ตอนที่ 3 รักต้องรุก คูณสองยกกำลังสี่ไปเลย(1)

1410 Words
ผมเปิดบีชบาร์เล็กๆ ห่างจากที่พักของคุณไปไม่ไกล มันไม่ไกลตรงไหนเนี่ย! ลากขาเดินจากหน้ารีสอร์ตมาไกล คิดว่าน่าจะเกินหนึ่งกิโลเมตร ยังไม่เห็นแม้แต่เงาร้าน ซุ้มขายน้ำสักซุ้มยังไม่มีเลย แดดชายทะเลตอนบ่ายโมงใครว่าไม่แรง แผดเผาผิวหล่อนจนครีมกันแดดเอาไม่อยู่ มิริณค้นโทรศัพท์ในกระเป๋าสานมาเปิดกูเกิลเมพดูว่าแถวนี้มีบาร์หรือเปล่า หรือจิรัชจะโลว์เทคถึงขั้นไม่เพิ่มพิกัดร้านลงในแผนที่ โล่งใจที่ค้นเจอ Samui In love ร้านอาหารและเครื่องดื่ม อยู่ไกลสุดของชายหาด แต่มิริณต้องเบิกตาให้กว้างอีกครั้ง ระยะทางยังเหลืออีก 900 เมตร! ใครก็ได้ เอาเสลี่ยงมาไสหล่อนไปส่งถึงหน้าร้านของจิรัชที ร้อนแดดไม่ไหวแล้ว มิริณไม่ได้ดูก่อนว่ามันไกล ใส่บิกินีเล็กจิ๋วออกมาเดินบนชายหาดอย่างมั่นใจ กลมกลืนไปกับนักท่องเที่ยวคนอื่นที่ใส่เหมือนกัน ออกมาสิบนาทีแรก ผมสวย หน้าเป๊ะ แต่สิบนาทีหลังหน้าหล่อนดูไม่ได้ แสงแดด ลากเครื่องสำอางลงมากองที่ปลายคาง สภาพตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องส่องกระจก ก็รู้ว่าไม่น่าดูเอาซะเลย ขอร้องเถอะ ไปถึงร้านอย่าเพิ่งเจอจิรัชเลย ขอเข้าห้องน้ำไปซับหน้าเติมปากสักหน่อย การอ่อยในขั้นตอนแรกจะได้ลุล่วงไปได้ด้วยดี หรืออาจจะไม่ทันได้อ่อย เป็นลมหมดสติลงกลางทางไปก่อน เสื้อคลุมสักตัวไม่มี หมวกสักใบไม่มี มีแว่นกันแดดอันเดียวคาดดวงตาไม่ให้ถูกแสงแดดแรงกล้าทำลายความสดใส มิริณจะเป็นลม ยกกระเป๋าขึ้นบังแดดใบหน้า เดินเลียบตามร่มไม้ที่มีน้อยนิด ไปต่อตามเส้นทางจนกระทั่งสังเกตเห็นกลุ่มคนจำนวนมากนอนอาบแดดบนเปล เล่นน้ำทะเลสนุกสนาน ใกล้เข้าไปอีกได้ยินเพลงสากลจังหวะสนุก ส่งสัญญาณให้มิริณมั่นใจว่าในที่สุดความพยายามของหล่อนก็สำเร็จ มาถึงจนได้ สองกิโลกว่า! จะบ้าตาย ขากลับไม่เดินแล้ว! “ถ้าส่งเรซูเม่ไปแล้ว จะได้สัมภาษณ์งานกับคุณสองต่อสองไหม” ลูกค้าประจำสาวชาวต่างชาติจำนวนสามคนเกาะติดเจ้าของบาร์ นั่งล้อมรอบเคาน์เตอร์ ซึ่งเจ้าของร้านจดจ่ออยู่กับแมคบุ๊ค ส่งข้อมูลเข้าไปในเว็บไซต์หางาน ตามหาพนักงานตำแหน่งผู้จัดการให้มาดูแลร้านของเขา สาวชาวต่างชาติแสดงความสนใจในตำแหน่งงานน้อยกว่าเจ้าของร้าน อยากได้เขามากกว่า เพราะเขายังโสด และมีเสน่ห์เหลือร้าย “ลองส่งมาก่อนครับ ถ้าประวัติตรงตามที่ผมต้องการก็ได้สัมภาษณ์” อ่านออกว่าลูกค้าสาวต้องการอะไร แต่จิรัชยังคงสุภาพ ให้เกียรติลูกค้า ไม่เล่นลิ้น หรือพูดจาโต้ตอบไปในเชิงคุกคามทางเพศ ช่วงบ่ายลูกค้าในบีชบาร์เยอะจนไม่มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่ง หลายคนออเดอร์แล้วไปนั่งจิบริมชายหาดวางแก้วบนทรายง่ายๆ ก็มี แต่สำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการจะนั่งกลางดินกินกลางทรายจะต้องรอเรียกคิว บางคนรอได้ บางคนรอไม่ได้ก็ชวนกันออกไปนั่งชิลล์ที่ร้านอื่น จิรัชเข้ามาดูร้านด้วยตัวเอง มองเห็นจุดบกพร่อง เตรียมจะขยายโซนรับรองลูกค้าให้ได้มากกว่านี้ เกาะสมุยขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเยอะตลอดทั้งปี ถ้าอยากคืนทุนเร็วๆ ก็ต้องรับลูกค้าให้ได้ทั้งหมด แต่อันดับแรกขอผู้จัดการก่อน เขาดูแลคนเดียวไม่ไหว มันเหนื่อยมาก “กลับไปถึงที่พักจะรีบเขียนเรซูเม่ ส่งมาให้พิจารณาทันทีเลย” ภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันฟังหวานหู จิรัชแค่ยิ้มรับอย่างสุภาพ ยินดีจะพิจารณาตามคำพูด เขาอยากได้คนเก่งมาช่วยงาน ถ้าลูกค้าสาวมีประวัติที่ดีจริง เขาก็พร้อมเปิดโอกาสแม้หล่อนจะเป็นชาวต่างชาติ “คุณมาอยู่ที่นี่คนเดียว ไม่มีภรรยา ไม่มีลูกตามมาดูแลจริงเหรอ” คำถามจากลูกค้าเริ่มจะล้ำเส้นเกินไป จิรัชแสร้งคุยภาษาไทยกับพนักงานให้ลูกค้าสาวสังเกตเห็นว่าเขากำลังยุ่ง พับแมคบุ๊คจะลุกออกจากเคาน์เตอร์ ตอนนั้นเองสายตาของจิรัชบังเอิญเหลือบไปเห็นนางฟ้าบิกินีขาว เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงจากทางชายหาดเข้ามาใกล้ร้านมากขึ้น แสงแดดยามบ่ายไม่ปรานีต่อผิวพรรณขาวผ่อง มันเผาจนผิวหล่อนแดงไปทั้งตัว ยกเว้นผ้าชิ้นบนกับชิ้นล่างที่ปกปิดความงดงามไว้ไม่มิด มิริณมีเส้นผมที่ยาวสลวยลงมาถึงสะดือ เส้นผมบางส่วนพาดผ่านทรวงอกอึ๋มไม่อนุญาตให้ใครมองเห็นสองเต้าเต็มสองตา เอวหล่อนเล็กมาก แต่สะโพกใหญ่ หุ่นคล้ายนาฬิกาทราย จิรัชยืนค้างท่าเดิมจ้องมองสรีระงดงามของอดีตเลขาฯ สาวอย่างลืมตัว สีหน้าเขาคงจะคล้ายกับพลเดชตอนแอบมองสาวๆ ใส่บิกินี ก่อนหน้าเคยด่าเพื่อน ตอนนี้จิรัชรู้แล้วว่าการได้มองสัดส่วนยั่วยวนใจชาย ให้ความรู้สึกตื่นเต้นมากแค่ไหน มันเร้าใจแปลกๆ จนต้องกลืนน้ำลายดับอารมณ์หื่น มิริณตากแดดตากลมมาไกลหน้ามืดเกินกว่าจะสังเกตเห็นจิรัช หล่อนคุยกับพนักงาน ซึ่งพนักงานจะให้บัตรคิวกับหล่อนเนื่องจากไม่มีโต๊ะว่าง จิรัชหลุดมาดสุขุมเรียบร้อย กลัวหล่อนทนรอคิวนานไม่ไหวจะหนีกลับไปก่อน นำแมคบุ๊คไปเก็บหลังร้าน รีบออกมารับมิริณที่ยืนหอบหายใจแรงหน้าแดงจนจะเป็นลมแดด ขอบปากเขามีรอยยิ้มเล็กๆ ดีใจที่หญิงสาวมาหาที่ร้านตามสัญญา “คุณจิ ไหนบอกว่าไม่ไกลไงคะ! มิเกือบจะเป็นลม!” แต่ก่อนจะได้ทักทายถามว่าหาร้านยากไหม ก็โดนบ่นไปหนึ่งจบ “ถ้ารู้ว่าไกล มิเรียกรถรับจ้างให้มาส่งดีกว่า” ความร้อนทำให้คนดีๆ กลายเป็นหมาบ้า “ขอโทษครับ ผมไม่คิดว่าคุณมิจะเดินมาด้วยชุดแบบนี้” สายตาลอกแลกกวาดมองทรวงอกอวบอึ๋มแวบเดียวเท่านั้น รีบเบี่ยงความสนใจไปทางอื่น ถึงแม้บีชบาร์สาวๆ จะใส่ชุดว่ายน้ำกันหมด เพื่อความสะดวกในการเล่นน้ำทะเล แต่กับมิริณ รูปร่างหน้าตาของหล่อนดึงดูดความสนใจจากจิรัชได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอ หล่อนไม่เคยเห็นเขาถอดเสื้อโชว์กล้าม เขาก็ไม่เคยเห็นหล่อนถอดเสื้อผ้าเหลือแค่... เจ้าผ้าเล็กสองผืนนั้นเหมือนกัน ถึงจะดุไปหน่อย แต่หล่อนก็สวย น่ามองไปหมดทุกสัดส่วน “มิผิดเอง ไม่เช็กระยะทางในกูเกิลแมพให้เรียบร้อยก่อน คุณจิบอกว่าใกล้ มิเข้าใจว่าแค่กิโลเดียว เสื้อคลุมก็ไม่ได้เอามา จะกลับไปเอาก็เดินออกมาไกลแล้ว ขากลับ มิจะกลับยังไงเนี่ย” “ผมไปส่งได้ ที่จริงก็อยากไปรับ แต่ไม่มีเบอร์ส่วนตัวของคุณ” ถ้ามี เขาโทรหาหล่อนแล้วไปรับที่รีสอร์ตนานแล้ว ให้นั่งรถสบายๆ น่าจะดีมากกว่าปล่อยให้หล่อนใส่ชุดแบบนี้เดินบนชายหาด ถ้าฟ้ามืดสักหน่อย น่าห่วงว่าจะถูกฉุดไปทำมิดีมิร้าย กลางวันแสกๆ ยังมีคนคิดมิดีไม่ร้ายกับหล่อนเลย ก็คือเขาเอง “จริงด้วยค่ะ ดูเหมือนว่าคุณจิจะเปลี่ยนเบอร์ใช่ไหมคะ” เคยเอาเบอร์เขาไปค้นหาในไลน์ ลองใช้โทรศัพท์ของคนอื่นโทรหา แต่ไม่ติด ความพยายามของหล่อนมีน้อยเสียเมื่อไหร่ ตามหาจนท้อ กว่าจะมาเจอเป็นตัวเป็นตนยืนตรงหน้า คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว “ครับ เปลี่ยนเครื่องเลยถือโอกาสเปลี่ยนเบอร์ด้วยเลย เบอร์เก่าใช้คุยงานเยอะ ลาออกมาแล้วผมไม่อยากจะกลับไปติดต่อกับใครอีก” รวมถึงหล่อนด้วยใช่ไหม มิริณแอบเศร้าไปกับการบอกเล่าของเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD