นิชา ....
ห้างสรรพสินค้า B
"ค่ะพี่นุช"
ตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า B อ่อแล้วก็กำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับผู้จัดการส่วนตัวอยู่ วันนี้เป็นวันที่ฉันได้พักผ่อนสบายๆ อาทิตย์หนึ่งทาง BEM เขาจะให้ฉันได้ว่างสักวัน แต่ถ้าวันปกติงานแน่นทั้งวันเหมือนกัน ฉันควรจะได้พักบ้างนั้นแหละถูกแล้ว และตอนนี้ผู้จัดการส่วนตัวก็โทรศัพท์มานี่ขนาดวันหยุดนะนั้น
(นิจ๋า คืองี้จ๊ะ ป๋าธีมเขาจะส่งเราไปร่วมงานเดินแบบการกุศลที่สเปนนะ คราวนี้ทางห้องเสื้อ Pink P ติดต่อมาขอเป็นนิเลย ทางนั้นอยากได้เพราะหนูสวยรูปร่างนางแบบเหมาะมากที่จะเดินแบบชุดฟินาเล่ แล้วก็มีงานโฆษณาเพิ่มอีกหลายตัว คือต้องถ่ายทำหลายประเทศเลย เราจะเอายังไง)
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ถ้าฉันบอกว่าไม่เอาจ๊ะ ไม่รับจ๊ะป๋าธีมจะยอมหรือไง เหอๆ แต่ฉันอยู่ที่ BEM ฉันคือ Number one แล้วป๋าธีมค่อนข้างจะยอมฉันหรือรับฟังฉันก่อนเสมอ เขาเป็นเจ้านายที่ดีคนหนึ่งเลยแหละ นี่พี่นุชถึงมาถามก่อนไงหละว่าฉันจะยังไง ฉันไม่อยากเรื่องมากกับป๋าเพราะเขาปั้นฉันมาเขาเกรงใจฉันพอสมควร ฉันมันตัวทำเงินของ BEM ในยุคนี้เลยแหละ ก็พอจะมีปากมีเสียงกว่าดารานักแสดงคนอื่นหน่อย
"รับไปเถอะค่ะเอาที่พี่นุชคิดว่าไหว นิไม่อยากเรื่องมากกับป๋า"
(น่ารักที่สุด เพราะว่าง่ายแบบนี้ไงป๋าถึงได้เกรงอกเกรงใจมีอะไรถามก่อนเสมอ ถ้าเป็นดาราในสังกัดคนอื่นนะป๋าไม่เคยให้มาถามแบบนี้หรอก จะสั่งให้ไปแค่นั้น)
ฉันไม่ได้ตอบอะไรนั่งฟังรายละเอียดงานต่อไป ฉันนี่มันเจ้าแม่โฆษณา กับเจ้าแม่อีเว้นท์จ๊ะ รายรับเป็นร้อยๆล้านต่อปี รับงานทั้งปีจนไม่มีเวลาจะมีแฟนหรือได้เที่ยวกับเขาบ้างเลย ฉันมีพ่อมีแม่อยู่ต่างจังหวัด สองคนไม่ชอบอยู่สังคมแบบนี้ เขาบอกว่าชอบอยู่สงบๆในไร่ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ตามสบายเถอะ ส่วนฉันก็ทำงานเก็บเงินเมื่อวันหนึ่งหมดสวยและหมดยุคความนิยมของตัวเองฉันจะได้มีเงินเหลือใช้ทั้งชาติยังไงหละ
"แล้วไปกันสองคนเหรอคะ ปกติป๋าจะมีทีมงานไปกับนินะ ช่างแต่งหน้า ช่างผม บอดี้การ์ด "
(อ่อ คราวนี้มันต่างประเทศไม่ใช่แถบเอเชียนะ เป็นโซนยุโรปป๋าบอกว่าจะมีคนมาดูแลนิ จะเป็นทีมงานของ J Group นะ พี่ชายของป๋าเป็นเจ้าของ เขาจะดูแลเราตลอดที่อยู่ที่นั้น)
ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจ คนทั่วไปจะมองว่า J Group คือบริษัทที่สร้างหนัง สร้างละครฟอร์มยักษ์ แต่ถ้าคนที่รู้ลึกกว่านั้นจะรู้ว่า บริษัทนี้เส้นสายเยอะทั่วโลก ก็คือไม่มีใครอยากจะเป็นศัตรูกับเขาถ้าเป็นมิตรกับทาง J Group นั้น จะมีแหล่งสนับสนุนชั้นดีแล้วละครหรือหนังที่เข้าฉายแค่มี J Group เป็นที่ปรึกษาหรือสนับสนุน ก็ทำให้รายได้ทะลุเป้าอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ไม่มีใครได้เห็นหน้าประธาน J Group หรอก เขาเก็บตัว
"ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องไปพักที่สเปนที่แรกก่อนใช่มั้ยคะ"
(ใช่เลยจ๊ะ เอาเถอะๆพี่ไม่กวนแล้วเราเที่ยวพักผ่อนให้สบายเถอะ อย่าลืมดื่มของบำรุงร่างกายที่พี่ให้ด้วยนะ)
"จ้าๆ "
ฉันกดวางโทรศัพท์ก่อนจะเก็บของเข้าที่แล้วเดินช็อปปิ้งไปตามเรื่องของฉัน ฉันกำลังจะหยิบนาฬิกาหรูของผู้ชายเรือนหนึ่ง ว่าจะซื้อให้คุณพ่อนะ ถึงจะไม่ชอบใส่แต่ฉันก็อยากจะซื้อของแพงๆให้พวกท่านบ้าง
หมับ!
"อ๊ะ"
ฉันกำลังจับนาฬิกาแต่มีมืออีกคนมาจับมือฉันไว้อีกที ฉันเงยหน้ามองเขาก็ต้องตกตะลึงกับความหล่อและมีเสน่ห์ของเขามาก หือออ หล่อกว่าพระเอกหนังอีกอ่ะ
"ผมจะเอาเรือนนี้"
ฉันก้มมองมือตัวเองที่ถูกเขาจับไว้แล้วเหลือบสายตามองเขา นิสัยแย่สุดหน้าตาดีซะเปล่า นี่ฉันจับก่อนฉันต้องได้สิยะ
"แต่ฉันจับก่อนคุณนะคะ"
"แต่ผมจะเอา"
"ฉันก็จะเอาค่ะ"
เราสองคนยื้อแย่งกันไปมาจนฉันเริ่มจะมีน้ำโห ผู้ชายอะไรไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลยสักนิด จะแย่งของกับผู้หญิงทำได้ยังไงยะ
"นี่ เธอไปเอาเรือนอื่นสิ"
"แต่ฉันสะดุดตาเรือนนี้ ฉันจะซื้อให้คุณพ่อค่ะ ขอให้ฉันเถอะ"
"ไม่ได้! ผมจะเอาเหมือนกัน"
เราสองคนต่างไม่ยอมกันจนลูกน้องเขามาห้ามทัพ ฉันมองเขาจ้องหน้าอย่างไม่ยอมแพ้จนพนักงานเดินมาร้องห้าม
"เอ่อ คะ..คุณทั้งสองคนใจเย็นๆนะคะ คือนาฬิกาเรือนนั้นมันเป็นลิมิเต็ดของทางร้านเรามีแค่เรือนเดียว แล้วมันถูกจองไว้แล้วค่ะ คงขายให้คุณทั้งสองคนไม่ได้ เอ่อ คุณนิลองดูเรือนอื่นก่อนมั้ยคะ"
ฉันมองหน้าเขาก่อนจะเบะปากใส่แล้วปล่อยมือออกจากนาฬิกาเรือนนั้น
"ฉันไม่ได้คุณก็ไม่ได้สมน้ำหน้า ชิ!"
ฉันหันไปเลือกดูเรือนอื่นแทนไม่ได้สนใจเขาอีก แต่ก็ยังได้ยินเสียงผู้ชายคนนั้นอยู่
"ผมให้ราคาสองเท่า ยังไงผมก็จะเอาเรือนนี้"
ฉันอ้าปากค้างหันไปมองหน้าเบาทันที นาฬิกาโรเล็กซ์ราคาหกหลัก เขายอมจ่ายแพงเพื่อจะเอาให้ได้ โธ่!! พ่อคุณเอ้ย!! จะอยากเอาชนะอะไรขนาดนั้น
"แต่ทางเราขายไม่ได้จริงๆค่ะ"
พนักงานทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมายังไงอย่างงั้น ฉันเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ ดูเขาสิลูกน้องตามมาเป็นหก เจ็ดคน นี่มันมาเฟียชัดเลยอ่ะข่มขู่พนักงานไปอี๊กก เลวกว่านี้มีอีกป่ะ
"แต่ผมจะเอาเรือนนี้ ไปเรียกผู้จัดการมาผมจะคุยเอง"
"นี่คุณ เขาบอกว่าขายไม่ได้พูดไม่รู้เรื่องไง จะไปข่มขู่พนักงานเพื่ออะไรกัน ก็แค่นาฬิกาเรือนเดียวอะไรจะอยากได้ขนาดนั้น"
ฉันหันไปจ้องหน้าเขาอย่างไม่พอใจสุดๆ ก็เอาเซ่ถ้าจะให้ลูกน้องเขามากระทืบฉันกลางห้างก็ให้มันรู้ไปสิ ฉันเป็นดาราดังยะมีคนพร้อมจะช่วยฉันเยอะแยะ แต่ถ้าพนักงานมีเรื่องกับเขาคงยากที่จะมีใครมาช่วย
"งั้นผมเปลี่ยนใจละผมไม่เอาก็ได้"
เขาวางนาฬิกาลงแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหันมามองหน้าฉันแปลกๆ ฉันยักไหล่เล็กน้อยก็ดีนะที่เขายอมง่ายๆจะได้ไม่ต้องมีเรื่องกัน
"ก็ดีนี่คะ"
"ผมหมายถึงว่าผมไม่เอานาฬิกาแล้วผมจะเอาอย่างอื่น หึ"
ฉันไม่เข้าใจที่เขาพูด อยู่เขาก็เดินมาจับแขนฉันแล้วลากออกไปโดยมีสายตาของคนในห้างมองมาแต่ไม่มีใครกล้ามาช่วยฉัน ฮืออออ จะพาฉันไปไหน!!
"ปะ..ปล่อยนะ ไอ้บ้า"
"เดินดีๆอย่าดื้อสิขอคุยด้วยหน่อย!!"
เขาเอ่ยยิ้มๆก่อนจะลากฉันไปในที่ลับตาคน ฉันพยายามจะหาทางหนีทีไล่แต่ก็ไม่รู้จะไปทางไหน ฮือออ ใครก็ได้ช่วยด้วย ฉันยังไม่มีผัวเลยฉันจะตายตอนนี้ไม่ได้ ฮือออออ
"ปะ..ปล่อยฉันไปเถอะนะคะคุณ ฮึกๆๆ ฉะ..ฉันกลัวแล้ว"
ฉันยกมือไหว้เขาน้ำตาอาบแก้ม เขายื่นมือมาเกลี่ยแก้มฉันอย่างแผ่วเบาก่อนจะเอ่ยออกมายิ้มๆ
"เธอสวยจัง สวยมาก"
ฉันรู้ตัวอยู่แล้วว่าฉันสวย สวยมากด้วย แล้วยังไงล่ะ มาชมฉันทำไม..
"มาเป็นเด็กเลี้ยงของผมมั้ย ผมเพิ่งจะเทคนก่อนหน้านี้ไปเพราะเบื่อแล้ว ผมจ่ายหนักนะสนใจป่ะ บ้านรถเงินสดเครื่องบินผมให้ได้หมดเลย"
"ห๊ะ... วะ..ว่าไงนะ"