รักสุดร้ายท้ายสุดรัก EP.1 มอส [บริหารเท่ห์ เสน่ห์แรง]

1863 Words
!! บึ้น บึ้น !! เสียงรถสปอร์ตหรูที่ดังกระหึ่ม ที่มีเพียง 200 คันในโลก วิ่งเข้ามาในรั้วอนาเขตมหาวิทยาลัยB เพียงแค่เห็นรถไม่ต้องมองหน้าก็รู้แล้วว่าเป็นรถเจ้าของหนุ่มผมดำใบหน้าฟ้าประทาน มอส ชลันธร ครูซเซอร์ ใบหน้าอันหล่อเหลา มีเสน่ห์ที่ใครๆ ได้เห็นเป็นอันต้องหลงไหลสวมทับด้วยแว่นกันแดดสีชา เจ้าของรถสปอร์ตคันหรูเปิดประทุนรับเสียงแดดเวลาช่วง 10 โมง กว่าๆ ทยานเข้าเขตคณะศิลปศาสตร์ เนื่องจากวันนี้ไม่มีการเรียนการสอนทางมหาวิทยาลัยมีจัดกิจกรรมจัดนิทรรศการของแต่ละคณะ ซึ่งวันนี้ทางชมรมผมนัด 9 โมง แต่ด้วยที่เมื่อคืนดริ้งหนักไปหน่อยผมเลยมาสาย พอมาสายก็ไม่มีที่จอดอย่างที่เห็น วันนี้น้องเชอรี่ลูกรักผมเลยต้องจอดที่คณะอื่นแทนคณะบริหารที่ผมเรียน มอสไม่ได้มีดีแค่เรื่องน่าตาที่หล่อเหลาใบหน้าฟ้าประทาน เรื่องความรวยนั้นก็ถือเป็นอันดับต้นๆ ลูกหลานเศรษฐีของเมืองไทย ก็ต้องมีชื่อ มอส ชลันธร ครูซเซอร์ ลูกเสี้ยวอังกฤษฮ่องกง ลูกชายนักธุรกิจชื่อดัง คุณชลธร เจ้าของเรือสำราญลำใหญ่ที่สุดของประเทศ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมาดามริชชา ครูซเซอร์ เจ้าแม่วงการแฟชั่นชื่อดังในเมืองไทย นั้นถูกพูดถึงติดปากอยู่ในวงการไฮโซเซเลป แค่ขยับตัวก็เป็นที่สนใจ ถูกจับตามอง แต่นั้นมอสก็ไม่ได้มีดีเพียงแค่หน้าตา ด้วยที่เกิดเป็นลูกนักธุรกิจคนดัง เขายังทำงานตั้งแค่อายุ 15 ขวบ ถึงจะเห็นผมเตร่ไปเตร่มาแต่เรื่องเรียนเรื่องงานผมเองก็ทำได้ดีไม่มีตกนะคับ (ยิ้มร้าย) เสียงรถสปอร์ตคันหรู ที่ดังกระหึ่มมานั้น ทำเอานักศึกษาคณะต่างๆ ที่ชมงานนิทรรศการอยู่นั้นถึงกับหันมองเจ้าของรถหรู ที่วิ่งเข้าไปจอดใกล้ตึกศิลปศาสตร์เนื่องจากวันนี้มีนักศึกษาต่างสถาบันมากันเยอะทำให้พื้นที่จอดประจำนั้นไม่เพียงพอ ร่างสูงในชุดเสื้อยืดสีเทา กางเกงยีนส์สีเข้มที่เหมือนจะดูแต่งตัวที่แสนจะธรรมดา แต่นั้นออร่าความหล่อเหลา ผิวขาวเนียนใสราวกับผิวผู้หญิงตัดกับสีเสื้อนั้นยิ่งเอาทำเอาสาวๆ ที่ได้เห็นยิ่งคลั่งไคล้อยู่แล้ว พอร่างสูงหนุ่มรูปงามอยู่ในลุคเสื้อยืดที่ไม่ใช่ฟอร์มนักศึกษาแบบนี้ ยิ่งดูเท่ห์แปลกตาไปอีกแบบ ไม่ว่าจะมองส่วนไหน มุมไหน ก็สะดุดสายตาไปซะทุกส่วน ไม่ว่าจะหุ่นสูงยาวกับนายแบบระดับแถวหน้าของเมื่องไทยแล้ว หน้าตาที่ปากรับกับสันจมูกโด่งเรียวสวย พออยู่บนตัวมองแล้วนั้นสาวๆ เป็นอันต้องหลงไหล “ว้าว ขับคันเก่าก็ว่าเท่ห์มากแล้ว วันนี้เปิดประทุนมาแบบนี้ โอ้โห...พี่มอส คนหล่อรวยของฉัน เขาจะหล่อไปไหน จะหยุดหล่อกี่โมง อยากจะเดินไปถามให้รู้แล้วรู้รูรอดกันไปเลย จะว่าไปพวกเราไม่ค่อยได้เห็นพี่มอส ในลุคเสื้อยืดกางเกงแบบนี้เลยนะ” ถึงจะเป็นเสื้อยืดธรรมดาที่ใครๆ ก็ใส่กัน แต่พอไปอยู่บนร่างสูงจมูงโด่งคมสัน เบ้าหน้าฟ้าประทานที่สวมทับด้วยแว่นกันแดดสีชา ของ มอส รอยยิ้มกระชากใจแบบนี้แล้วนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างสูงที่ลงจากรถสปอร์ตหรู ตำแหน่งคนขับนั้น หล่อ เท่ห์ เสน่ห์แรงไม่เบา มองแล้วทุกอย่างบนตัวของเขานั้นลงตัว ออร่าพุ่งใส่ฉันสุดๆ “ยิ่งเขาเดินคู่กับพี่แทคิณนะแกเอ้ย หล่อแพคคู่งานดีไม่ไหว แยกไม่ออกกันเลยทีเดียว ถ้าฉันไม่รู้จักพี่มอส คงคิดว่าเป็นอีก 1 หนุ่มสมาชิก x2t แล้วนะเนี้ย” เสียงกลุ่ม สาวๆ ที่กำลังพูดถึง เพราะไม่ว่าหนุ่มสุดฮอตแก๊งค์ไอดอลหนุ่มแทคิณ ที่ไปปรากฏตัวที่ไหน ต่างได้รับความสนใจจากสาวๆ ทั่วทั้งมหาลัย ซึ่งมอสเองก็อยู่ในหนุ่มตัวท็อบฮอตสุดๆ ของรุ่นพี่ปี 3 เช่นกัน และยิ่งเป็นเพื่อนสนิทของแทคิณนั้นทำให้ยิ่งฮอตพอๆ กับเพื่อนในกลุ่ม ไม่ว่าจะเสน่ห์ หน้าตา หล่อรวย ก็ตกสาวๆ สวยๆ ไม่แพ้สองแฝดโรมและราม “แก๊งค์นี้เหมือนเขารวมเทพบุตรไว้ด้วยกัน ยิ่งอยู่กันครบองค์นะแก ตาฉันนี้ไม่รู้จะมองใครก่อนดี พี่มอส ก็หล่อเท่ห์รอยยิ้มมีเสน่ห์กระชากใจสาว พี่โรมหล่อนิ่งร้าย พี่รามนี้หล่อเฟรนลี่เพลย์บอยสุดๆ ส่วนพี่แทคิณไอดอลหล่อเด่นดังมากความสามารถสุดๆ พี่วาคิม วิศวะ หล่อทะลึ้งเจ้าเล่ห์แต่ก็เลิฟคะ ฉันนี้เลือกไม่ถูกเลยแก ไม่รู้จะเลือกมองใครก่อนดี แต่ตอนนี้สายตาของฉันขอโฟกัสความหล่อ มองพี่มอสละกัน หยุดมองไม่ได้เลย เพลินตาไปหม๊ด ไม่ไหวหล่อหัวใจจะวายตา” เสียงแววๆ ที่เข้ามาในหูนั้น เชอเนม เชอลิตา ร่างบางในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกง ยีนส์สีเข้ม ผมยาวถูกมัดจุกเกล้าขึ้นกลางหัวนั้น ใบหน้าสวยสวมทับด้วยแว่นกันแดดทรงกลม ที่พึ่งเดินมาถึงซุ้มๆ ประจำชมรมสถานที่จัดการแสดงนิทรรศการมหาลัย ปีนี่ทางมหาลัยB ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ มีมหาลัยอื่นๆ มาร่วมแจมถึง 10 สถาบัน พอมาถึงโต๊ะในซุ้มที่ฉันจัดโชว์ผลงานยังว่างเหมือนเดิม “อ่า นี้พวกยัยฟ้าครามไม่ได้ทำอะไรเลยเหรอ ไงของพวกนี้ยังตั้งอยู่ที่เดิม” แทนที่ใครมาถึงก่อนจะช่วยกันย้าย ภาพวาด และรูปปั้นเซลามิคขึ้นโต๊ะโชว์ แต่เมื่อวานช่วงเย็นก่อนแยกย้ายกันกลับหอ ตั้งอยู่ยังไงตอนนี้ก็เช่นเดิม ไม่ถูกจัดโชว์บนโต๊ะให้กับนักศึกษาที่มาในงานได้เชยชม “มาเช้ากว่าแล้วไง งานไม่ทำ เอาแต่เหล่ผู้...” ยัยนับดาวหันมาเอ่ยกับฉัน คงหมายถึงพวกยัยฟ้าครามสินะ “เห้ย...” ฉันได้ถอนหายใจ และส่ายหัวให้พวงนาง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครยก ฉันและยัยนับดาวก็ช่วยกัน พอเห็นพวกฉันยกเท่านั้นแหละ ไม่ถึงสิบนาที ทั้งภาพวาด และรูปปั้นก็ถูกวางบนโต๊ะพร้อมโชว์ในงานนิทรรศการครั้งที่ 19 ของมหาวิทยาลัยB ฉันที่เห็นผลงานตัวเองและของเพื่อนๆ ที่ตั้งโชว์ถึงกับปลื้มปริ่มตื้นเต้นภูมิใจไม่ไหว จากนั้นไม่นานหัวหน้าชมรมก็เดินมาตรวจงาน เกือบไปแล้วไหมฉัน เกือบโดนรุ่นพี่บ่นแล้ว “ว้าว พอจัดแบบนี้แล้วสวยมาก น้องๆ พี่เก่งกันทุกคนเลย” พี่ปูเป้รุ่นพี่ปี 4 เอ่ยชมซุ้มงานที่ถูกจัดและออกแบบโดยปี 2 อย่างพวกฉันพร้อมกับเสียงปรบมือ พอรุ่นพี่ชมก็ฉีกยิ้มแก้มปริอิ่มเอมหัวใจผองโตเลยสิฉัน ภูมิใจกับฝีมือตัวเองที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานครั้งนี้ “ไม่คิดเลยว่าจะเป็นฝีมือของพวกเรา มีของฉัน และของแก และก็แกด้วย ฝีมือไม่ธรรมดานะเนี้ย เลิศคะ” ยัยเอมหันมาเอ่ยพร้อมกับฉีกยิ้มหวานให้กับฉัน “นั้นนะสิ สวยเนอะแก” เชอเนมเองที่อดชื่นชมผลงานตัวเองไม่ได้ ร่างบางถึงกับหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเก็บภาพวาดผลงานของเธอที่หน้าซุ้มงาน “แก ยัยเนม พวกฉันเฝ้าซุ้มเอง แต่เธอช่วยถ่ายรูปให้หน่อยได้ป่ะ” ยัยนานิหันมาเอ่ยกับฉัน “ได้สิ...” เมื่อเพื่อนเอ่ยมาเช่นนั้นเชอเนมก็ไม่รีรอ คนตัวเล็กรับทบเป็นตากล้องมือสมัครเล่นถ่ายภาพให้กับกลุ่มเพื่อนๆ ร่วมชมรมทันมี “ 1 2 3 ....ยิ้มหน่อยสิ” เสียงหวานเอ่ยขณะที่ถ่ายภาพให้กับเพื่อนๆ “ขอแบบเผลอๆ บ้างนะ เนม มุมนั้นอะ อยากได้ภาพแบบนี้ ขายาว ตัวสูง ขาเรียวๆ นะเนม” เมื่อนางแบบกลุ่มใหญ่ขอมาแบบนั้น ช่างภาพก็ถอยหลังหามุมให้ทันที “ว้าย...แกพี่มอส พี่แทคิณเดินมาโน้นแล้ว ใกล้แล้วใกล้ซุ้มเราแล้ว” เสียงที่แว่วๆ เข้ามาในหูนั้น ใช่ว่าคนถ่ายภาพและบันทึกภาพเคลื่อนไหวจะคิดสนใจ ช่างภาพมือสมัครยังคนถอยหลังหามุมต่อ ด้านมอสร่างในชุดเสื้อยืดสีเทากางเกงยีนส์สีเข้มที่เดินเข้ามาภายในตึกตัวอาคารศิลปศาสตร์ พร้อมกับแทคิณนั้น วันนี้ที่มหาลัยมางานนิทรรศการ ผมและไอ้เชี่ยคิณนัดพวกไอ้โรมไอ้รามที่สเตเดี้ยมมหาลัย เพราะวันนี้มีงานนิทรรศการ กลางวันงานเชิงวิชาการ ส่วนช่วงเย็นมีการแสดงและคอนเสิร์ต ทว่าขณะที่ผมเดินเข้ามาในงาน มีซุ้มต่างๆ ที่จัดแสดงโชว์ผลงานนั้น “แกยัยเนม ถอยไปอีก ฉันไม่ชอบภาพใกล้ เอาวิวหลังด้วย” เสียงที่ดังมานั้น ทว่ามอสที่จะเดินหลบร่างบางคนที่เดินถอยหลังไม่มองนั้น !!ปรึก!! คนถอยหลังชนเข้าชนเข้าอย่างอย่างจัง ร่่างเล็กกระแทกเข้าแผ่นอกคนตัวสูง แรงมาก ด้วยสันชาติตยานของคนจะล้ม มือเรียวกระชากแขนหนาเพื่อหาที่ยึดเกาะ “ว้าย...กรี๊ด” ดวงตาเรียวเบิกกว้างออกมาด้วยท่าที แต่โชคดีมีคนรับตัวฉันไว้ไม่ปล่อยให้ล้มหน้ากองราบกับพื้นลงตรงนี้ หึ...ใครกันที่มันชนฉัน เชอเนมที่กำลังกล้าปากโว้ยวายนั้น ทว่า “ใคร...” คำว่าใครชนฉัน โยนทิ้งออกไปในหัว นัยน์ตาคู่สวยใต้กรอบแว่นตา สบตาเข้ากับนัยน์ตาคมเข้มของคู่กรณีนั้นที่รับตนไว้นนั้น !! ตึก ตัก ตึก ตัก !! หัวใจดวงเล็กถึงกับเต้นสั่นแรงอย่างไม่เป็นจังหวะ มือเรียวยกขึ้นมา ทาบอก ตื่นเต้น ร่างบางของคนตัวเล็กอยู่ในอาการตกใจ แต่นั้นไม่ได้ตกใจที่ถูกชน แต่ร่างบางของคนตัวเล็กชะงักตาเบิกกว้างด้วนท่าทีตกใจ ที่เจอคนหล่อในระยะประชิดใกล้เช่นนี้ จมูกโด่งนี้เอ่ย ปากเอย นัยน์ตาทั้งสองคู่สบตาเข้าหากัน ขณะที่ฉันอยู่ในอ้อมแขนของเขา เจอผู้ชายหล่อแบบนี้ จ้องหน้าในระยะใบหน้าของเราแทบจะชิดกันนั้น แบบนี้กับช็อคไปเลยสิฉัน “หล่อจึ้งมาก ...จมูกเอ่ย ปากนี้เอย ฉัน...เจอแล้ว” เชอเนมฉีกยิ้มหวานให้คนตัวสูงที่สบตาตน “อ่อ...นี้คนหรือลูกรักพระเจ้า ไม่ไหว หล่อเกินไปแล้ว คือดีย์ไปหมด จา...วูบ” เชอเนมเอ่ยพึมพำไม่เต็มเสียง คล้ายกับคนละเมอ แต่นั้นทำเอาคนฟังอย่างมอส ใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับชะงัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD