ทางด้านคุณกานดา
เธอเห็นว่าพิ้งกี้ไม่ออกมาสักที เธอกำลังจะเข้าไปตาม แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปได้แค่นิดเดียวก็ต้องรีบปิดประตูกลับออกมาอย่างไว แล้วล็อคให้เสร็จสับ
เพราะเธอได้ยินเสียงน่ะสิแต่ไม่อยากให้ทั้งคู่รู้ตัวเธอได้แต่เดินกลับไปนั่งที่เดิมแล้วยกยิ้มอย่างพอใจ
ทำไมต้องพอใจน่ะหรอที่พิ้งกี้มาอยู่ที่นี่ได้ก็เป็นแผนของแม่ๆทั้งสอง อย่างกัลยาและอรอิน ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน
คุณกัลยากลุ้มใจที่พจน์ยัง ลืมรักครั้งเก่าไม่ได้ จึงปรึกษาเพื่อนรักอย่างคุณอรอิน ส่วนทางคุณอรอินเองก็มีลูกสาวอยู่คนเดียว
ไปเรียนเมืองนอกตั้งหลายปี แต่เรียนจบแล้ว ไม่ยอมกลับบ้านสักที เธอจึงร่วมมือกับคุณกัลยา ให้ทั้งสองมาพบกัน โดยการที่คุณอรอินขู่พิ้งกี้ว่า ถ้าไม่กลับจะตัดออกจากกองมรดก กลับมาต้องเข้าไปทำงานในไร่ทันที
เพื่อเข้าไปเป็นผู้จัดการในไร่ แล้วถ้าเกิดถูกใจปิ๊งปั๊งกันขึ้นมา ก็จะได้เป็นทองแผ่นเดียว กัน เท่านี้คุณอรอินก็สบายใจแล้วที่จะมีคนมาดูแลลูกสาวแสนร้ายของเธอ
ส่วนทางด้านคุณกัลยา จะได้สบายใจเพราะภัทร ก็มีหลานให้เธอแล้ว เหลือแต่พจน์ที่ปีนี้ก็ 25 แล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีเมียสักที
แถมยังอยู่แต่ในไร่ที่ไม่รู้มีอะไรดีเธอเลยส่งลูกสาวเพื่อนมาซะเลย อีกอย่างอรอินบอกเธอว่าต้องการดัดนิสัย ลูกสาวตัวดีของเธอ
ที่ชอบดื้อด้านเอาแต่ใจแถมเย่อหยิ่ง
แต่ที่จริงแล้ว เนื้อแท้ของพิ้งกี้เป็นคนดี เพราะสังคมที่เมืองนอก มันล้วนแล้วแต่เป็นสังคมที่แสแสร้ง หรือสังคมดัดจริต
ที่พิ้งกี้แสดงออกไปนั้น เพื่อป้องกันตัวจากคนที่ ต้องการผลประโยชน์จากตัวเธอเท่านั้นแต่ถ้าเธอสนิทกับใครเธอจะทำตัวน่ารักให้ความ เคารพพูดเพราะและอ่อนหวาน
อย่างเช่นคุณกานดา พิ้งกี้จะน่ารักกับเธอเสมอแต่จะเอาแต่ใจไปบ้าง เธอไม่ถือ เพราะรู้จักเนื้อแท้ของพิ้งกี้ดีและเธอก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการครั้งนี้เธอเห็นดีด้วยกับทั้งสองคน
เธอสนิทกับอรอินเพราะเป็นเพื่อนน้องสาวของเธอ ใช่แล้วคุณกานดาคือพี่สาวแท้ๆของคุณกัลยานั่นเอง
เธอนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว ในออฟฟิศมีพนักงานเพียง 3 คนคือการบัญชี การตลาด และคุณกานดา แต่อีก 2 คนจะอยู่หน้าห้องชื่อ ส้มทำการตลาด ส่วนเปิ้ลทำบัญชี
แต่ห้องที่คุณกานดาอยู่นี้ เป็นห้องทำงานใหญ่ มีห้องด้านในอีกห้อง มีประตูเข้าด้านหลังด้วยไว้ให้เฉพาะคนภายใน
เธอจึงไม่เห็นว่าหลานชายตัวดีของเธอเข้ามาตอนไหน แล้วก็คงออกไปทางเดิม เชื่อเถอะเธอรู้จักนิสัยหลานชายตัวดีของเธอ
งั้นเธอก็จะทำไม่รู้ไม่ชี้ไปก่อน ดูสิว่าจะยอมรับกันได้เมื่อไหร่ เพราะว่าหัวรั้นพอๆกันแค่คิดก็ขบขันแล้วสิแต่พจน์ไม่ใช่ผู้ชายที่ไม่รับผิดชอบนะแต่บางทีก็เฉยชาจนดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่
ทางด้านสองหนุ่มสาว >>
เมื่ออาบน้ำอาบท่าเสร็จพจน์ขยับปากจะพูดแต่เธอดันพูดขึ้นมาก่อน
" เรื่องที่เกิดขึ้นช่างมันเถอะนายก็ลืมๆมันไปซะ "
" ช่างมันลืมไปซะ " พจน์ทวนคำพูดของพิ้งกี้ "ใช่นายจะไปใส่ใจอะไรอีกอย่างเราไม่ได้รักกันและยังไม่ได้รู้จักกันดีด้วยซ้ำ มันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบแบบ One night Stand "
"อารมณ์ชั่ววูบ "พจน์ทวนอีกครั้ง
" อืมอารมณ์มันพาไปอีกอย่างฉันไม่อยากมีพันธะฉันยังไม่พร้อมอ่ะ "
" ได้ในเมื่อคุณต้องการอย่างนั้นแล้วเราจะได้เห็นดีกันพิ้งกี้ "
ผมจะทำให้คุณลืมผมไม่ลงเลยล่ะมันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแน่นอนพจน์คิดในใจแล้วเดินออกจากห้องไปพจน์เดินออกมาทางประตูหลังแล้วพูดพึมพำ
"ไม่มีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธผมได้มีแต่จะวิ่งเข้าหาแต่คุณคือคนคนแรกเลยพิ้งกี้ผมไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆแน่ "
เมื่อพึมพำเสร็จก็เดินตรงไปไร่ที่อยู่ไม่ห่างจากออฟฟิศมากนักปักเป้ากับลูกกบที่เห็นลูกพี่เดินมาก็สะกิดกันยิก ๆ
" เฮ้ย ๆไอ้เป้ามึงดูลูกพี่มึงโน่นเดินยิ้มมาแต่ไกลไปอารมณ์ดีไรมาวะ"
" ว่าไงลูกพี่วันนี้ดูอารมณ์ดีนะครับ " ลูกกบทัก "ไม่เสือกนะครับ
" อุ้ยแรง " ไปๆตัดองุ่นกันสายแล้ว
"นั่นดิสายแล้ววันนี้ลูกพี่มาสาย ปกติไม่เคยนี่" ปักเป้าถาม
" ก็บอกอยู่เมื่อกี้ว่าไม่เสือกไงครับอีกอย่างกูเป็นเจ้าของไร่กูต้องรายงานมึงหรอครับ "
" อุ้ยลืมตัว " ปักเป้าพูด"
" จะไปช่วยกันตัดองุ่นหรือให้ฉันตัดเงินเดือนของพวกแกดี "
"อุ้ยขู่แรงทีนี้ก็ว้าวุ่นเลยต้องไปตัดองุ่นดิคร้าบ "
ทางด้านคุณกานดากับพิ้งกี้
เมื่อพิ้งกี้เดินออกจากจากห้องก็เดินตรงไปหาคุณกานดา
" คุณป้าคะเสร็จแล้วค่ะ
" อ่อจ้าหืมใส่ชุดอย่างนี้แล้วน่ารักมากเลยลูก"
ชุดที่พิ้งกี้ใส่เป็นชุดจั้มสูทยืนสำหรับผู้หญิงแขนยาขายาวที่ใส่แล้วจะพอดีตัวทะมัดทะ แมงคล่องแคล่วส่วนเว้าส่วนโค้งยิ่งเห็นชัดเจน สะโพกที่ผาย
ไหนจะก้นงอนๆ นมที่แทบทะลักเพราะชุดเป็นซิปแต่พิ้งกี้รูดไม่สุดรูดมาแค่หน้าอกเท่านั้น ผมเผ้าก็มัดเรียบร้อย
"เดี๋ยววันนี้ป้าจะพาไปไร่องุ่นนะลูกอย่าลืมหมวกละ "
" ได้ค่ะป้า " แล้วสองสาวก็พากันเดินออกไป ผ่านหน้าห้องเจอสองคนกานดาแวะบอกส้มกับเปิ้ล
" นี่ผู้จัดการคนใหม่นะจะมาเป็นผู้ช่วยของฉันเธอชื่อพิ้งกี้ "
" สวัสดีค่ะคุณพิ้งกี้ " ส้มกับเปิ้ลสวัสดีพร้อมกันเมื่อทั้งสองคนเดินออกไปส้มก็เปิดประเด็นทันที
" คนนี้เองหรอดูสวยโดดเด่นออร่ามาแต่ไกล แต่ฉันได้ยินคนที่โรงอาหารพูดกันนะว่า นางเรื่องมากสุดๆ เมื่อเช้าก็จะกิน พวกสลัด แฮมเบคอนประมาณนี้
" จริงหรอโห่ดูไม่น่าเรื่องมากนะ "
" ใช่ๆ แล้วมีคนงานเห็นนะว่าซ้อนรถมอเตอร์ ไซค์มาพร้อมคุณพจน์เห็นว่าอยู่บ้านใหญ่ด้วยค่า "
" หว่าย..อย่าบอกนะว่าคนนี้สำคัญน่ะ งั้นฉันไม่ยุ่งดีกว่า "เปิ้ลว่า
"อืมคงงั้น.. ฉันเห็นประวัตินางไม่ธรรมดาเลยนะจบแฟชั่นดีไซน์เนอร์ มาจากฝรั่งเศลเชียวนะยะแถมบ้านก็โครตรวย ดีกรีไม่ธรรมดาแบบนี้แกคิดว่าไง " ส้มพูดจีบปากจีบคอเลียนแบบผู้ดี
"ก็คงงั้นแหละจบถึงเมืองนอกเมืองนาจะมาอยู่ในสวนในไร่ทำไ มันต้องมีอะไรแน่ๆ เรื่องนี้ฉันจะไม่ยุ่ง " เปิ้ลว่า
"ย่ะฉันจะคอยดู " แล้วทั้งสองก็จบการสนทนากันเพียงเท่านั้น
@ไร่องุ่น
เมื่อสองสาวเดินมาถึงไร่องุ่นคนงานก็ต่างยกมือไหว้กานดาก็แนะนำพิ้งกี้ให้คนงานรู้จักในฐานะผู้จัดการไร่คนใหม่
เดินไปก็อธิบายไปว่าต้องดูองุ่นยังไงถึงตัดได้ " บางครั้งหนูต้องลงมาคุมคนงานเองนะลูกเพราะถ้างานเร่งๆ ที่นี่จะวุ่นวายมาก "
" ได้ค่ะคุณป้า " แล้วคุณกานดาก็เดินไปทางสามหนุ่ม
"เหลืออีกเยอะไหมเจ้าพจน์ "
" อ้อเอ่อ "พจน์เกิดหาเสียงของตัวเองไม่เจอซะงั้นเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเจอสาวน้อยที่ยืนหน้าจิ้มลิ้มอยู่ข้างคุณกานดา
หน้าอกหน้าใจที่แทบจะทะลัก พจน์ทำหน้าเลิกลักแบบเสียอาการกานดาเห็นดังนั้นก็กลั้นขำเกือบไม่ไหว
เพราะเจ้าหลานชายของเธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนอิ้งล่ะสิหนูพิ้งกี้สวยขนาดนี้ไม่อิ้งก็คงตายด้านแล้วล่ะกานดาคิดในใจ
" อ้าวว่าไงเจ้าพจน์ถามไม่ตอบ " คุณกานดาถามอีกครั้ง
" อ้อเสร็จทันเย็นนี้แน่นอนครับ "
" งั้นไปเถอะหนูพิ้งกี้ไกล้เวลาพักแล้วหนูอยากทานอะไรล่ะ " กานดาถาม
" อยากทานไข่ตุ๋นกับผัดผักค่ะ "
" ไปเดี๋ยวป้าให้แม่บ้านทำให้ " ตอนที่พิ้งกี้จะเดินผ่านหน้าไปพจน์พูดขึ้น
" คุณกานดาครับผมขอยืมตัวคุณพิ้งกี้สักครู่นะครับ "
พูดจบก็ลากเธอออกไปจากตรงนั้นเพราะอะไรน่ะหรอก็คนงานคนอื่นมองพิ้งกี้ตาเป็นมัน คุณกานดาหัวเราะ
" คุณกานดาหัวเราะอะไรครับ "
"ปักเป้าลูกกบดูไว้ให้ดีอีกไม่นานคงมีนายหญิงของไร่นี้เป็นแน่ "
" ผมก็คิดแบบคุณกานดาครับ " ลูกกบว่าจากนั้นทั้งสามคนก็หัวเราะและเดินตามกันไปที่โรงอาหาร
ด้านพจน์
" นี่นายจะมาจับฉันทำไมเนี่ย "
" ก็ดูชุดคุณสิเนี่ยนมแทบปลิ้นคนงานมองตาเป็นมันไม่เห็นหรอ "
"ก็เห็นแล้วไ เขาก็แค่มองไหมเอาไปก็ไม่ได้แล้วนายจะมาโวยวายทำไมเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่ "
พจน์เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มด้วยความขุ่นเคือง จากนั้นพจน์ก็จับซิปรูดขึ้นจนสุด...