ข้าจะย้ายไปอยู่นอกเมือง

1747 Words
ก่อนจะถึงเวลาตลาดนัดไท่หยางปิดวันนี้..คนที่คิดว่าน่าจะมีความสุขมากที่สุดคงเป็นหว่าหวา แต่ไม่ใช่กลับเป็นคนที่กำลังยิ้มให้กับถ้วยขนมหวานอยู่กระมังที่มีความสุขที่สุด “ท่านเจ้าเมือง ท่านกินขนมหลายถ้วยแล้วนะเจ้าคะ เดี๋ยวจะปวดท้องเอาได้พอเถิดเจ้าค่ะ” ‘นี่เขาจะกินเผื่อไปถึงชาติหน้าเลยหรือยังไงนะ’ หวาหวาอดเป็นห่วงไม่ได้หากปวดท้องขึ้นมาจะมากล่าวหาว่าเป็นเพราะขนมของนางไม่ได้เด็ดขาด “อีกตั้งสองวันกว่าจะได้กินอีก ข้าถึงได้กินเผื่อนี่ไง” “แค่สองวันเจ้าค่ะไม่ใช่ตั้งสองวัน หากท่านชอบจริงๆ วันไหนตลาดนัดไม่เปิดข้าเอาไปส่งให้ที่จวนก็ได้เจ้าค่ะ” เห็นใจเพราะเห็นว่าชอบขนมที่นางทำหรอกน่า มือที่กำลังตักขนมหวานอยู่นั้นพลันชงักค้าง มุมปากก็ยกยิ้มอย่างกระหยิ่มใจ ‘ส่งที่จวนหรือดียิ่ง’ “เจ้าพูดแล้วนะหากตลาดนัดไม่เปิดวันใดเจ้าต้องเป็นคนไปส่งขนมให้ข้า” “เอ๋...ทำไมต้องเป็นข้าเอาไปส่งด้วยเจ้าคะ คนอื่นก็เอาไปได้นี่” “เจ้าเป็นคนพูดเองอย่าได้บิดพริ้ว ต่อหน้าข้าอย่าได้เสียวาจา” ดูสิว่าเจ้าจะกล้าปฏิเสธข้าหรือไม่ ไท่หว่าหวา “ข้าไปส่งเองก็ได้เจ้าค่ะ” หว่าหวาเอ่ยขึ้นด้วยเสียงกระเง้า กระงอดและขัดใจเป็นอย่างยิ่ง จะอะไรนักหนานะท่านเจ้าเมืองเนี่ย จะเป็นใครไปส่งก็เหมือนกันไม่ใช่หรือยังไง เวลาผ่านไปสองเค่อ ดูเหมือนคบเพลิงใหญ่ด้านบนใกล้จะมอดแล้วแต่คบเพลิงเล็กๆ หลายอันด้านล่างก็ยังคงลุกโชนอยู่ เพื่อให้ความสว่างกับเหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่ยังเก็บของไม่ทันเสร็จ เปิดตลาดนัดไท่หยางวันแรกถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากมาย หว่าหวาแอบส่งคนออกไปซื้อของสดที่ยังขายไม่หมดมาเก็บไว้ทันที แม้แต่กลุ่มของท่านเจ้าเมืองก็อุดหนุนสินค้าของชาวบ้านไปไม่น้อยเช่นกัน... “คุณหนูหว่าหวา พรุ่งนี้จะไม่เปิดตลาดนัดจริงหรือขอรับ” ท่านลุงผู้หนึ่งที่อยู่ในกลุ่มของของพ่อค้าแม่ค้าได้เดินมาหาหว่าหวาและเอ่ยถามนางขึ้นมา ท่านลุงผู้นี้คงจะถูกรบเร้าจากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าให้มาถามนางกระมัง “หากเปิดทุกวัน ตลาดนัดของเราก็คงจะเหมือนตลาดอื่นๆ ที่มีดาษดื่นทั่วไปเพียงแค่เปลี่ยนเวลาขายก็เท่านั้น มันจะมีอะไรน่าสนใจตรงไหนเจ้าคะ หากเปิดทุกวันคนซื้อก็จะมาบ้างไม่มาบ้าง แต่หากเราขายหนึ่งวันและหยุดสองวันเช่นนี้คนซื้อก็จะตั้งตารอคอยวันที่ตลาดนัดจะเปิด ไม่แน่ว่าต่อๆ ไปลูกค้าของเราจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น แล้ววันนี้ท่านลุงนำสิ่งใดมาขายหรือเจ้าคะ” “ที่คุณหนูกล่าวมานั้นข้าเข้าใจแล้ว..วันนี้ข้านำปลาสดมาขายและขายหมดแล้วด้วย ขอบคุณมากขอรับคุณหนู” “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านลุง หากปลามันเยอะนักท่านลุงก็ทำปลาแดดเดียวหรือปลาแห้งไว้ขายด้วยก็ได้นะเจ้าคะ ท่านลุงจะได้มีสินค้าขายเพิ่มดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าสังเกตเห็นลูกค้าหลายคนของเราก็เป็นขาจร ข้าหมายถึงลูกค้าที่กำลังเดินทางและแวะหาซื้อเสบียงน่ะเจ้าค่ะ หากพวกท่านมีของสดเยอะจนขายไม่หมดก็นำมาแปรรูป เช่น นำมาทำเป็นของแห้งหรือนำไปหมักดองก็ดีไม่น้อยนะเจ้าคะ” “ดีขอรับแล้วพวกข้าจะลองทำอย่างที่คุณหนูแนะนำเช่นนั้นพวกข้ากลับก่อน เดินทางกลับปลอดภัยนะขอรับคุณหนู” พวกเขาเห็นท่านเจ้าเมืองนั่งนิ่งไม่ไหวติงอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยกล่าวคำลา เหตุใดท่านเจ้าเมืองยังคงอยู่ที่นี่ เหล่าลูกค้าที่อยู่ในเมืองก็กลับเข้าเมืองกันหมดแล้วนี่นา เออ..ช่างท่านเจ้าเมืองเถอะพวกเขาก็แค่ชาวบ้านธรรมดาจะไปกล้าสงสัยท่านเจ้าเมืองได้อย่างไร “พวกท่านเช่นกันเดินทางกลับปลอดภัยนะเจ้าคะ” การสนทนาแบบเป็นกันเองระหว่างหว่าหวากับเหล่าพ่อค้าแม่ค้า ได้อยู่ในสายตาของเถียนฟงอวี้ตลอดเวลา หัวใจที่พองแน่นคับอกเช่นนี้เพิ่งจะเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เขาไม่เคยพบเจอสตรีเช่นนางมาก่อน ครั้งแรกเจอก็แค่สนใจต่อมาก็อยากกลั่นแกล้งอยากเรียกร้องความสนใจจากนางบ้าง แต่ตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองนั้นเริ่มชอบนางเข้าแล้วล่ะ... “ท่านเจ้าเมืองเจ้าคะ” นั่งนิ่งขนาดนี้หลับในหรือยังไงกันนะ “หืม...” “ไม่กลับเข้าเมืองหรือเจ้าคะ” “ข้าจะกลับพร้อมเจ้า” เขาเอ่ยบอกนางเบา “ท่านจะกลับพร้อมข้าได้อย่างไรกันเมืองเถียนไปทางโน้น ส่วนจวนของข้าอยู่ทางนี้ คนละฝั่งเลยนะเจ้าคะ” พลางชี้มือชี้ไม้แยกฝั่งให้เห็น คงจะกินทับทิมกรอบมากจนเลอะเลือนกระมัง คิกๆ “อีกไม่นานข้าก็จะกลับทางเดียวกันกับเจ้า” ฟงอวี้พึมพำไม่ได้หวังจะให้นางได้ยิน “คุณหนูทุกย่างจัดเก็บเรียบร้อยดีแล้วขอรับ มีพ่อค้าต่างเมืองและหมู่บ้านอื่นตั้งกระโจมอยู่เจ็ดหลังขอรับ พวกเขาจะตั้งกระโจมอยู่อีกเจ็ดวันนะขอรับคุณหนู” ผู้ช่วยมือขวาของหว่าหวา เลขาชานนี่เอง ที่เป็นผู้มาบอกกล่าวแก่นาง “อืม..ขอบคุณมากเจ้าค่ะพี่ชาน” ‘พี่เช่นนั้นหรือ นางสุภาพกับลูกน้องเกินไปหรือไม่’ เจ้าเมืองหนุ่มรู้สึกขัดเคืองในใจไม่น้อยกับคำที่หว่าหวาใช้เรียกคนของนาง “ท่านเจ้าเมืองเรากลับกันเถิดเจ้าค่ะ ข้าขอบคุณท่านที่มาในวันนี้เดินทางปลอดภัยเจ้าค่ะ” “อืมม..เจ้าก็เช่นกันเดินทางกลับปลอดภัยแล้วพรุ่งนี้เจ้าอย่าลืมขนมหวานของข้าเสียล่ะ” “ท่านจะให้ข้าไปส่งท่านด้วยตัวเองจริงๆ หรือเจ้าคะ” ที่ถามเช่นนี้เป็นเพราะนางไม่ได้อยากเข้าเมืองบ่อยๆ นี่นา... “เจ้าอย่าคิดมากไปข้าเพียงล้อเจ้าเล่นเท่านั้น หากมีคนเข้าเมืองค่อยให้เขาเอาไปส่งข้าก็ได้” หึ ไม่นานหรอกนะข้าจะมาให้เจ้าเห็นหน้าทุกวันเองคุณหนูหว่าหวา เช้าวันถัดมาวันนี้จะเป็นอีกวันที่หว่าหวาต้องเหนื่อยอีกแล้วตอนนี้ครอบครัวไท่ได้ขยายใหญ่ขึ้นเยอะเลย จากที่เคยอยู่กันแค่หกคนตอนนี้มีร้อยกว่าชีวิตแล้ว มีเด็กที่อายุพอๆ กับน้องเล็กนับสิบคนและเป็นสตรีอีกเจ็ดคนรวมถึงป้าเหมยด้วย พวกเขาเหล่า นี้เป็นคนในครอบครัวของผู้คุ้มกันและคนงานเก่าทั้งนั้นพวกเขาต่างก็คุ้นเคยกับครอบครัวไท่ดีและเป็นคนที่ไว้ใจได้ ถึงจะไม่ดีเลิศแบบพี่ชานก็เถอะ แต่ละคนก็เคยผ่านทุกข์ผ่านสุขมาก็มากตำหนินั้นย่อมมีติดตัวแต่หว่าหวาก็ปล่อยผ่านมันไป เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงมากนัก กลุ่มคนงานที่อยู่ระแวกใกล้เคียงหลายคนก็จะเดินทางมาทำงานเช้ามาเย็นกลับทำเช่นนี้ไปก่อน รอให้สร้างเรือนพักเสร็จค่อยให้พวกเขาย้ายเข้ามา ตอนนี้ท่านอาให้ช่างมาดูที่ทางที่จะสร้างเรือนพักคนงานเพิ่มแล้ว กระบวนการต่างๆ ท่านอาเป็นคนจัดการเองทั้งหมดหว่าหวาจะไม่เข้าไปยุ่ง ส่วนตอนนี้นางได้นำคนงานที่เหลือให้ไปช่วยกันปรับพื้นดินหนึ่งในสามส่วนเพื่อเตรียมการเพาะปลูกอีกสองส่วนที่เหลือก็ค่อยเว้นช่วงเวลาปลูก..ระยะเวลาที่จะเก็บเกี่ยวจะได้ไม่พร้อมกันสลับกับตังเซียมบนเขานั่นก็คงจะพอดี..ยังดีที่ลำธารบนที่ดินผืนนี้ไม่เคยเหือดแห้งแต่นางจะให้คนงานขุดหาตาน้ำแถวๆ นี้ดูเผื่อจะโชคดี หว่าหวาจะลองใช้ดวงตาสวรรค์ดูก็แล้วกัน ที่จวนเจ้าเมืองคืนนั้นหลังจากเถียนฟงอวี้ได้กลับจากตลาดนัดไท่หยาง... “กลับเสียดึกเลยนะขอรับท่านเจ้าเมือง ต้องดูแลความเรียบ ร้อยจนตลาดเลิกเลยหรือขอรับ” “อาเฟย! เจ้ามาทำอะไรทำไมไม่รู้จักไปหลับไปนอนนี่มันก็ดึกแล้วนะ” “ก็รู้ว่าดึกนะคืบหน้าบ้างหรือไม่เล่า ข้าอุตส่าห์ให้เวลาตั้งค่อนคืนเชียวนะ เฮอะ! คงจะไม่สินะรู้อย่างนี้ข้าคงไม่กลับมาพร้อมกับท่านปู่หรอก” “อาเฟย..ข้าจะย้ายไปอยู่นอกเมือง” “หืม..ไปอยู่ที่ใดเจ้าไม่มีจวนอยู่นอกเมืองหากเป็นจวนของแม่นางไท่ข้าเกรงว่ามันจะไม่งาม” ฟงอวี้เจ้าต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ “ไม่มีจวนก็สร้างสิ ข้ามีที่ดินและข้าก็มีเงินนี่นา” “ที่ของเจ้า” “อืม..หุบเขาถานซานยังไงล่ะ” “เช่นนั้นข้าจะไปอยู่กับเจ้าด้วย ข้าอุตส่าห์ถ่อมาอยู่ที่นี่เจ้าจะมาทิ้งข้าไปไม่ได้นะ” ฟงอวี้รู้สึกระอาใจกับความงอแงเป็นเด็กๆ และความเอาแต่ใจของสหายคนนี้จริงๆ อาเฟยติดเขาแจติดจนเกินไป เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้วจึงเป็นเขาที่คอยดูแลอาเฟยตลอดมา “ข้าไม่ได้ไปวันนี้หรือพรุ่งนี้เสียหน่อยเมื่อสร้างจวนเสร็จก็ค่อยว่ากัน พอถึงตอนนั้นเจ้าอาจจะมีนางในดวงใจแล้วเกิดเปลี่ยนใจก็ได้” “ไม่มีทาง..ข้าไม่มีทางมีนางในดวงใจหรอกสตรีเช่นพี่หญิงใหญ่และเหล่าองค์หญิงนั่นข้าเกลียดยิ่งนัก..ฟงอวี้เจ้าคงไม่รู้พวกนางชอบรังแกข้าข้าถึงต้องขอเสด็จปู่มาอยู่กับเจ้าที่นี่ยังไงล่ะ” “ข้าขอโทษข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าพวกนางรังแกเจ้าเช่นนี้” สตรีแซ่เถียนช่างนิสัยแตกต่างจากบุรุษแซ่เถียนยิ่งนัก แม้แต่เหล่าสตรีที่แต่งเข้าราชวงศ์ยังเย่อหยิ่งยโสและจองหอง ดูตัวอย่างท่านย่าของเขาเอาเถอะถึงกับทำให้ท่านปู่ต้องลี้ภัยมาอยู่ที่เมืองเถียนเลย นะ

Read on the App

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD