08

2034 Words
“ฮือ! กลัวอ่ะ ทำหน้าดุอีกแล้ว ฉันพูดอะไรผิดเหรอ ก็ฉันช่วยคุณไม่ได้จริงๆ นี่ ตัวเองก็ต้องช่วยตัวเองสิ เสร็จแล้วค่อยเอาสเปิร์มไปส่งให้เค้าที่แผนกสูติไง เค้าจะรออยู่ตรงนั้น แค่นี้เอง ไม่ยากหรอก...นะ” คนตกใจทำเสียงอ้อน พร้อมทำหน้าตาน่าสงสาร เปลี่ยนสรรพนามให้ดูน่ารัก เผื่อเขาจะอารมณ์เย็นลง “เมื่อกี้คุณพูดเรื่องบ้าอะไรนะ” คิดว่าตัวเองคงหูฝาดไปแน่ๆ ที่ได้ยินคำพูดประหลาดๆ แบบนั้นจากเธอ จิโอวาโน่จึงถามอีกครั้งเพื่อความั่นใจ “ช่วยตัวเองน่ะเหรอ” คนถามพาหน้าใสตาใส คนอื่นๆ ได้แต่กุมขมับกับความพาซื่อของเจ้าหล่อน โดยเฉพาะชายหนุ่มที่ตอนนี้เขินแทนจนหน้าแดงไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโกรธด้วยรึเปล่า เลยทำให้ยิ่งดูน่ากลัวขึ้นไปอีก “ใครถามเรื่องแบบนั้นกันเล่า” เขากระชากเสียงตอบอย่างไม่สบอารมณ์ จะให้อายไปถึงไหนวะเนี่ย แค่นี้ยังขายหน้าไม่พอรึไง ดูหน้าลูกน้องกูแต่ละคน โดยเฉพาะไอ้เพื่อนเวรนั่น ทำหน้าระรื่นจนออกนอกหน้า ความบัดซบที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี่ เธอต้องรับผิดชอบไอรดา “อ๋อ! งั้นก็คงเป็นเรื่องรีดสเปิร์ม ใช่มะ” ไอรดาทำท่าบิดไปมาอย่างเขินอาย จากนั้นจึงกล่าวต่อ “ก็เรื่องที่เราคุยกัน ฉันอยากขอซื้อสเปิร์มจากคุณ แต่คุณไม่ขายไง บอกว่าจะให้ฟรีๆ นี่ฉันยังคิดเลยนะ ว่าทำไมคุณเป็นคนดีจัง ตกลงคุณจะรีดสเปิร์มเลยใช่ไหม จองห้องไว้เรียบร้อยแล้วนี่ ไปเลยสิ” ฟังเธอพูดจบ จิโอวาโน่ถึงกับต้องตบหน้าผากตัวเองดังฉาด พลาดแล้วกู “ไม่ตกลงอะไรทั้งนั้น โว้ย! นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ” จิโอวาโน่สบถอย่างหัวเสีย พร้อมกับพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองด้วยการเดินไปเดินมา ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าจะทำยังไงกับเธอดี “จุ๊ๆๆ! ฝันสลายอีกคนแล้ว ฮ่าๆๆ” อเล็กซิสหัวเราะชอบใจ อย่างน้อยๆ วันนี้เขาก็ไม่ได้เสียหน้าแค่คนเดียว “อย่าเสือ..ก อเล็กซ์ กูกำลังอารมณ์ไม่ดี” จิโอวาโน่หันไปตวาดเสียงเขียว หงุดหงิดใส่เพื่อนรักที่เห็นเรื่องแย่ของเขาเป็นเรื่องตลก “เอาล่ะไอรดา บอกผมมาว่าคุณจะเอาสเปิร์มไปทำอะไร” หลังจากจัดการกับเพื่อนเสร็จก็หันมาจัดการกับตัวปัญหาอย่างไอรดาต่อ “ก็ทำลูกไง คุณนี่ก็ถามแปลก ฉันคงไม่เอาไปกินเป็นยาชูกำลังหรอกมั้ง” ไอรดาตอบรวดเร็วอย่างลืมตัว จากนั้นก็รีบเอามือปิดปากตัวเองอย่างขอลุแก่โทษ และดูเหมือนคำพูดของเธอจะทำเอาเหล่าบริวารทั้งหลายที่ยืนฟังกันอยู่เงียบๆ ถึงกับสะอึกด้วยกำลังสร้างจินตนาการตามคำพูดของเธอ “โว้ยๆๆ โธ่เว้ย บัดซบเอ๊ย” จู่ๆ จิโอวาโน่ก็ระเบิดเสียงลั่นโรงพยาบาลด้วยความหงุดหงิดที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่คิดสักอย่าง โดยเฉพาะเรื่องที่เธอทำให้เขาต้องจินตนาการค้างกลางอากาศแบบนี้ ทำเอาคนรอบข้างต่างผวาไปตามๆ กัน โดยเฉพาะไอรดาตัวต้นเหตุ ถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ “เอ่อ คุณหนูคะ มาเรียว่าวันนี้เราพอแค่นี้เถอะค่ะ กลับไปตั้งหลักก่อน แล้วค่อยคิดหาทางว่าจะเอายังไงกันต่อดี” มาเรียที่เห็นท่าทางไม่ค่อยดี จึงคิดว่าควรปลีกตัวออกมาก่อนน่าจะดีกว่า เพราะถ้าหากเกิดการปะทะกันขึ้น พวกเธอจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบซะเปล่าๆ “แต่ ฉันยังไม่ไดสเปิร์มของเขาเลยนะมาเรีย อุตส่าห์เสียเวลามาทั้งวัน สุดท้ายต้องกลับไปมือเปล่า ฉันไม่ยอมจริงๆ นะ ก็เขาพูดเองนี่นาว่าจะให้ ทำไมเขาถึงผิดสัญญาล่ะ” เห็นนายสาวงอแงแล้ว มาเรียถึงกับกุมขมับอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่า ก็ถ้าคุณหนูไม่พูดกำกวม เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นหรอก ว่าแล้วเชียวว่าต้องพูดกันไปคนละเรื่องเดียวกัน เฮ้อ! “เชื่อที่มาเรียพูดเถอะครับคุณหนู ไว้ผมจะรีบหาสเปิร์มที่เพอร์เฟ็คท์กว่านี้ให้คุณหนูเอง แต่ตอนนี้เรารีบไปจากที่นี่กันก่อนที่เราจะไม่มีโอกาสนั้นนะครับ” รามานช่วยพูดด้วยอีกแรง เห็นหน้าตาถมึงทึงของอีกฝ่ายแล้วใจไม่ดียังไงก็ไม่รู้ “แต่ฉันอยากได้คนนี้นี่นารามาน เราทุบหัวแล้วลากเข้าห้องเหมือนในละครเลยดีไหม ไหนๆ เขาก็จองห้องไว้แล้ว” โฮ! กูอยากตาย ใครก็ได้ช่วยรามานที ให้ทุบหัวมาเฟียเนี่ยนะ หาเรื่องตายชัดๆ รามานได้ยินแบบนี้แล้วอยากจะร้องไห้ ต่างกับอเล็กซิสที่เอาแต่ยืนยิ้มอยู่คนเดียว เพราะเขาเองก็เข้าใจภาษาไทยที่พวกเธอพูดด้วยเหมือนกัน “เพื่อความปลอดภัยเชื่อพวกเราสักครั้งเถอะครับคุณหนู ตอนนี้เรากลับไปตั้งหลักกันก่อน แล้วค่อยคิดหาวิธีกันอีกที เรายังอยู่ที่นี่อีกตั้งหลายวันถ้าคุณหนูยังยืนยันว่าอยากได้ผู้ชายคนนี้ คราวหน้าผมจะดักฉุดให้เลยเอ้า” ทั้งมาเรียและรามานต่างก็หันไปมองหน้าอิลพร้อมกัน ไม่นึกว่าจะได้ยินประโยคแบบนี้จากปากคนอย่างอิล “ฮ่าๆๆ” คราวนี้อเล็กซิสถึงกับกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อได้ยินว่าเพื่อนกำลังจะโดนฉุด ทำเอาสายตาทุกคู่หันมายังเขาเพียงจุดเดียว จนเจ้าตัวต้องพยายามกลั้นเอาไว้พร้อมกับโบกมือปฏิเสธว่าไม่มีอะไร “เอางั้นก็ได้ เพราะฉันคิดว่ายังไงๆ นายก็คงได้ฉุดผู้ชายคนนี้แน่อิล เตรียมตัวเอาไว้เลย” เมื่อไอรดายอมตกปากรับคำ ทำเอาทั้งสามพากันถอนหายใจออกมาพร้อมกัน อย่างน้อยนี่ก็เป็นการแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไปก่อน “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ฉันว่าเราไปหาอะไรกินให้อิ่มท้อง แล้วค่อยคิดแผนกันต่อเถอะ อ้อ! ขอเป็นอาหารไทยแซ่บๆ นะมาเรีย หึๆ รอฉันก่อนนะจ๊ะสเปิร์มจ๋า ยังไงซะพวกเธอก็จะต้องตกเป็นของฉัน” สั่งการมาเรียเสร็จ ไอรดาจึงหันไปสั่งลาเจ้าสเปิร์มต่อ ทำเอาจิโอวาโน่ถึงกับต้องรีบหนีบขาตัวเองอย่างรวดเร็วเมื่อได้เห็นสายตาไม่น่าไว้ใจของเธอที่เอาแต่มองที่อยู่ของสเปิร์มตาเป็นมัน ถึงจะเป็นผู้ชายแต่เขาก็อายเป็นนะ ก็เธอเล่นจ้องเอาๆ แบบนั้น ป่านนี้น้องชายของเขาไม่ขวัญหนีดีฝ่อกันหมดแล้วรึไง “ในเมื่อทุกอย่างในวันนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด ฉันคงไม่มีอะไรจะแก้ตัวนอกจากคำว่าขอโทษคุณจากใจจริงนะคะคุณจิโอวาโน่ แล้วก็คงต้องขอลาคุณตรงนี้เลย ลาก่อนค่ะ” ไอรดาค้อมศีรษะให้เป็นการกล่าวลา แต่ก็ยังไม่วายมองต่ำลงไปอีก ไว้พบกันนะจ๊ะสเปิร์มลูกแม่ “เดี๋ยว” จิโอวาโน่เอ่ยรั้งเธอเอาไว้ ถ้าคิดว่าแค่คำขอโทษสั้นๆ จากเธอจะทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบล่ะก็ ลืมไปได้เลย “ไหนๆ วันนี้ก็เป็นโอกาสดีที่เราได้รู้จักกัน จะเป็นไรไหมถ้าผมจะขอเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อเพื่อมิตรภาพระหว่างเรา ผมรู้จักร้านอาหารไทยอยู่ร้านหนึ่งไม่ทราบว่าคุณพอจะทานได้รึเปล่า เผื่อว่าถ้าเราทานไปคุยไป ทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้ ไม่แน่ว่าผมอาจจะให้ในสิ่งที่คุณต้องการก็ได้ใครจะไปรู้...จริงไหม” ถึงแม้จะรู้สึกกระดากอยู่บ้างที่ต้องใช้ลูกๆ ของเขาเป็นข้อต่อรอง แต่ถ้ามันจะช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมันก็คุ้ม “เอ่อ! ก็ได้ เพื่อมิตรภาพของเราฉันน้อมรับคำเชิญค่ะ” ไอรดายิ้มมุมปาก เพื่อสเปิร์มของฉันต่างหากย่ะ เธอต่อให้ในใจ ต่างกับคนสนิททั้งสามของเธอที่ตอนนี้ได้แต่มองหน้ากันอย่างจนใจ ก็ใครจะไปคิดล่ะว่าคุณหนูของพวกเขาจะใจง่ายแบบนี้ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ตกหลุมพรางเพราะสเปิร์ม หลังจากที่ทุกคนมาพร้อมกันยังร้านอาหารที่นัดหมาย(ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยของมาดามเอลี่ แม่ของจิโอวาโน่ แต่เขาเลือกจะไม่บอกใครเพื่อเหตุผลบางประการ) และที่น่าแปลกไปกว่าอะไรทั้งสิ้นก็คือทุกคนไม่ว่าจะเป็นเหล่าบริวารทั้งของเขาเอง ทั้งของอเล็กซิส และของไอรดาต่างก็ถูกเชิญให้มานั่งรับประทานอาหารร่วมกัน โดยให้เหตุผลว่าทุกคนต่างก็ยังไม่ทานอะไรเหมือนกัน มานั่งทานให้เสร็จเรียบร้อยซะทีเดียวจะได้ไม่เสียเวลา อีกทั้งยังเป็นการผูกไมตรีกันระหว่างบอดีการ์ดด้วยกันอีกด้วย “อย่าเพิ่งค่ะคุณหนู” คนระวังตัวทุกฝีก้าวอย่างมาเรียร้องห้ามเป็นภาษาไทย เมื่อไอรดาทำท่าจะตักอาหารเข้าปากทันทีที่อาหารเรียงรายกันออกมาให้เลือกมากมาย “หืม! ทำไมอะ” ไอรดาทำหน้าไม่เข้าใจ ในเมื่อตอนนี้เธอหิวจนตาลายไปหมดแล้ว อีกทั้งอาหารทุกอย่างก็ช่างยั่วน้ำลายเหลือเกิน “มาเรียว่ามันมีอะไรแปลกๆ เราอย่าเพิ่งไว้ใจจะดีกว่าค่ะ” มันมีบางอย่างผิดปกติในความรู้สึกมาเรีย ที่คนอย่างจีโอวาโน่จู่ๆ ก็มีท่าทีเปลี่ยนไปจากที่ตอนแรกกำลังโมโหอย่างเอาเป็นเอาตาย กลายมาเป็นอย่างที่เห็นในตอนนี้ ในขณะเดียวกันคนที่ฟังภาษาไทยออกอย่างจิโอวาโน่ที่ได้ยินเข้า จึงแกล้งตักอาหารบนโต๊ะเข้าปากให้ดูว่ามันไม่มีอันตรายใดๆ มีก็แต่ความอร่อยที่รออยู่เท่านั้น “คิดมากน่ามาเรีย ไม่มีอะไรหรอก เอาเป็นว่าฉันกินได้นะ ถ้ายังห้ามอีกล่ะก็คราวนี้ฉันจะกินเธอแทนจริงๆ ด้วย เธอเองก็กินได้แล้วมาเรีย ถ้าเขาวางยาจริงๆ ก็คงตายกันหมดนี่แหละ” จากนั้นไอรดาก็ไม่ฟังคำทัดทานใดๆ ของมาเรียอีก ตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยจนมาเรียเองก็ยอมตักกินบ้างเมื่อเห็นว่าทุกอย่างปกติดี “ดูท่าคุณจะชอบมันนะ อาหารไทยพวกนี้น่ะ” อเล็กซิสหันไปชวนคุย เมื่อเห็นไอรดาทานได้มาก แน่นอนว่ามากกว่าสตรีทั่วไปที่ต้องรักษารูปร่าง แต่เธอคนนี้เล่นกินซะไม่ห่วงสวยเลยว่างั้นเถอะ “ค่ะ ฉันชอบทานอาหารไทย รสมันจัดดี ไม่เลี่ยน โดยเฉพาะต้มยำกุ้งกับแกงส้มนะของโปรดเลยค่ะ” ไอรดาตักอาหารที่ว่านั่นเข้าปาก รสจัดๆ ของมันทำให้เธอหน้าแดงขึ้น แต่เธอก็ยังทานมันด้วยความเอร็ดอร่อย ต่างกับอเล็กซิสที่ยังไม่เคยชินกับรสจัดๆ ของอาหารไทย ทำให้ทานไม่ได้มากเท่าที่ควร “คุณทานบ่อยเหรอ ถึงได้ดูคุ้นกับอาหารรสจัดพวกนี้จัง ผิดกับผม ดูสิทานไปนิดเดียวเหงื่อไหลอย่างกับธาตุไฟแตกแน่ะ” อเล็กซิสพูดไปก็เป่าปากไป “แม่ฉันเป็นคนไทยน่ะค่ะ ฉันก็เลยได้ทานตั้งแต่เด็กๆ แต่หลังจากท่านเสียไปก็ไม่ค่อยได้ทานเท่าไหร่ หาทานยากค่ะ ที่สำคัญมันไม่อร่อยเหมือนที่แม่ทำด้วย แต่อาหารวันนี้อร่อยมากเลยนะคะ หรือว่าฉันจะซื้อตัวแม่ครัวของที่นี่กลับไปด้วยเลยดีนะ” จิโอวาโน่ได้ยินแบบนั้นถึงกับแทบสำลัก ถ้าเธอคิจะทำอย่างที่พูดล่ะก็ มีหวังแม่ของเขาได้กลายร่างเป็นนางยักษ์แน่ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD