ปิดฉากรัก #2
:: สงคราม ::
:: SONG-KRAAM TALK ::
“คราม... พอก่อน”
“พออะไร? เพิ่งจะแตกไปรอบเดียวเอง” เงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงที่ผมกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่บนเตียงในไนต์คลับแห่งหนึ่ง หลังจากที่ออกจากห้องมาผมก็นั่งดื่มอยู่กับพวกไอ้เดย์และฟาดผู้หญิงคนหนึ่งที่เชิญชวนให้ผมมาขย้ำในห้อง หากแต่เพิ่งจะทำไปแค่รอบเดียว หล่อนก็ออกอาการเหนื่อยหอบจนผมขมวดคิ้ว
แย่... แค่นี้ก็รองรับอารมณ์ดิบของผมไม่ได้
“น่าเบื่อ”
“สงคราม”
“ทีหลังถ้าไม่อึด อย่าชวนฉัน หมดอารมณ์” ชันตัวขึ้นดึงถุงยางอนามัยออกและโยนทิ้งไปกองกับอันแรกที่ถูกใช้งานจนน้ำอุ่นร้อนของผมถูกกักขังไว้ในนั้น
สวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง หย่อนก้นลงบนโซฟาที่มีไอ้เดย์นั่งอยู่กับเพื่อนๆ ผมที่ไม่ค่อยสนิทด้วยอีกสองสามคน
“น้องม่านฟ้าลงรูปในอ่าง แม่งอยากลงอ่างด้วยว่ะ” เหล้าที่กรอกผ่านลำคอเกือบจะพุ่งออกมาเมื่อผมหรี่สายตามองพวกมันซึ่งกำลังสุ่มหัวกันดูภาพของม่านฟ้า ยัยเด็กตัวแสบที่ขโมยหอมผมโดยไม่ทันตั้งตัว
“ชักจะเหี้ยใหญ่แล้วนะไอ้เดย์” ผมพูดขึ้นมาลอยๆ เรียกสายตาของพวกมันทันที
“อะไร?”
“มองรูปผู้หญิงแล้วคิดเรื่องใต้สะดือ ไม่รู้จักอย่าทำตัวทราม”
“ว้าว! นี่มันไอ้ครามปะเนี่ย ทำไมทำตัวเป็นผู้พิทักษ์สาวอะ” ไอ้เดย์ขยับตัวมากอดคอผม และยื่นมือถือให้ผมดูรูปของม่านฟ้าที่อยู่ในอ่าง เห็นเพียงแค่ครึ่งใบหน้าเท่านั้น
รูปนี้... น่ารักดีแหะ
“ดูดีๆ รูปนี้ไม่ได้มีส่วนไหนให้มึงคิดลามกเลยนะ”
“อ้าวไม่ให้คิดลามกได้ไง ในฟองสบู่นั้นอะมี...”
“ความคิดเหี้ยๆ” พูดพลางสะบัดตัวออกจากการเกาะกุม “โฟกัสสีหน้าและแววตาสิ มึงมองทะลุฟองสบู่ทำห่าไร”
“อะไรของมึงวะเนี่ยไอ้คราม ถ้าไม่ให้โฟกัสตรงนี้จะให้บอกว่าอะไรอะ”
“ก็... น่ารักไง” พวกมันถึงกับเงียบไปทันทีเมื่อผมพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก เพราะไนต์คลับที่นี่ให้สูบบุหรี่ได้แต่ไม่เกินสองมวน ซึ่งถ้าผมอยากคงจะออกไปสูบข้างนอกแล้วล่ะ
“น่ารัก”
“อือ น้องน่ารักดี” ผมไม่ให้พวกมันรู้เด็ดขาดว่าม่านฟ้ากับผมเราสองคนรู้จักกัน ไม่อย่างนั้นพวกมันต้องพากันให้ผมแนะนำให้รู้จักแน่นอน ไม่ใช่อะไรนะ
มันวุ่นวาย ผมรำคาญ
“ไอ้ครามแม่งนิสัยเปลี่ยนอะ ถึงจะยังคงความเจ้าชู้แบดบอย แต่เรื่องใต้สะดือที่เคยพูดได้โต้งๆ กลับอาย”
“เออเรื่อของกู” สูบเอาควันเข้าปอดจนหมดมวนและพ่นควันใส่หน้าไอ้เดย์ “กูไม่อยากเอาผู้หญิงมานินทาหลังจบเรื่องบนเตียง หรือเอามาพูดเรื่องลามก เรื่องทางเพศ”
“...”
“มันหน้าตัวเมีย กูไม่อยากเป็น” ยักไหล่ใส่พวกมันและยกวิสกี้แก้วสุดท้ายขึ้นดื่ม โดยที่พวกมันมองผมด้วยสีหน้าอึ้งๆ ไม่ใช่เพราะอะไร ผมแค่ไม่อยากทำตัวเป็นผู้ชายที่หน้าตัวเมีย เอาผู้หญิงมาพูดจาหยาบๆ คายๆ มันไม่โอเลย
ถ้าเมื่อก่อนผมจะมองผู้หญิงพวกนั้นและเอามาพูดจาแบบพวกมัน หลังเสร็จสมบนเตียง ใครเด็ดยังไงจะเอามาแชร์กัน... แต่ ณ ตอนนี้ผมไม่คิดแบบนั้น ผู้หญิงพวกนั้นอาจจะอายมากด้วยซ้ำถ้าเรื่องของตัวเองถูกเล่าต่อจากปากผู้ชายที่เธอแค่ต้องการนอนด้วย
ผมไม่ใช่คนดี แต่ก็ไม่อยากกลับไปเลวสุดขั้วเหมือนเมื่อก่อนก็เท่านั้น
“ทำเป็นพูดดี ก็ยังเอาไม่เลือก”
“แต่กูโสด ไม่แปลก” ลุกขึ้นหยิบกุญแจรถพร้อมด้วยมือถือ “อีกอย่างมันคนละเรื่องกัน”
“ไอ้เหี้ยคราม ด่าพวกกูเสร็จแล้วเดินหนีอ่อ!”
ชูนิ้วกลางให้มันก่อนจะออกจากไนต์คลับและขึ้นรถขับออกจากที่นี่ทันที นับตั้งแต่เลิกรากับดีเทลไป ชีวิตของผมก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเดิม คือการทำตัวเจ้าชู้ แบดบอยไปเรื่อยเพราะอะไร เพราะไม่มีอีกต่อไปไงที่ใครจะเสียใจกับผมเพราะเรื่องนี้อีก ผมไม่อยากผูกมัดกับใคร ต่อให้ใครเข้ามาทำให้หวั่นไหวก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น
มันจะไม่ตลอดไปเหมือนดีเทลกับทิศเหนือ... ผมบอกตัวเอง ต่อให้ตัวเองยังเลวอยู่ แต่ก็ขอลดเลเวลลงสักนิด อย่างเช่นการเอาเรื่องบนเตียงหรือเรื่องผู้หญิงมานั่งพูดในเชิงส่อทางเพศ แบบนั้นมันไม่แฟร์กับผู้หญิง
ซึ่งผมบอกแล้วไงว่าผมก็ไม่ใช่คนดีอะไร การที่ผมไปหลับนอนกับผู้หญิงคนอื่น นั่นหมายถึงผมทำเพราะผมยังโสด ถ้าเกิดมีใคร... มันคงจะไม่มีวันนั้น ถึงเวลาผมก็จะหยุดตัวเอง ดีเทลสอนอะไรผมหลายๆ อย่าง ทิศเหนือเองก็เช่นกัน
ผมจะไม่ยอมทำลายใครอีกแล้ว พอกันทีกับสิ่งที่ตัวเองเคยเป็น ดังนั้นผู้หญิงที่มาหลับนอนด้วยกันก็แค่ one night stand เท่านั้น
ลิฟต์คอนโดเคลื่อนตัวขึ้นไปยังชั้นที่ผมต้องการ ก่อนจะยกข้อมือดูเวลาซึ่งตอนนี้ก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนแล้ว ชีวิตของผมก็ไม่มีอะไรมากนักหรอกนะ วันๆ อยู่กับห้อง เล่นเกม ไปสังสรรค์จบด้วยหาหญิงสักคนหลับนอน
บอกแล้วไงว่าขอใช้ชีวิตเสเพลแบบนี้สักพัก เรื่องอนาคต งานค่อยกันอีกทีแล้วกัน
ติ้ง
เสียงประตูลิฟต์เปิดขึ้น ผมล้วงมือลงกระเป๋ากางเกงยีนขาดสีดำ ยกมือข้างซ้ายปิดปากตัวเองเพราะง่วงนอนแล้วเหมือนกัน แต่ก็หิวจนท้องร้อง คงต้องหาอะไรกินสักหน่อยก่อนนอนสินะ คิดเมนูอยู่ในหัวเดินเลี้ยวโค้งตรงไปยังไม่ถึงห้องเลยด้วยซ้ำ สายตาของผมก็หรี่มองไปยังหน้าห้องตัวเอง
ใครมานั่งหลับที่หน้าห้องกูวะ?!
คิดได้ดังนั้นจึงสาวเท้าเร็วขึ้น หยุดตรงหน้าประตูห้องและนั่งลงย่อก่อนจะมองใบหน้าสวยเรียวซึ่งกำลังหลับอยู่ แถมข้างกายยังมีปิ่นโตลายดอกไม้สีชมพูอยู่ด้วย
ให้ตายเหอะ... เธอนี่มัน จะมากเกินไปแล้วนะม่านฟ้า
“ปล่อยให้นอนแบบนี้ซะดีมั้ง” ถึงจะพูดแต่ในหัวกลับไม่ได้คิดแบบนั้นเลยสักนิด ยิ่งพอเห็นหน้าเธอก็พาให้นึกไปถึงเรื่องที่ไอ้เดย์คุยเกี่ยวกับเธอในโซเชียล มันก็พาให้ส่ายหน้ากับสิ่งที่เธอกระทำ
คิดว่าดีหรือไงถึงได้ถ่ายรูปแบบนั้นอัพลงโซเชียล ให้ใครต่อใครรับรู้ว่าตัวเองทำอะไร อยู่ที่ไหนหรือให้ผู้ชายชอบที่จะมองอย่างคุกคาม คอมเมนต์รูปอย่างคนต้องการทางเพศสูง คิดแบบนั้นก็ยิ่งปวดหัว
ยิ่งทิศเหนือไม่อยู่ ใครกันจะช่วยกันผมออกจากเธอล่ะ ถ้าไม่ใช่ตัวของผมเอง
“ม่านฟ้า” เรียกเธอพลางเขย่าไหล่เบาๆ แต่เธอกลับปัดมือผมออก “ขี้เซาฉิบหายเลย”