เติบและบัว สองสามีภรรยามองหน้าของหนุ่มหล่อที่นั่งห่างตัวเองกับภรรยาแล้วก็นึกถึงลูกสาว สมบุญเป็นคนน่ารักคนสวย แต่แค่อ้วนเท่านั้น ถ้าผอมคือคนสวยดีๆ นั่นแหละ สองสามีภรรยาเอ่ยเข้าข้างลูกตัวเอง และคิดว่าไม่แปลกที่ผู้ชายตรงหน้าจะตกหลุมรักลูกสาวตัวเอง แต่ว่าพ่อหนุ่มคนนี้มาทำอะไรที่บ้านของเขา
“พ่อหนุ่มมีธุระอะไรกับเราสองคนเหรอ” เติบถามและจะเรียกชื่อก็ลืมไปแล้ว
“ผมจะมาจ่ายหนี้ให้คุณพ่อคุณแม่ครับ ผมไม่อยากให้บุญหักโหมทำงานขึ้นเวรเยอะเดี๋ยวจะไม่สบาย ผมเลยคิดว่ามาใช้หนี้ ธกส. ให้คุณพ่อกับคุณแม่เองดีกว่าครับ” เสริมเอ่ยอธิบายพร้อมถือวิสาสะเรียกท่านทั้งสองว่าคุณพ่อกับคุณแม่ไปด้วย ทั้งๆ ก่อนหน้านี้ยังเรียกทั้งสองว่าคุณน้าอยู่เลย
สองสามีภรรยาหันมาสบตากัน แสดงว่าพ่อหนุ่มคนนี้มีเงินแน่นอน ดูจากการแต่งตัวแล้วคงไม่ได้มาหลอกแน่นอน
“แล้วพ่อหนุ่มชื่ออะไรนะ แม่กับพ่อลืมน่ะ เมื่อกี้ฟังไม่ค่อยชัด”
“ผมชื่อเสริมครับคุณแม่” เมื่อเห็นว่าแม่ของสมบุญมองจ้องมาทางตัวเองอย่างสำรวจ
“พ่อเสริมกับหนูบุญลูกของเรารู้จักกันนานรึยังจ๊ะ” นางถามด้วยความอยากรู้
“นับรวมๆ ก็จะสี่เดือนแล้วครับ” ใช่...เขารู้จักเธอจะสี่เดือนแล้วแต่เพิ่งมาจริงจังอาทิตย์นี้แหละ เขามั่นใจว่าความรู้สึกของเขามันคือความจริง เขาต้องการมีสาวอ้วนในชีวิต ยิ่งได้มารู้จักครอบครัวของเธอแบบนี้ เขายิ่งอยากดูแลเธอ ไม่อยากให้เธอลำบาก
“สี่เดือน แล้วจะมาใช้หนี้ให้ครอบครัวเราเนี่ยนะ” เติบเอ่ยขึ้น
“ครับ สำหรับผมแล้ว ผมทำได้ทุกอย่างเพื่อบุญ ผมไม่อยากเห็นเธอทำงานหนักครับ ผมจริงใจกับลูกสาวคุณพ่อคุณแม่จริงๆ นะครับ ถึงจะเพิ่งรู้จักกันไม่นาน แต่ผมก็อยากดูแล อยากสร้างครอบครัวกับเธอครับ” เสริมเอ่ยจากใจ น้ำเสียง แววตาของเขาหนักแน่นจริงจัง ทำให้คนแก่ที่ผ่านโลกมาก่อนมองออกไม่ยากว่าคำพูดนั้นล้วนจริงใจไม่ได้แสร้งพูดให้พวกเขาฟังเท่านั้น
“แล้วที่เป็นหนี้ ธกส. เป็นเท่าไหร่ครับ ผมจะใช้ให้เองครับ และไม่ต้องเกรงใจผมนะครับ ผมยินดีจะช่วยเหลือครอบครัวของผู้หญิงที่ผมรักครับ ผมเคยถามบุญไปแล้วก่อนจะแอบมาหาคุณพ่อคุณแม่ที่นี่เรื่องจำนวนเงิน แต่เธอปฏิเสธผม เธอไม่ต้องการให้ผมช่วยเหลือ แต่ผมไม่อยากให้เธอทำงานหนักแบบนี้แล้วครับ คุณพ่อคุณแม่เข้าใจผมนะครับ บอกผมมาเถอะครับ” น้ำเสียงของคนที่บอกเป็นแฟนลูกสาวนั้นมีแต่ความจริงใจและจริงจัง ทำให้เติบหันไปมองหน้าภรรยาแล้วชักชวนกันเข้าไปคุยกันข้างในบ้าน
“เราสองคนขอคุยกันก่อนนะพ่อหนุ่ม เราสองคนไม่ค่อยไว้ใจ เพราะอยู่ๆ พ่อหนุ่มก็มาบอกจะใช้หนี้สินของครอบครัวให้ แถมบอกว่าเป็นแฟนของหนูบุญ ลูกของเราอีก ซึ่งมันไม่มีความน่าจะเป็นไปได้ ที่พ่อหนุ่มจะมารักมาชอบลูกสาวของเรา เพราะลูกสาวของพวกเราไม่ได้หุ่นดีเหมือนผู้หญิงคนอื่น”
“ผมรู้ครับว่ามันไม่น่าเชื่อ แต่มันก็เป็นไปแล้วครับ ผมรักลูกสาวของคุณพ่อกับคุณแม่จริงๆ รักเพราะเธอเป็นเธอ รักที่เธออ้วนแบบนี้ครับ ผมมองว่าเธอสวย มีเสน่ห์ เธอน่ารัก น่าเอ็นดูในแบบของเธอ คนสวยไม่จำเป็นต้องผอมครับ อีกอย่างบุญก็สวยอยู่แล้ว ไม่ผอมก็สวย” เสริมนึกถึงหน้าตาจิ้มลิ้มของสาวอ้วนไปก็ยิ้มไป เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้พูดถึงสาวอ้วนขโมยหัวใจตัวเอง
สองสามีภรรยาชักชวนกันเข้าไปคุยปรึกษากันข้างในบ้าน เมื่อได้ฟังชายหนุ่มพูดถึงความปรารถนาของตัวเองแล้ว เติบและบัวมองหน้ากันและพูดคุยกัน เพราะก่อนหน้านี้โทรหาลูกสาวแล้วลูกสาวก็ไม่ได้พูดอะไร ตอนที่บอกว่ามีคนมาบอกว่าเป็นแฟนของลูกสาว ลูกสาวตัดวางสายไปแล้วต่อสายหาพ่อหนุ่มแทน และเหมือนพูดคุยกันนานทั้งสองจึงมั่นใจว่ารู้จักกันแน่นอน และผู้ชายคนนี้ดูแล้วก็ไม่เหมือนจะมาหลอก ถ้ามาหลอกก็คงไม่มีอะไรจะให้ คำพูด ท่าทาง แววตาที่จริงจังนั้นบอกว่าเขาพูดความจริงออกมาจากใจ เมื่อพูดคุยปรึกษากันแล้วก็เดินออกไปหาคนที่นั่งรอที่แคร่เหมือนเดิม ด้านเสริมยังนั่งอยู่ในท่าเดิม แต่น้ำในแก้วน้ำตรงหน้าเขาได้ดื่มไปหมดแล้ว แม่บัวเลยเติมน้ำให้ชายหนุ่มอีกแล้วพูดคุยกันเรื่องที่พูดค้างกันไว้ทันที โดยพ่อเติบเป็นคนพูด
“เรื่องที่พ่อเสริมพูดมาพ่อกับแม่มันยังไงกัน อธิบายมาสิพ่อเสริม” เติบแทนตัวเองและภรรยาว่าพ่อกับแม่ เมื่อคิดและมองอย่างคนที่ผ่านน้ำร้อนมาก่อน สายตาของพวกเขาไม่พลาดแน่ ผู้ชายคนนี้เชื่อใจได้และเป็นคนดีใช้ได้เลยทีเดียว
“ครับ ไม่ต้องเกรงใจผมนะครับ ผมเต็มใจจะแบ่งเบาภาระ ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวคุณพ่อกับคุณแม่ ผมเป็นเด็กกำพร้ามีแค่พี่ชายที่เป็นเจ้านายเลี้ยงดู ให้อาชีพ ให้งานผม” เสริมเอ่ยถึงเรื่องส่วนตัวของตัวเอง แม้แต่สมบุญก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า
“เด็กกำพร้า แล้วทำงานอะไร ถูกกฎหมายรึเปล่าถึงได้มีเงินทองจะมาใช้หนี้แทนครอบครัวเรา พ่อกับแม่ไม่ได้อะไรหรอกนะ แต่เราต้องถามไว้ เพราะเราเป็นห่วงลูกสาว เรามีลูกคนเดียวก็อยากให้มีผู้ชายดีๆ มาดูแล” พ่อเติบเอ่ยถามซัก
“เจ้านายผมเป็นเจ้าของกาสิโนครับ ผมเป็นผู้ดูแล ตอนนี้ก็มีหุ้นกับบริษัทหลายแห่งที่ผมเป็นหุ้นส่วนด้วย แล้วก็มีบริษัทเป็นของตัวเอง ผมไม่ทำให้บุญลำบากแน่นอนครับ และทุกอย่างที่ผมทำถูกกฎหมายแน่นอนครับ” เขาบอกย้ำ
“ค่อยเบาใจหน่อย” แม่บัวเอ่ยบ้าง และแอบดีใจแทนลูกสาวที่จะได้เจอผู้ชายที่ดีพร้อม ทั้งหน้าตาและการงานกับการเงินแบบเสริม
“ครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น แล้วเรื่องหนี้สินของคุณพ่อกับคุณแม่บอกผมได้เลยนะครับว่าตอนนี้เป็นหนี้ ธกส. เท่าไหร่ และหนี้รายย่อยด้วยครับ ผมจะใช้จ่ายให้หมดเลยครับ ผมอยากให้บุญทำงานสบายๆ ไม่หักโหมเหมือนตอนนี้ ผมสงสารเธอครับ” เสริมพูดถึงจุดประสงค์ของตัวเอง
“หนี้ของพ่อแม่ก็มีแต่ ธกส. เท่านั้นแหละ ที่ไปกู้ยืมมาส่งหนูบุญเรียน” พ่อเติบเป็นคนพูด
“ครับ”
“ทั้งหมดสามแสนบาท ที่พ่อกับแม่กู้มา” พ่อเติบพูดต่อ
“เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ และอย่าเกรงใจผมเลยนะครับ คิดว่าผมเป็นลูกของคุณพ่อคุณแม่อีกคนก็แล้วกันครับ”
“ขอบคุณมากนะพ่อเสริม จิตใจดีจริงๆ และขอบคุณที่รักและเอ็นดูหนูบุญลูกสาวของเรา ขอบคุณที่เห็นความสวยของลูกสาวเรา” แม่บัวเอ่ยอย่างซาบซึ้ง
“เธอสวยทั้งหน้าตาและจิตใจครับ ผมบอกคุณพ่อคุณแม่แล้วยังไงครับ คนสวยไม่จำเป็นต้องผอม” เสริมล้วงกระเป๋าเสื้อสูทข้างในเพื่อนำสมุดเช็คและปากกาออกมาเซ็นเช็คเงินสดให้ทั้งสองเพื่อนำไปใช้หนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ท่านทั้งสองบอกสามแสนบาท เขาจึงเซ็นเช็คไปห้าแสนบาท เพื่อให้ท่านทั้งสองเป็นทุนไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉินของอนาคต
“ทำไมเซ็นให้เราตั้งห้าแสนล่ะพ่อเสริม” พ่อเติบถามว่าที่ลูกเขย ใช่...ว่าที่ลูกเขย
“เผื่อใช้จ่ายฉุกเฉินครับ และไปขึ้นเงินสดได้เลยนะครับ ไม่เด้งแน่นอน ส่วนเรื่องบุญ ผมจัดการเองครับ คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ต้องสนใจเธอหรอกครับ เธอเกรงใจผม เธอไม่อยากให้ผมช่วยเหลือเธอ แต่ผมทนไม่ได้ที่เห็นเธอทำงานหนักจึงแอบมาที่นี่แหละครับ” เขาบอกท่านทั้งสอง
“จิตใจดีแท้พ่อคุณ แล้วนี่จะค้างกับเราไหมพ่อเสริม” แม่บัวเอ่ยถามว่าที่ลูกเขย
“ไม่ครับ ผมต้องรีบกลับครับ พอดีที่กรุงเทพมีงานรอผมอยู่” เขานั่งเครื่องบินมาลงที่ขอนแก่นและจ้างรถมาส่งที่นี่พร้อมกับให้รอรับกลับไปด้วย
“อ้อ...งั้นเดินทางกลับกรุงเทพปลอดภัยนะพ่อเสริม” แม่บัวเอ่ย
“ครับ ถ้ามีอะไรติดต่อหาผมได้เลยนะครับ” เขาพูดพร้อมกับล้วงกระเป๋าสตางค์หยิบนามบัตรตัวเองออกมาให้ทั้งสองเก็บไว้
“จ้า ขอบคุณที่ช่วยเหลือครอบครัวเรา พ่อกับแม่ฝากพ่อเสริมดูแลหนูบุญด้วยนะลูก” พ่อเติบเอ่ยฝากฝังลูกสาวกับว่าที่ลูกเขยในอนาคตของตัวเอง
“ครับ ผมยินดีจะดูแลบุญไปตลอดชีวิตเลยครับ” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วยกมือไหว้ทั้งสอง ก่อนจะเดินออกไปจากรั้วบ้านเล็กๆ ที่รถยนต์ของเขาจอดอยู่ข้างนอก ส่วนพ่อเติบและแม่บัวก็มองหน้ากันด้วยยิ้มเอ็นดูชายหนุ่มที่จากไปและมองเช็คเงินสดในมือ
“พ่อเสริมดูเป็นคนดีเนาะพ่อ” แม่บัวพูดกับสามี
“ใช้ได้เลยแม่บัว โชคดีของลูกบุญจริงๆ ที่เจอผู้ชายดีๆ แบบนี้ ดูเป็นผู้ใหญ่ด้วย คนแบบนี้แหละจะสอนลูกเราให้โตเป็นผู้ใหญ่”
“พูดแบบนี้แสดงว่าให้เขาเป็นลูกเขยแล้วใช่ไหมเนี่ย”
“แม่บัวก็เหมือนกันแหละ พ่อรู้นะว่าแม่บัวดีใจปลื้มกับว่าที่ลูกเขยที่เพิ่งกลับไป”
“แน่นอนสิพ่อ จริงใจแถมยังรวยด้วย แต่งงานไปยังไงลูกเราก็ไม่ลำบาก”
“ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะแม่บัว เราไปเก็บผักกันต่อเถอะ เดี๋ยวไปไม่ทันตลาดคลองถมตอนเย็น”
“อือ” แม่บัวเดินนำเช็คเงินสดที่เพิ่งได้มาเข้าไปเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าพร้อมล็อกอย่างดี ก่อนจะเดินออกมาช่วยสามีที่เดินไปเก็บผักรอตัวเอง ส่วนนามบัตรนั้น แม่บัวก็ให้สามีเป็นคนเก็บไว้