เสียงลมหวีดหวิวปลุกโสตประสาทของคนที่หมดสติให้ค่อยๆ ตื่นฟื้นขึ้นมาช้าๆ เปลือกตาที่เต็มไปด้วยเม็ดทราย คาเรียลต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อที่จะลืมตาให้สำเร็จ เขารู้สึกปวดหนึบที่ท้ายทอยและเค็มคาวในปาก แต่เมื่อสายตาปรับระยะกับภาพเบื้องหน้าจึงปรากฏชายฉกรรจ์ราวๆ เจ็ดหรือแปดคนรายล้อมร่างของเขาอยู่ มือที่เคยจับแปรง (ปากกา) เขียนหนังสือบนแผ่นกระดาษที่ทำจากต้นปาปิรุส มีบาดแผลถลอกจนเห็นเลือดซึมออกมา เขาพยายามจะยันกายขึ้นแต่ก็ถูกเท้าใครคนหนึ่งกระทืบเข้าให้ที่หลังบดขยี้ไม่ให้เขาเงยตัวลุกขึ้นมาได้ “เจ้ามันช่างอ่อนแอไม่สมกับที่เป็นมือขวาขององค์ฟาโรห์เลย” ชายฉกรรจ์ที่เป็นหัวหน้าพูดขึ้นพร้อมกับขยี้ปลายเท้าที่กลางหลังคาเรียล “สังหารเจ้ามันก็ง่ายยิ่งกว่าบี้มดที่หลงเข้ามาในเสื้อผ้าของข้าเสียอีก” คาเรียลกัดฟันไม่ให้เสียงครางจากความเจ็บปวดรอดผ่าน “พวกเจ้าเป็นฝ่ายใดกัน แล้วพระสนมอังค์เนส”