Chapter 5 คนขับรถคนใหม่ (3)

1658 Words
Chapter 5 คนขับรถคนใหม่ (3) "ทำไมปลากริมต้องทำตามคำสั่งพี่ภามด้วยคะ" สุดที่รักก้มลงมองถุงหิ้วใส่เสื้อผ้าที่ภัทรนนท์พาเข้าไปซื้อมาสดๆ ร้อนๆ ด้วยเหตุผลเพราะต้องการให้หล่อนเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไม่ใช่ชุดนักศึกษา ไม่เข้าใจว่าเขาจะไปไหนทำอะไร หล่อนจึงอิดออดไม่ยอมทำตามคำสั่งของคนที่ยืนรอ "พี่จะเข้าไปดูโครงการของบริษัทอื่นแถวๆ พัทยา เราต้องไปในคราบลูกค้าที่ต้องการจะซื้อบ้านและคอนโด ถ้าพี่ควงนักศึกษาเข้าไป คิดว่าจะดูน่าเชื่อถือมั้ยล่ะครับ" "ปลากริมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีค่ะ ชุดนักศึกษาทำไมไปดูบ้านไม่ได้" "เอาตามตรงนะ เราต้องไปในคราบผัวเมียที่ต้องการดูตัวอย่างบ้านเพื่อหลอกพนักงานขาย เขาจะได้ไม่รู้ว่าเราเข้าไปสอดแนมแนวโน้มเทรนด์การออกแบบตกแต่ง เครนะ จะได้ไม่ต้องเซ้าซี้" 'ไปในคราบผัวเมีย!’ สุดที่รักยืนอึ้งกับคำเฉลย เขาไม่บอกล่วงหน้าหล่อนจึงค่อนข้างตกใจ และการเป็นเมียหลอกๆ ของเขานั้น ต้องทำตัวอย่างไร คนไม่มีประสบการณ์จึงรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที "เอ่อ...พี่ภามทำ...ทำแบบนี้บ่อยเลยเหรอคะ เพิ่งรู้ว่ามีการล้วงข้อมูลกันแบบนี้ด้วย แสดงว่า...เวลามากับคุณรุ้งก็เล่นเป็นผัวเมียกันแบบนี้เหรอคะ" "อือฮึ" ".....!" หล่อนรีบหันหลังเดินหนีเขาไปเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า รู้สึกแปลกๆ อยู่ในหัวใจและเกิดความไม่ชอบใจอยู่ลึกๆ ที่ได้รู้ข้อมูลอีกด้านที่ไม่เคยรู้...ถ้อยคำของรุ้งลาวัลย์แวบเข้ามาโดยพลัน เขานอนค้างด้วยกันบ่อยๆ เวลาออกไปข้างนอก หล่อนคิดมโนไกล เขาคงเล่นบทนั้นกันอย่างสมจริงถึงพริกถึงขิง บทบาทผัวเมียที่วันนี้เขาเปลี่ยนจากรุ้งลาวัลย์มาให้ตนเล่นแทน ในห้องพักของคอนโดหรูย่านสาธร ห้องกว้างอาบไล้ด้วยแสงสลัวจากไฟนวลตา เดย์เบดสีม่วงพาสเทลตรงมุมชมวิวริมผนังกระจกใส เข้ากันได้ดีกับโทนห้องสีขาวสะอาด ทางปลายเท้ามีแจกันใบใหญ่ใส่ดอกไม้โทนม่วงชมพูดูกลมกลืน...รุ้งลาวัลย์ฝากร่างอยู่ตรงนั้นมานานมากแล้ว อาหารเย็นถูกหลงลืมไปเพียงเพราะความร้อนรุ่มใจคิดถึงใครบางคน แววตาซ่อนความใคร่จับจ้องมองอยู่แต่หน้าจอโทรศัพท์ คนที่โทร.หาไม่ยอมรับสาย ไลน์ไปก็ไม่อ่าน เงียบหายไปไม่คิดจะใยดีกันแม้สักนิดเดียว...เขาพาเด็กคนนั้นไปถึงพัทยา เพียงแค่คิดลางสังหรณ์บางอย่างก็ย้ำเตือนอยู่ในห้วงอารมณ์ กลัวว่าเขาจะมี สัมพันธ์รักลึกซึ้งกับคนอื่นที่นอกเหนือจากตน ไลน์ที่ดังเตือนทำให้คนที่นั่งทอดสายตาผ่านม่านกระจกใสไปด้านนอกรีบยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู รู้สึกเซ็งในอารมณ์เมื่อคนที่ไลน์หาไม่ใช่คนที่รอ...