อันตรายรักวิศวะ 6 | ของเล่นชิ้นใหม่

1371 Words
วันต่อมา “อื้อ~” แพรวาส่งเสียงในลำคอออกมาเบาๆ หลังจากนอนหลับมาเป็นเวลานานหลายชั่วโมง เปลือกตาที่แนบสนิทเริ่มปรือขึ้นมาอย่างยากลำบาก เมื่อสมองกลับมาประมวลผล ความรู้สึกปวดร้าวตามร่างกายก็วิ่งปราดเข้ามาเล่นงานทันที ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆ ภายในห้องนอนโทนสีดำที่มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น พยุงตัวเองขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงเพื่อทบทวนเรื่องเมื่อคืน แม้จบลงแล้ว แต่ทว่าลูคัสยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้บนร่างกายให้เธอดู รอยพวกนี้ทำให้เธอรู้สึกสมเพชตัวเอง… แกร๊ก เสียงเปิดประตูดึงเธอออกจากภวังค์ความคิดแล้วหันไปมอง ลูคัสอยู่ในสภาพมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบเอวสอบ แผงอกและหน้าท้องแกร่งมีรอยเล็บของเธอฝากเอาไว้ “ฉันให้คนขับรถของเธอไปไว้ที่คอนโดแล้ว” “ไหนนายบอกว่าจะให้คนขับรถของฉันมาให้ไง” คิดว่าเขาจะให้คนขับมาไว้ที่เพนท์เฮาส์ซะอีก “ไม่ได้ให้ขับมาที่นี่หรอกเหรอ” “ฉันไม่ได้บอกว่าจะให้คนขับของเธอไปให้ที่ไหน” เขาตอบกลับแพรวาเสียงเรียบ “ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำแต่งตัว ฉันไม่ชอบให้ห้องตัวเองมีกลิ่นเหม็นคาว” “กลิ่นพวกนั้นมันก็มาจากตัวเองนั่นแหละ…” พูดพึมพำคนเดียวโดยไม่ให้ลูคัสได้ยินด้วย เรือนร่างของเธอไม่ได้เปลือยเปล่าสวมใส่ชุดคลุมสีขาวอยู่ เดาว่าลูคัสคงใส่ให้หลังจากบทรักครั้งสุดท้ายสิ้นสุดลง ตอนนั้นสติเธอดับวูบลงไปเองโดยอัตโนมัติ เธอฝืนความเจ็บปวดเดินกะเผลกไปยังห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกาย ยืนปล่อยให้สายน้ำเย็นฉ่ำอาบชโลมลงมาท่ามกลางความรู้สึกมากมาย สองมือเสยผมเปียกปอนไปด้านหลัง แทบไม่อยากมองเรือนร่างตัวเองเลย บางทีก็นึกรังเกียจ บางทีก็นึกสมเพช โชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรอยู่ ทำไมถึงเหวี่ยงให้เธอมาเจอกับคนอย่างลูคัสและแม่เลี้ยง หลายนาทีต่อมา แพรวาที่เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดคลุมสีขาวชะงัก เมื่อสายตาพลันเห็นเสื้อผ้าตัวเองวางเอาไว้บนเตียงนอน จำได้ว่าเมื่อคืนมันถูกทอดทิ้งไว้ข้างนอก ไม่ต้องบอกก็พอรู้ว่าใครเป็นคนเอามาวางไว้ให้ ไม่คิดว่าคนอย่างลูคัสจะมีน้ำใจเหมือนกัน เธอหยิบเสื้อผ้าตัวเองแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้งเพื่อเปลี่ยนชุด “นายให้คนขับรถฉันไปจอดไว้คอนโด แล้วฉันจะกลับยังไง” เมื่อได้ยินลูคัสบอกว่าให้คนของตัวเองขับรถเธอกลับไปไว้ที่คอนโดมิเนียมก็แอบไม่พอใจเล็กน้อย เพราะเมื่อคืนเขาบอกว่าจะให้คนขับรถมาให้ ถ้าจะให้ขับไปไว้คอนโดมิเนียมทำไมไม่บอกให้ชัดเจนกว่านี้ “ฉันจะไปส่ง” “ถ้าให้นายไปส่ง ฉันเรียกแท็กซี่กลับเองดีกว่า” สายตาคมเข้มปรายมองแพรวาที่พูดจาอวดดีด้วย ก่อนจะหันมาอัดบุหรี่เข้าปากแล้วพ่นควันสีขาวออกมาอย่างใจเย็น “คิดดีแล้วใช่ไหมที่อวดดีกับฉัน” “ฉันเปล่า” แต่บางทีมันก็อดไม่ได้จริงๆ จะให้เธอยอมและอยู่ใต้อำนาจบังคับบัญชาของเขาตลอดก็ไม่ใช่ “ฉันไม่ได้อยากย้ำนะ ว่าถ้าเธออวดดีกับฉันแล้วจะเกิดอะไรขึ้น” “ถ้าฉันเป็นเด็กดีและเชื่อฟังนายไปตลอด นายจะแต่งงานกับฉันเหรอ?” อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเธอเป็นในแบบที่ลูคัสต้องการ เขาจะแต่งงานกับเธอหรือแค่อยากเก็บไว้เป็น ‘ของเล่น’ บนเตียงแล้วเอาเรื่องการหมั้นมาขู่ให้เธอเชื่อฟัง “ตอนนี้เธอไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือ หน้าที่ของเธอคือต้องเชื่อฟังฉันเท่านั้น” นับวันลูคัสยิ่งทำให้เธอรู้สึกไร้ค่าขึ้นเรื่อยๆ ผู้หญิงที่เคยมีศักดิ์ศรีในตัว ตอนนี้ถูกเขาลดทอนไปแล้วเรียบร้อย หากไม่มีเรื่องหมั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง เธอคงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพเหมือนนักโทษของลูคัสแบบนี้ ••• @คอนโดแพรวา เธอเลือกจะไม่กลับบ้านเพราะไม่พร้อมเจอแม่เลี้ยง เลยบอกให้ลูคัสมาส่งที่คอนโดแทน เมื่อมาถึงก็ล้มตัวลงนอนทันทีอย่างหมดแรง เซ็กซ์เมื่อคืนสูบเอาเรี่ยวแรงเธอไปจนเกือบหมด มิหนำซ้ำตอนนี้ยังรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะไม่สบาย ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงแผดร้องในกระเป๋าทำให้เธอหยิบออกมาดูว่าใครโทรมา พอเป็นเบอร์ของคนรู้จักจึงกดรับสาย “ว่าไงคะพี่น้ำหวาน” (วันเสาร์หน้าแพรพอจะว่างให้พี่ไหม) “ทำไมเหรอคะ?” (ทางแบรนด์พริสมาร์ให้พี่ช่วยหานางแบบมาถ่ายแบบให้เสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของซัมเมอร์ให้ ทางแบรนด์บรีฟคาแรคเตอร์นางแบบมาให้ว่าจะเอาแบบนี้ แต่เด็กในสังกัดของพี่ไม่มีใครตรงตามที่ทางแบรนด์ขอมาสักคน พี่เคยส่งเด็กในสังกัดไปให้ทางแบรนด์พริสมาร์ลองพิจารณาสองสามคนแต่ว่าไม่ผ่าน เลยลองส่งแพรวาไปดู ปรากฎว่าทางแบรนด์เลือกแพรา แพรวาพอจะว่างไปถ่ายแบบให้พี่ไหม) “เอ่อ…ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ช่วงนี้แพรกำลังหาบริษัทฝึกงานอยู่ ไม่รู้เลยว่าจะว่างไหม” น้ำหวานเคยติดต่อมาให้ไปถ่ายแบบกับแบรนด์ต่างๆ บ่อย ช่วงนั้นไม่ค่อยยุ่งเท่าไรเลยไปถ่ายแบบให้ได้ พอขึ้นปีสี่เวลาว่างแทบไม่ค่อยมี เลยไม่กล้ารับปากพี่น้ำหวาน (แต่พี่รับปากทางแบรนด์เอาไว้แล้ว พริสมาร์แบรนด์ไม่ใช่ใครจะไปเป็นนางแบบให้ได้ง่ายๆ นะ แพรวาไม่อยากลองคว้าโอกาสนี้ไว้หน่อยเหรอ) น้ำหวานทำเสียงอ้อนวอนแพรวา แพรวาครุ่นคิด รู้จักชื่อเสียงของแบรนด์นี้มาเหมือนกัน ฟังจากชื่ออาจจะเหมือนแบรนด์ของไทย แต่จริงๆ แล้วเป็นแบรนด์จากปารีส เหมือนที่น้ำหวานบอก แบรนด์นี้ไม่ใช่ใครจะเข้าไปเป็นนางแบบให้ได้ง่ายๆ สเปกนางแบบของแบรนด์นี้เปลี่ยนไปตามคอลเลคชั่นแต่ละช่วง บางทีตรงสปกแต่ไม่ถูกชะตาทางแบรนด์ก็ไม่ให้ผ่าน เธอเองก็อยากลองคว้าโอกาสนี้ไว้เหมือนกัน… (ลองดูก็ไม่เสียหายนะ ทำงานกับแบรนด์หรูระดับโลกเชียวนะ) “ก็ได้ค่ะ แพรจะลองดู” (ฮืออ! พี่ขอบคุณแพรวามากๆ เลยนะที่ไม่ปฏิเสธ) “ขอบคุณพี่น้ำหวานเหมือนกันที่ยื่นโอกาสนี้ให้แพร” (เจอกันวันเสาร์หน้านะ) “ค่ะพี่น้ำหวาน” เธอวางสายจากพี่น้ำหวานแล้วหลับลง ตอนแรกคิดว่าจะพักสายตาแต่ดันเผลอหลับจริง ••• ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วสนาม ลูคัสยืนยิงปืนใส่เป้าตรงหน้าอย่างแม่นยำ เมื่อกระสุนหมดลูกจึงพอแค่นั้น ชายหนุ่มเดินกลับมาหย่อนสะโพกนั่งลงข้างๆ อนาคิน คว้าขวดน้ำสีเหลืองอำพันมาเทลงแก้วแล้วยกขึ้นดื่ม “ฝีมือยังดีอยู่นิ” คิมหันต์พูด “ซ้อมไว้ยิงไอ้คินเวลามันนอกใจเฌอเบลล์” “ถ้ามึงไม่ใช่พี่เขยกูนะ โดนกูยิงสมองทะลุไปนานแล้ว” “หึ” เขากระตุกยิ้มมุมปากแล้วยกน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นมาดื่มอีกหนึ่งอึก ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเจอกันเท่าไรเพราะต่างคนต่างยุ่งเรื่องของตัวเอง หลังจากเรียนจบเขาและเพื่อนสนิทก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง เหตุผลหลักไม่ใช่ยุ่งเรื่องงานหรอก แต่เพราะพวกมันต่างคนต่างมีเมีย เลยให้เวลากับคนรักซะส่วนใหญ่ เพื่อนสนิทของเขาติดเมียกันทุกคน… “เมื่อคืนกูเห็นมึงกลับกับผู้หญิง ใครวะ” คาร์มินเอ่ยถามเสียงเรียบ ผู้หญิงที่ลูคัสพาขึ้นรถกลับด้วยไม่ใช่คนเดียวกับที่มานั่งดื่มด้วย เพราะคนนั้นมันตัดความสัมพันธ์ไปด้วยแล้ว “ของเล่นชิ้นใหม่”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD