝ่าหนทางขลุกขลักไปต่อ ปรายฟ้ามองด้วยสายตาอย่างจะกินเลือดเนื้อทว่าก็ทำได้เพียงนั่งนิ่งอยู่ในบ่วงโซ่ที่เขาพันธนาการไว้รอบตัวเธอตั้งแต่อกลงไปถึงเอว
“คุณฆ่าฉันซะเลยสิ!..คุณฆ่าฉันซะเลย ชีวิตของฉันจะได้ไม่ต้องไปเบียดบังเวลาของคนบ้าอย่างคุณ!”