จะมาทำไมในเวลาที่กำลังอารมณ์ไม่ดีเช่นนี้ คิดพลางลุกเดินไปยังบานประตู กระชากออกตามแรงอารมณ์ที่ฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด รอยยิ้มที่ไม่มีให้เพื่อสื่อถึงความคิดถึง คนที่ยืนอยู่หน้าห้องถึงกับหน้าเสียลงไปทันที "เป็นอะไรเหรอรุ้ง ดูอารมณ์ไม่ค่อยดี" "เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร" หล่อนเดินหันหลังกลับไปในห้อง ศรัณย์เข้ามาด้านในแล้วปิดประตูตามหลัง...ท่าทีของหล่อนดูแปลกไป สัมผัสได้ถึงความไม่เหมือนเดิม "แล้วทำไมต้องทำเหมือนอารมณ์เสียที่ผมมาหา" การที่อีกฝ่ายไม่เลิกเซ้าซี้ แววตาคู่สวยก็ตวัดมองด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว "อย่าหาเรื่องกันจะได้มั้ย รำคาญ!" "รุ้ง!" ศรัณย์ชะงักยืนนิ่ง เขาไม่เคยเห็นหล่อนในมุมนี้มาก่อน ตลอดเวลาที่คบกัน รุ้งลาวัลย์เป็นคนอ่อนหวานพูดเพราะ ไม่เคยเลย สักครั้งที่จะตะคอกใส่เขาให้ต้องมีรอยร้าวในใจ "มาถึงก็หาเรื่องรุ้ง ทีหลังไม่ต้องมานะเคน มาแล้วก็ชวนทะเลาะแบบนี้" "ผมแค่ถามเพราะเป็นห่วง กลัวจะเครียดเรื่องงาน ผมหาเรื่องคุณตรงไหน" ชายหนุ่มเดินหิ้วถุงของกินที่ซื้อมาฝากไปเก็บในครัว เสียงของหล่อนดังไล่หลังตามมา" "รุ้งเหนื่อย อยากพักผ่อน คุณไม่รู้หรอกว่าวันๆ รุ้งเจอกับอะไรบ้าง ต่อให้ตำแหน่งใหญ่แค่ไหน ก็ไม่ใช่เจ้าของบริษัทอยู่ดี" "ก็ถ้าเจ้าของจะใช้คุณยิ่งกว่าทาสแล้วจะทนทำไม เขาไม่แคร์เราหรอกต่อให้คุณทุ่มเทกับงานมากแค่ไหน สุดท้ายก็หลอกใช้อยู่ดี" "อย่ามาว่าเจ้านายรุ้งนะ รู้รึไงว่าเครียดเรื่องอะไร!" เสียงนั้นแทรกทันควัน จากการที่เจ้าตัวไม่พอใจที่ศรัณย์พาดพิงไปถึงใครบางคน "ทำไมรุ้ง...ผมแตะเจ้านายคุณไม่ได้เลยใช่ไหม..." "นับวันคุณยิ่งทำให้รุ้งเสื่อมศรัทรา เอะอะก็จะให้ลาออก แล้วเมื่อไหร่จะบินได้สูงกว่านี้คะ พอจะบินได้สูงก็มีคนมาฉุดให้ตกลงไป" "คุณกำลังบอกว่า...ผมเป็นตัวถ่วงในชีวิตคุณงั้นเหรอ" "บอกตามตรง ตั้งแต่เราคบกันมา รุ้งมองไม่เห็นอนาคตของเราสองคนเลย คุณคิดจะอยู่ไปอย่างนี้เหรอคะเคน คุณไม่คิดให้ยาวๆ คิดแต่จะเป็นลูกจ้างไปอย่างนี้ตลอด ถึงตำแหน่งคุณจะเป็นถึงรองผู้จัดการ แต่มันก็ไม่เหมือนกับการเป็นนายตัวเองหรอกเคน" "รุ้ง..." "เมื่อไหร่คะ กับการที่คุณจะตั้งตัวได้แล้วก็มีธุรกิจเป็นของตัวเอง....ในขณะเดียวกัน ผู้ชายที่เขาอายุน้อยกว่าคุณนั้นต่างก้าว หน้ากันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว คุณไม่อายพวกเขาเหล่านี้เหรอคะ" หญิงสาวเริ่มนำสองคนมาเปรียบเทียบกัน ภัทรนนท์และศรัณย์ นับวันความแตกต่างยิ่งเด่นชัด หล่อนเบื่อศรัณย์ที่เอาแต่โทษโชคชะตา ไม่ขวนขวายที่จะบินให้สูงเหมือนเช่นภัทรนนท์ ฝ่ายนั้นไม่หยุดนิ่งที่จะคิด เดอะเรดคลาสสิคและธุรกิจอสังหาฯคือสิ่งการันตีอนาคต หากเลือกผู้ชายคนใหม่ อนาคตย่อมสดใสกว่าอยู่กับศรัณย์แน่นอน "ต้นทุนคนเราต่างกัน ผมไม่มีต้นทุนด้านฐานะติดตัวมา จะไปสู้กับคนที่พ่อแม่รวยมาตั้งแต่เกิดได้ไง มาได้เท่านี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว แต่ ...ก็ยังไม่ดีพอสำหรับคุณ" "คุณก็เอาแต่โทษโน่นนี่นั่น รุ้งเบื่อที่จะคุยกับคุณเรื่องนี้เต็มที คนที่เขาสู้จนตั้งตัวได้ก็มี แต่คุณมันไม่เอาไหนเคน คุณไม่มองอนาคตยาวๆ เลือกที่จะอยู่ไปวันๆ เท่านั้น ยอมรับความจริงเสียเถอะว่าคุณไม่สู้เอง" หล่อนไม่อยากยกเรื่องเพื่อนๆ ของภัทรนนท์มาเปรียบเทียบ เพราะเท่าที่รู้มา ทีเอสพีเคยมีปัญหาจนเกือบปิดตัว แต่เจ้าของก็เลือกที่จะสู้เพราะมีอนาคตเป็นเดิมพัน เพียงไม่นานความเลวร้ายเหล่านั้นก็ผ่านพ้นไป...ผู้ชายแบบนี้ที่เธอต้องการมาเป็นผู้นำ คนที่มองไปข้างหน้าและไม่หยุดนิ่งที่จะคิดหาเงินเข้าบ้าน ดูเหมือนว่าในวันนี้ศรัณย์จะขยับตัวทำอะไร ก็ดูจะขวางหูขวางตาไปหมด เพียงเพราะใจของรุ้งลาวัลย์เริ่มมีใครอีกคนเข้ามา บนถนนสายมอเตอร์เวย์ที่มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ เบนซ์คันดำแล่นฉิวฝ่าความมืดด้วยความเร็วคงที่...จอมทัพเหลือบมองกระจกส่องหลัง สุดที่รักผล็อยหลับไปแล้วเพราะความอ่อนเพลียจากการติดตามเจ้านายไปยังโครงการต่างๆ ศีรษะเล็กเอนซบอยู่กับบ่ากว้างของคนที่นั่งข้างๆ แววตาของเขาไม่อาจรอดพ้นการจับจ้องจากภัทรนนท์ไปได้ เขาสังเกตท่าทีอีกฝ่ายไม่ให้คลาดสายตากันเลยทีเดียว 'มองอะไร เธอไม่ใช่ผู้หญิงของนายจงรู้เอาไว้’ ภัทรนนท์ขยับกายนั่งในท่าสบาย จับคนนอนหลับให้เอนกายลงนอนหนุนตัก หล่อนยังคงขี้เซาไม่ยอมตื่นแม้จะถูกจับเปลี่ยนท่านอน ท่อนแขนแกร่งพาดผ่านร่างเล็กเพื่อกอดเอาไว้ แสดงให้อีกฝ่าย เห็นว่าไม่มีสิทธิ์ที่แม้คิดแค่มอง จอมทัพรู้เท่าทันในท่าทีหวงก้างนั้น...เขาไม่สนใจว่าทั้งสองจะเป็นอะไรกัน การเข้าถึงตัวบุคคลเป้าหมายคือสิ่งสำคัญสำหรับภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาจากเจ้านาย สองคนที่เคมีไม่ค่อยลงรอยกัน ทำให้บรรยากาศดูอึดอัดมาตลอดทาง "จะให้ผมไปส่งเธอที่ไหนครับ ที่บ้านเลยหรือเปล่า" ถ้าไปส่งสุดที่รักถึงบ้านหมอนี่ก็จะรู้จักบ้านของเธอ เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ลึกมากไปกว่านี้...คิดพลางหลุบตามองคนที่กำลังหลับสนิท ตัดสินใจโดยไม่ลังเล "ไม่ต้อง นายไปส่งฉันที่บ้านเลยก็แล้วกัน" "ครับ" จอมทัพพยักหน้าพลางซ่อนยิ้ม รู้สึกขันกับท่าทีหวงของจนออกนอกหน้า หากแต่ว่านั่นไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขาที่จะต้องใส่ใจ ภารกิจของเขาในวันนี้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ เพราะได้ข้อมูลของคนข้างกายภัทรนนท์เพิ่มขึ้นมาอีกมากทีเดียว ภัทรนนท์โทร.ไปหาปริยฉัตรเพื่ออธิบายให้อีกฝ่ายสบายใจไม่ต้องห่วง มีอยู่เรื่องเดียวที่โกหกนั่นก็คือเอามารดามาอ้างเพื่อสนับสนุนการกระทำของตัว หลังจากนั้นจึงโทร.ไปบอกแม่บ้านให้ช่วยเตรียมห้องนอนสำหรับรับรองแขก ในคราแรกเขาคิดจะให้นอนที่ห้องมินตรา คิดไปคิดมาเขาไม่ควรให้ใครเข้าไปยุ่งวุ่นวายในห้องส่วนตัวของเธอ +++++++
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD