จนแล้วจนรอดทั้งจิโอวาโน่และไอรดาก็ยังตกลงกันไม่ได้สักที เพราะต่างคนก็ต่างยืนยันเจตนารมณ์ของตัวเองอย่างมุ่งมั่น
“ฮึ่ย ยัยต่างดาว ผู้ชายดีๆ ที่ไหนเขายอมขายตัวกันบ้างเล่า” จิโอวาโน่ขึ้นเสียงอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเธอไม่ยอมเข้าใจในสิ่งที่เขาบอกสักที
“นี่ คุณว่าฉันอีกแล้วนะ” ไอรดาที่ถูกหาว่าเป็นเอเลี่ยน ทำท่าฮึดฮัดไม่ยอม เมื่อโดนว่าซ้ำด้วยคำเดิมอีก
จึงหันไปหาตัวช่วย เพื่อมายืนยันว่าผู้หญิงที่หน้าสวยๆ แบบเธอมันเหมือนเอเลี่ยนอย่างที่เขาว่าจริงๆ รึเปล่า
“นี่ นายน่ะมานี่หน่อยซิ” ไอรดาหันไปเรียกมาร์โก้ที่อุตส่าห์ยืนก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบตากับใครแล้วเชียว แต่จนแล้วจนรอด เคราะห์ซ้ำกรรมซัดก็ยังมาตกอยู่ที่มาร์โก้อีกอยู่ดี
“อะเอ่อครับ คุณหนูเอลล่ามีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ” มาร์โก้เอ่ยถามตะกุกตะกัก ไม่กล้าสบตาเจ้านายของตัวเอง
“นายช่วยมองหน้าฉันหน่อยสิ แล้วบอกให้ชัดๆ ซิ ว่าหน้าฉันเหมือนเอเลี่ยนอย่างที่เจ้านายของนายว่ารึเปล่า” ไอรดาออกคำสั่งพร้อมกับยื่นหน้าตัวเองเข้าไปใกล้มาร์โก้ที่ยืนตัวแข็งอยู่กับที่ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ ด้วยซ้ำ
“อะ เอ่อ” มาร์โก้อึกอัก ไม่รู้จะบอกอีกฝ่ายยังไงว่าถ้าขืนเขาทำแบบนั้น เจ้านายของเขาที่ยืนตาขวางอยู่ตอนนี้คงได้ควักลูกตาเขาออกมาโยนเล่นแน่ๆ
“มาร์โก้ ถ้ายังไม่อยากตาย ก็รีบไสหัวไปซะ” จิโอวาโน่บอกเสียงเย็น ที่คนฟังฟังแล้วขนลุกซู่ไปทั้งตัว โดยไม่ต้องรอให้สั่งซ้ำสอง มาร์โก้ก็รีบถอยออกมาให้ไกลจากรัศมีอำมหิตโดยเร็ว
“เอ๊ะ! คุณนี่ เรื่องอะไรมาขัดขวางการพิสูจน์อัตลักษณ์ของฉันเล่า” ไอรดาทำหน้าไม่พอใจ
“นี่ กลายเป็นศพไม่มีญาติไปแล้วรึไง ถึงได้ต้องพิสูจน์อัตลักษณ์น่ะ ที่สำคัญผมก็พูดอยู่ปาวๆ นี่ไง ว่าคุณมันยัยต่างดาว จะต้องให้คนอื่นมาพิสูจน์อีกทำไม” จิโอวาโน่ว่าให้อย่างเหลืออด
“เชอะ! จ้างให้ฉันก็ไม่เชื่อคุณหรอก คุณมันต้องมีปัญหาเรื่องสายตาแน่ๆ คนปกติที่ไหนจะเห็นนางฟ้าเป็นเอเลี่ยนไปได้ จริงไหมทุกคน” ไอรดาหันไปขอความเห็นจากทุกคนที่กำลังก้มหน้างุดๆ พลันก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหันมาถามเขาอีกครั้ง “เออ! จริงสิ เราคุยกันมาตั้งนาน แต่ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย คุณชื่ออะไรเหรอ”
“อะไรนะ ที่คุยกันมาตั้งนานคุณจะบอกว่าคุณไม่รู้จักผม แต่คุยกันเรื่องค่าตัว เรื่องสัญญากันแล้วเนี่ยนะ นี่คุณเป็นบ้าหรือเสียสติกันแน่ไอรดา” จิโอวาโน่เรียกชื่อเธอเสียงดัง ทั้งโมโหทั้งเสียหน้า ก็เขาออกจะเป็นคนดัง แต่เธอกลับบอกว่าไม่รู้จัก
“โมโหอีกแล้ว ฉันผิดด้วยเหรอที่ไม่รู้น่ะ ก็หน้าผากคุณไม่ได้มีป้ายชื่อแปะไว้สักหน่อย จะไปรู้ได้ยังไงล่ะว่าคุณเป็นใคร มาจากไหน” ไอรดาทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจ
“ได้ ในเมื่อผมไม่ได้มีความสำคัญในสายตาคุณ คุณก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าผมเป็นใครเหมือนกัน” แล้วผีห่าซาตานตนเดิมก็เข้าสิงเขาอีกครั้ง ถึงทำให้เขาต้องแสดงสีหน้าท่าทางออกไปแบบนี้ นี่กูกำลังน้อยใจอยู่รึเปล่าวะ
“ฮ่าๆๆ น้อยใจเหรอ ก็ได้ ในเมื่อคุณไม่บอก ฉันถามคนอื่นเองก็ได้” ไอรดามสอดส่ายสายตาว่าจะถามใครดี พลันสายตาก็ไปหยุดตรงที่มาร์โก้อีกครั้ง กรรมของกูอีกแล้วสินะ
“จิโอวาโน่ ทารอสโซครับ” เหมือนมาร์โก้จะรู้ชะตาตัวเอง จึงชิงตอบซะก่อนโดยไม่ต้องรอคำถามจากเธอให้เสียเวลาอีก ไหนๆ วันนี้ก็เป็นวันซวยของเขาแล้ว ก็เอาให้สุดขั้วไปเลยแล้วกัน
“แกคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะมาร์โก้” ตอบก็ตาย ไม่ตอบก็ตาย แล้วกูต้องทำไงวะเนี่ย หรือต้องหนีไปบวชให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย มาร์โก้สุดรันทดกับโชคชะตาของตัวเอง เมื่อได้ยินจิโอวาโน่ถามมาแบบนั้น
“จิโอวาโน่เหรอ มาเรียขอข้อมูลด่วน” เมื่อได้คำตอบ ไอรดาก็หันไปบอกเลขาสาวของตัวเองทันที
“เดี๋ยว ข้อมูลอะไร” จิโอวาโน่ถามอย่างไม่เข้าใจ
“เอ้า! ก็ประวัติคุณไง เดี๋ยวคุณจะหาว่าฉันไม่รู้จักคุณอีก เคยได้ยินไหม รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งไง” ไอรดาตอบกลับไปตรงๆ แบบไม่ต้องอ้อมกันอีก
“อยากรู้อะไร ทำไมไม่ถามผมตรงๆ ล่ะ ไปหาให้เสียเวลาอยู่ทำไม” จิโอวาโน่บอกด้วยความหวังดี แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ถามอะไร มาเรียก็ทำงานได้เร็วทันใจเหลือเกิน
“ได้แล้วค่ะคุณหนู” มาเรียส่งแล็ปท็อปที่เต็มไปด้วยข้อมูลของอีกฝ่ายให้นายสาวทันที ระหว่างที่ไอรดากำลังอ่านข้อมูลของอีกฝ่ายคร่าวๆ พลันสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับข้อมูลเรื่องผู้หญิงของเขาเข้าพอดี และมันก็
“อี๋!” น้ำเสียงรังเกียจของไอรดาเรียกให้จิโอวาโน่หันดังขวับ และมองมาด้วยสายตาไม่พอใจ “คุณสอบตก เอาเป็นว่าคุณไม่ผ่าน ส่วนเรื่องที่เราคุยกันไว้ก่อนหน้าถือว่าโมฆะก็แล้วกัน ยกเลิก!” ไอรดาประกาศเสียงดัง ส่งผลให้เขาไม่พอใจมากขึ้นไปอีก
“นี่คุณคิดว่าเรากำลังเล่นขายของกันอยู่รึไง หน้าผมเหมือนคนที่คุณจะปั่นหัวหรือล้อเล่นได้ง่ายๆ งั้นสินะ คุณรู้จักคนอย่างจิโอวาโน่ ทารอสโซน้อยเกินไปแล้วไอรดา” น้ำเสียงและนัยน์ตาดุกร้าวของจิโอวาโน่ทำให้ไอรดาหวั่นใจอยู่เหมือนกัน แต่จะให้เธอทำยังไงได้ล่ะ
“ฉันผิดด้วยเหรอที่ป้องกันตัวเอง ก็ฉันกลัวติดโรคร้ายจากคุณนี่นา ก็คุณเล่นสำส่อนเปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าแบบนั้น ใครจะไปกล้าเสี่ยงล่ะ ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ เชิญคุณไปสำส่อนกับคนอื่นเถอะ” จากข้อมูลที่เธอได้มา มันบอกอย่างนั้นจริงๆ นี่นา ภายในเดือนเดียว เขาสามารถเปลี่ยนผู้หญิงได้เป็นโหล แล้วแต่ละคนก็ระดับดารานางแบบทั้งนั้น อย่างนี้ไม่เรียกว่าสำส่อนก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว “ฉันไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิดนะ ไม่เชื่อคุณก็ลองดูนี่สิ” เธอยื่นข้อมูลที่ว่านั่นให้เขาดูด้วย เพื่อยืนยันว่าเธอไม่ได้ใส่ร้ายเขาแม้แต่น้อย
“แล้วไง มันก็แค่เรื่องธรรมดาของผู้ชายที่ต้องมีเรื่องผู้หญิงบ้าง ไม่เห็นจะแปลก ถ้าไม่มีเลยน่ะสิ ถึงจะน่าสงสัย” จิโอวาโน่ดูแล้วก็ยักไหล่ ทำราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดา
“ถ้ามีบ้างมันก็คงไม่แปลก แต่ของคุณเขาไม่เรียกว่ามีบ้าง แต่ต้องเรียกว่ามักมาก จนเป็นที่มาของคำว่าสำส่อนถึงจะถูก ถามจริงๆ เถอะคุณจำได้หมดทุกคนรึเปล่านั่นน่ะ” ไอรดาอดประชดบ้างไม่ได้
“เอาล่ะๆ จะอะไรก็ช่าง บอกมาเลยดีกว่าว่าตกลงคุณจะเอายังไง” จิโอวาโน่ยื่นคำขาด จะได้รู้ดำรู้แดงกันไปเลยว่าเขาจะต้องทำยังไงต่อไป
“ก็แล้วคุณจะให้ฉันเอายังไงล่ะ แต่บอกไว้ก่อนนะ ถ้าจะให้ฉันเอาผู้ชายสำส่อนอย่างคุณไปทำพันธุ์ ฉันก็ไม่เอาเหมือนกัน” จิโอวาโน่ได้ฟังถึงกับกัดฟันกรอดที่เธอทำท่ารังเกียจเขาแบบนั้น ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งมีผู้หญิงคนนี้แหละที่กล้าทำเรื่องแบบนี้กับเขา และมันยังไมจบแค่นั้น
“อ้อ แต่ถ้าคุณยอมไปตรวจหาโรคร้ายที่โรงพยาบาลก่อนล่ะก็ เราอาจตกลงกันได้ แบบนี้โอเคไหม” เธอเสนอความคิดเห็นที่คิดว่าดีที่สุดแล้วในตอนนี้ แต่
“ไม่โอเค” จิโอวาโน่ตอบทันทีแบบไม่ต้องคิดให้เปลืองสมอง ถ้าใครรู้เข้าว่านักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างเขา ต้องไปตรวจหาโรคบ้าบออะไรนั่น เพื่อให้ได้นอนกับผู้หญิง เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“งั้นเราก็ไม่มีเรื่องต้องคุยกันอีก ต่างคนต่างไป ทางใครทางมัน ลาก่อนตลอดไป” ถึงแม้จะนึกเสียดายผู้ชายอย่างจิโอวาโน่อยู่มาก แต่จะให้เธอเอาชีวิตตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับโรคร้ายล่ะก็ เธอขอบายดีกว่า
“เดี๋ยว” ได้ยินเสียงเขารั้งไว้แบบนี้ เธอถึงกับหันมายิ้มแก้มปริ
“คุณเปลี่ยนใจยอมไปตรวจแล้วเหรอ” น้ำเสียงดีใจและท่าทางตื่นเต้นของเธอทำให้เขาอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ ว่าคงสำคัญกับเธออยู่ไม่น้อย
“เปล่า เอ่อความจริงทำไม เราไม่ เอ่อ...” จิโอวาโน่ปฏิเสธ และพยายามจะอธิบายว่า มันมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยป้องกันโรคร้ายได้ อย่างเช่นการใส่ถุงยางอนามัย เป็นต้น แต่มันก็กระดากเกินไปที่จะให้เขาพูดออกไปตรงๆ แบบนั้น และยังไม่ทันที่เขาจะได้อธิบายให้จบอย่างใจคิดก็เจอมารผจญเข้าซะก่อน
“คุณหนูครับคุณหนู มองไปทางสิบสี่นาฬิกาสิครับ ผมว่าผมหาคนใหม่ให้คุณหนูได้แล้วนะครับ” รามานบอกนายสาวของตัวเองเป็นภาษาไทย ทำเอาจิโอวาโน่ต้องหันขวับไปมองด้วยความไม่พอใจ
“อืม! ก็ดีนะ ถึงจะน้อยกว่าคนนี้นิดนึง แต่ก็น่าจะใช้ได้” ถึงแม้จะเจอคนใหม่ที่ถูกใจ แต่ก็ยังอดเสียดายคนเก่าไม่ได้ด้วย
“ดูเหมือนว่า เขาจะเดินมาทางนี้ด้วย ถ้าไงเราเข้าไปคุยกับเขาเลยดีไหมครับ” รามานเสนอนายสาว ในขณะที่จิโอวาโน่ที่ฟังอยู่ด้วยความร้อนใจ และรีบตอบเสียงดังทันที
“ตกลง” จิโอวาโน่ลูบท้ายทอยตัวเองแก้เก้อ อดประหม่าต่อสายตาทุกคนที่กำลังมองมาอย่างสงสัยไม่ได้
“ตกลง? ตกลงอะไรอะ” ไอรดาย้อนถามด้วยความสงสัยว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไร
“ก็คุณอยากให้ผมทำอะไรล่ะ ผมก็ตามใจคุณนี่ไง” ตอบไปแล้วก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน คนอย่างจิโอวาโน่ต้องมาทำเรื่องไร้สาระแบบนี้เพียงเพราะผู้หญิงคนเดียวอย่างนั้นเหรอ รู้ถึงไหนคงอายถึงนั่น แต่ถ้าแกไม่ทำ ยัยนี่ก็ต้องถูกคนอื่นคาบไปกินน่ะสิ แกทำถูกแล้วเจฟ แต่แกกำลังลงทุนมากเกินไปสำหรับผู้หญิงเพียงคนเดียวนะ แต่ผู้หญิงคนนี้ก็คู่ควรกับการลงทุนนี่หว่า ในที่สุดเขาก็ได้แต่เถียงกับตัวเองในใจ เพื่อไม่ให้ใครรู้
“พูดจริงนะ” ไอรดากระโดดเข้าไปเกาะแขนอีกฝ่ายด้วยความดีใจ จนเขาอดยิ้มไม่ได้ที่ตัวเองมีเสน่ห์มัดใจเธอได้ถึงเพียงนี้