EP 2

1078 Words
“นี่คุณ พูดให้มันดีๆ หน่อยนะ ไม่ใช่คำก็ทุเรศสองคำก็ทุเรศ” “ฉันจะพูดดีกับคนคิดดีและทำดีเท่านั้นล่ะ” “ก็ไม่ต้องพูดกันละ เอานี่ไป คงพอนะ แต่ถ้ายังไม่พอผมก็ไม่มีแล้ว หมดกระเป๋าแล้ว เอาเบอร์บัญชีมาแล้วกัน เดี๋ยวจะโอนให้” แบงก์ทั้งหมดในกระเป๋า ถูกควักออกมายื่นใส่หน้าให้ พิชชามองครู่หนึ่งแล้วก็ร้องใส่คนอวดรวยลั่นโรงพยาบาล ดีที่ไม่ค่อยมีคนไข้ “คิดว่าจะเอาเงินมาฟาดหัวฉันได้เหรอ ฉันไม่สนหรอกนะ คอยดู ถ้าลูกฉันเป็นอะไรไป ฉันจะจัดการกับนายแน่ ไอ้คนทุเรศ” จากนั้นก็วิ่งหนีไปยืนเฝ้าหน้าห้องที่เพิ่งเอาลูกชายเข้าไปส่งใส่มือหมอแทน ส่วนเจ้าของเงินก็โกรธไม่น้อย ด้วยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยากได้อะไรกันแน่ “เอามานี่เลย เก็บไว้บัว ได้แค่นี้ก็ดีกว่าไม่ได้” นวลเป็นฝ่ายดึงเงินจากมือคนหน้าบูดบึ้งไม่เลิก เพราะถือคติสิบเบี้ยใกล้มือ แล้วทุกคนก็มองตามร่างสูงใหญ่ที่เดินออกโรงพยาบาลไปด้วยอาการหัวเสียสุดๆ “คนพวกนี้นิสัยไม่ดี ไม่เห็นหัวคนจน ถือว่าตัวเองรวย เที่ยวแต่จะเอาเงินฟาดหัวคนอื่นไปเรื่อย มันน่าทุบรถให้เละนัก” นวลด่าตามหลัง แล้วเพื่อนบ้านก็เออออไปด้วย เพราะต่างไม่พอใจหนุ่มหน้าบูดไปตามๆ กัน “ถุงเงินลูกแม่ อย่าเป็นอะไรนะลูก” แต่คนห่วงลูกชายนั้นกลับไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เอาแต่ยืนภาวนาอยู่หน้าห้องเท่านั้น แถมโกรธตัวเองไปด้วย ที่ไม่อาจจะปกป้องลูกได้ อยู่ในหมู่บ้านแท้ๆ ก็ดันถูกคนใจร้ายทำให้เจ็บตัว ส่วนบัวนั้นก็ดีใจไม่น้อย ที่นวลคว้าเงินมาส่งใส่มือให้ เพราะเดาได้ไม่ยากว่าค่ารักษาคงจะเป็นหมื่นๆ แน่ การงานของหลานก็คลอนแคลนไม่ใช่น้อย เพราะเจ้านายใจดำ ทำงานดีแทบตายก็ชอบหาเรื่องไล่พนักงานออกให้ได้ยินตลอด งานก็หนัก เวลาจะพักผ่อนก็น้อย แถมวันหยุดอย่างนี้ หลานก็ต้องมาเสียใจเพราะเจ้าถุงเงินเจ็บหนักอีก lll   พอร์เช คาเยนน์ อี-ไฮบริด รุ่นใหม่ล่าสุด แล่นไปจอดตรงหน้าอาคารสูง ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบกอทิก หากไม่มีป้ายโลหะตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า LHB Lurenzo Hurliman Bank กับมีชื่อภาษาไทยกำกับด้านบนว่า ธนาคารลูเร็นโซ่ เฮอร์ลิแมนไว้ คนคงเข้าใจว่าเป็นโบถส์หรือวิหารแทนมากกว่า นายชอบรีบกุลีกุจอออกจากรถ ไปเปิดประตูให้คนนั่งอยู่ส่วนหลังด้วยความเคยชินและด้วยท่าทีพินอบพิเทา จากนั้นก็หิ้วกระเป๋าหนังสองใบ แล้วรีบสาวเท้าเร็วสุดชีวิต เพื่อให้ทันอีกคนที่เดินเข้าไปในตัวอาคารแล้ว พนักงานในธนาคารชั้นล่าง พากันยกมือไหว้เจ้าของส่วนสูงร้อยเก้าสิบ มีสูทสีกรมท่าหุ้มกายไว้ไปตามๆ กัน “สวัสดีค่ะ/ครับท่านประธาน” คนถูกเรียกว่าท่านประธานหันไปพยักหน้ารับน้อยๆ แม้ในใจจะไม่ค่อยปลื้มกับสรรพนามนี้นัก แต่สองเท้าก็ยังก้าวเดินผ่านไปยังลิฟต์แล้วยืนกอดอกรออยู่ด้วยท่าทีสงบนิ่ง นายชอบรีบตรงไปกดเปิดทันที เพื่อไปยังชั้นบนสุดของอาคาร ซึ่งเป็นห้องทำงานอันกว้างขวาง หรูหรา สะอาดสะอ้าน “สวัสดีค่ะท่านประธาน” นาถรดีรีบผุดลุกขึ้นยกมือไหว้แล้วยิ้มกว้างให้ ทว่าคนเป็นเจ้านายนั้นกลับตีหน้าขรึมใส่แทน “ถ้าขืนยังเรียกผมแบบนี้ให้ได้ยินบ่อยๆ ผมจะหักเงินเดือนนะ หรือจะให้ไล่ออกดี?” คนถูกเรียกแบบล้อๆ ส่งเสียงห้วนๆ ให้ ก่อนจะเดินเข้าประตูที่มีป้ายภาษาอังกฤษติดไว้ Mr. DONATELLO Lurenzo เข้าไปยังห้องทำงาน แม้เครื่องปรับอากาศจะเปิดรอแล้ว แต่เจ้าของห้องก็รีบถอดสูทส่งให้เลขาที่เดินตามเข้ามาอยู่ดี เพราะเป็นคนค่อนข้างขี้ร้อน โทรทัศน์จอแบนทั้งหกติดอยู่กับผนังห้องฝั่งประตู ถูกเลขาเปิดข่าวจากช่องดังทั่วโลกแบบไร้เสียงไว้ให้ตั้งแต่มาถึงแล้ว ข่าวสำคัญๆ ทั้งสี่ภาษาคืออังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี่ ถูกพริ้นมาวางไว้บนโต๊ะหินอ่อน ขนาดสี่ที่นั่งตรงหน้าต่าง มองลงไปเห็นวิวเมือง คนเป็นเจ้านายก็เดินไปคว้ามาอ่าน ขณะทรุดกายลงไปหาเก้าอี้ บุนวมแบรนด์ดัง “นาถรู้ค่ะว่าคุณดนตร์ใจดี ไม่ไล่นาถออกหรอกค่ะ ว่าแต่ทำไมเช้านี้ขรึมจังเลยคะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?” “โน” เวลายังไม่จริงจังกับงาน นาถรดีมักจะเป็นเจ้านายใช้ภาษาอื่นมาปะปนกับการคุยบ้าง “ชัวร์นะคะ?” “เยส มาว่าเรื่องวันนี้ดีกว่า อะไรที่ผมต้องทำบ้าง?” ตานั้นจ้องข่าวในมือ แต่ปากกลับถามเลขาคู่ใจ หูก็รอฟังการรายงานไปด้วย และเรื่องพวกนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเขาสักนิด เพราะแบ่งประสาทการรับรู้ รับฟังได้อย่างดีเยี่ยม “ประชุมผู้บริหารเก้าโมงถึงสิบโมงครึ่งค่ะ เสร็จก็ประชุมคณะกรรมการต่อจนถึงเที่ยง บ่ายโมงต้อนรับนักลงทุนจากเวียดนามค่ะ ต่อด้วยจิบคอฟฟี่เบรคในห้องรับรอง ยืดได้สุดๆ ถึงบ่ายสาม เพราะมีประชุมกับผู้บริหารจากสาขาฮ่องกง เสร็จก็เลี้ยงข้าวเย็นที่ร้านอาหารค่ะ” “มายก้อด!” เจ้านายหนุ่มพยักหน้ารับเพียงเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจให้วันอันยืดยาว และมีเรื่องราวให้ทำมากมายก่ายกอง แน่นอนว่าเขาจะต้องเสพข่าวตรงหน้าให้เสร็จเร็วๆ จะได้เหลือเวลาไว้อนุมัติเอกสาร ที่วางเรียงอยู่บนโต๊ะหลายรายการ “คุณดนตร์จะเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมอะไรมั้ยคะ นาถจะได้จัดการให้ค่ะ” “โน” “นาถไปทำงานนะคะ เดี๋ยวสักครู่มื้อเช้าจะเข้ามาค่ะ” นาถรดียิ้มให้ แม้เจ้านายจะจ้องของในมืออยู่ก็ตามที แต่ก็รู้ดีว่าเจ้านายเห็นได้จากหางตา แล้วก็ออกจากห้องไปเพราะมีงานต้องไปแจกจ่ายให้ผู้ช่วยอีกสามคนหลายอย่าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD