เจ้าของฟาร์มองุ่นชอบงานปาร์ตี้นารีกับบรรดาลูกน้องอยู่แล้ว เหลือบตามองตามก่อนปัดจอโทรศัพท์ทำไม่สนใจอย่างเดิม วิทยาคงมีเรื่องสำคัญมากพอที่จะทำให้เขาให้หงุดหงิดอีกรอบสอง
“เอ้อ... ครูนพป่วยหนัก ผมได้ยินว่าเป็นอัมพาตครึ่งตัว นายจะไปเยี่ยมไหม?”
ดวงตาคู่คมเหลือบขึ้นมองคนพูด ก่อนหลุบตาลงมองน้ำสีแดงสดที่ถูกรินเทจากปลายขวดลงในแก้ว
มันไหลวนอย่างไม่มีทางออก...
อาจเปรียบเสมือนความสัมพันธ์อันไม่สามารถตัดขาดจากกันของเขากับครูนพเพราะความเป็นเจ้าบุญนายคุณ
ไม่ใช่ต่อเขาคนเดียว... แต่กับอีกหลายชีวิตด้วยเช่นกัน
คุณลุงใจดีเจ้าของค่ายกระบี่กระบอง โรงโขนเล็ก ๆ ในชุมชนสลัมผู้มีอุดมคติแน่วแน่ ท่านหวังดีกับเด็ก ๆ จึงจัดตั้งแหล่งกิจกรรมแทนการมั่วสุม จากพ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกด้วยระบบวงจรชีวิตสุดเลวทราม
ชีวิตของเขาก่อนจะมายืน ณ จุดนี้ผ่านอะไรมาโชกโชน
“ไปเยี่ยมแกกันนะครับ โรงโขนของลุงกำลังจะปิด แกเป็นหนี้เพราะไอ้ถินมันติดพนัน เข้าบ่อนเล่นยา ขาก็เดี้ยง แกต้องจบความฝันของแก คงเศร้ามาก ๆ” คำขอร้องของวิทยาจริงจังทั้งสีหน้าแววตา คล้ายจะร้องไห้ออกมาแทนเจ้าตัว
คนเย็นชาอย่างเมธพนธ์อย่างไรเสียก็ไม่ได้อกตัญญู แววตาคู่คมกร้าวสบกลับไปตรงๆ มือยกแก้วไวน์ขึ้นจิบแล้ววางลง
“อืม... ไว้ฉันว่างเมื่อไรค่อยไป แกหาทางเอาเลขบัญชีครูนพมาให้ฉันให้ได้ จะด้วยวิธีอะไรเป็นหน้าที่ของแก โอนเงินไปก่อน”
คนแก่บางคนก็ดื้อดึงเอาการ ครูนพไม่ยอมรับเงินจากใครแม้สักบาท แม้แต่เขาที่ได้ดิบได้ดี รอดพ้นจากขุมนรกที่เรียกว่าบ้านได้ก็เพราะครู นั่นเป็นเรื่องที่เมธพนธ์หงุดหงิดกับมันมาตลอด วิทยาเองก็คงจะรู้ถึงเก็บอีกเรื่องน่าฟังไว้ท้ายสุด
“แล้วก็นี่ครับ... เอกสารเรื่องคุณขณิกา... ข้อมูลละเอียดยิบ ถูกชัวร์ไม่มั่วนิ่ม ที่สำคัญคือเป็นความลับ เพราะว่านักสืบเอกชนคนนี้ซี้ผม” บอกพลางหยิบกระดาษสีขาวหลายแผ่นออกมาจากซองสีน้ำตาลเข้มวางไว้บนโต๊ะข้างแก้วไวน์สองแก้ว ประกายตาของชายหนุ่มจับจ้องมันอยู่ตลอด แต่พูดไปอีกเรื่อง
“แกมีเพื่อนกับเขาด้วย?”
“คิดว่าผมเหมือนนายหัวเหรอ?”
เมธพนธ์แค่นหัวเราะ ไหวไหล่อย่างไม่แคร์ มือเอื้อมไปหยิบของบนโต๊ะ
หัวใจด้านชาไร้ความรู้สึกเต้นตึกด้วยความตื่นเต้นขึ้นมา ขณะกวาดสายตามองตัวหนังสือ
“จบโท ฮาร์วาร์ด... อายุ 26... ตอนเด็ก ๆ พ่อแม่หนีตามกันไป เคยอยู่กับคุณยายแถววงเวียนใหญ่ ละเอียดดีจริง สมคำโม้แก ไม่เขียนไซซ์เสื้อใน กางเกงในมาด้วยซะเลยล่ะ” เขาเอ่ยปากชมไม่วายกัดอย่างเคย ไม่คิดว่าจะได้ยินคำตอบ
“มีครับ หน้าหลัง ๆ อาหารที่ชอบ ร้านอาหารที่ไปบ่อย ๆ แล้วก็... ไปกับไอ้พิภพแทบทุกครั้ง” ในสีหน้าเล่ห์ร้าย วิทยาตั้งใจคิดบัญชีแค้นกับสองพ่อลูกที่ทำร้ายเพื่อนร่วมงานของเขาเหมือนกัน!
ทว่าเขาก็ยังเหลือความเป็นมนุษย์อยู่ ขณะใบหน้าหล่อเหลาของนายหัวฉายประกายเจ้าเล่ห์ ลูกน้องที่ยื่นข้อเสนอให้ในคราวแรกจึงเกิดความรู้สึกละอายใจ
“นายคงไม่คิดจะหลอกฟันเธอแล้วทิ้งเพื่อความสะใจใช่ไหม? ท่านรองฯ หวงลูกสาวมาก ผมว่ามีเรื่องกับท่านไม่ดีแน่ ถ้าแค่หอมปากหอมคอ แก้แค้นไอ้พิภพให้มันเจ็บใจเล่น...”
“แกไม่คิดว่ายัยเด็กกะโปกนี่จะวิ่งเข้าหาฉันเองบ้างหรือไง?” ในน้ำเสียงราบเรียบ ชายหนุ่มยังคงใจจดใจจ่ออยู่กับกระดาษนับสิบแผ่นด้วยความมั่นอกมั่นใจ ทว่าวิทยาคงไม่ได้คิดแบบเดียวกัน
“แรก ๆ ก็อาจจะใช่ แต่ผู้หญิงคนไหนได้รู้จักนาย ผมว่าเผ่นแน่บทุกราย... โดยเฉพาะคุณขณิกา ผมว่าไม่มีทาง” ใบหน้าคมทำทีแหยง ๆ เพราะความโหดร้ายป่าเถื่อนของนายหัว ต่อให้เป็นลีลาเร่าร้อนบนเตียงก็ยังแล้วแต่อารมณ์อีกต่างหากว่าวันไหนจะขึ้นหรือไม่ขึ้น! ก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปม
“เอ... นายเรียกคุณขณิกาว่าเด็กกะโปก? ผมว่าเธอออกจากเรียบร้อยนะครับ หน้ายังสวยหวานยังกับดารา”
คนได้ยินทำเป็นเมินแต่มองไปรอบ ๆ วางมือที่ถือกระดาษไว้บนหน้าตัก “ทำไมคนเงียบจริง?”
“ชาวบ้านน่ะสินาย ลือกันว่าฟาร์มเราวางยาม้าฟาร์มนู้น... มีม้าตายไปตัว มีมือดีไปโพสต์ในอินเตอร์เน็ตด้วยว่านายเป็นคนสั่งคนไปซุกยา แต่ไม่มีหลักฐานทำอะไรไม่ได้” ทั้งสีหน้าและแววตาคับแค้นใจ อย่างไรเสียวิทยาก็ต้องเข้าข้างนาย
“คนไทยลืมง่าย ช่างมันเถอะ เดี๋ยวอีกสักพักคนก็มา”
“นายไม่ฟ้องพวกเกรียนคีย์บอร์ดจริงหรือครับ? น่าจะจัดการพวกมันซะให้เข็ด”
“ฟ้องทำไม? เสียเวลาน่ะ...”
เมธพนธ์ท่าทางเหนื่อยหน่าย ไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรกับเรื่องลูกค้า เขาคิดในอีกแง่ว่าหากเป็นข่าวดังอาจจะมีปัญหาตามมา ยังนึกถึงอีกคน...
“ไอ้ถิน... มันถูกจับไปแล้วใช่ไหม?”
“ครับนาย โดยหลายข้อหา นอกจากยาเสพติดมันยังปลอมเอกสารสมัครงานด้วย มันไปเป็นคนดูแลสต็อกรีสอร์ต เพื่อที่จะขายยาให้ลูกค้ามัน นัดรับของกันตามจุดที่ซุกไว้ ไอ้หมาตัวแสบดันดมเจอซะก่อน”
‘เจ้าที่รัก’ สุนัขแสนรู้ประจำฟาร์มของอริสาทำหน้าที่ตัวเองได้ดี ถึงฟาร์มของนายพิภพจะต้องถูกปิดไปเพราะมีปัญหาเรื่องคดียาเสพติด ลูกค้าบางส่วนเลือกที่จะมาเที่ยวฟาร์มองุ่นซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกันแทน
เรื่องวุ่นวายทั้งหมดอาจเกี่ยวข้องกับเขาหรือไม่เกี่ยว... เมธพนธ์รู้ดีที่สุด
เสียงถอนหายใจหลุดออกจากริมฝีปากยามทอดสายตามองออกไปข้างนอก ทิวทัศน์เขียวขจีทำให้นึกถึงสหายในอดีต
นายถิน ทินกร... คราวเต้นรำทำกิน แสดงกระบี่กระบองตามงานวัด ยังมีบทประจำที่โรงละครโขนของครูนพคือ ‘พิเภก’ น้องชายของตัวร้ายอย่างทศกัณฐ์
“เฮ้อ! น่าเสียดาย นายพิเภก... คู่รำฉันต้องไปนอนในคุกซะแล้ว” จากนั้นเขาก็แค่หัวเราะอย่างกับว่ามันเป็นเรื่องตลกขบขัน ในสีหน้าแปลกใจของวิทยาว่านายขำอะไร ตาคมหยุดรอยยิ้มเล่ห์ร้ายไว้ในถ้อยคำ
“แกไปจัดการเรื่องบริษัทโฆษณาให้ฉัน... จะไปหาน้องพายสักหน่อย ดูรูปที่แกเอามาให้ทุกวัน อยากเจอตัวจริงจะแย่”
“ทำอะไรน่ะ?” เสียงเข้มถามคนที่กำลังใจจดใจจ่ออยู่กับเลนส์กล้องส่องทางไกล หลังจากที่เขาไปเคลียร์งานมาแล้วปล่อยให้ขณิกานั่งรออยู่ในร้านอาหารโอเพ่นบาร์สไตล์คันทรี่ของรีสอร์ต
เขาใหญ่แฟมิลี่แคมป์รีสอร์ตแอนด์ฟาร์มอยู่ในช่วงปิดทำการ ทางตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานของผู้ร้าย เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของสองพ่อลูกเจ้าของฟาร์มว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงไม่มีใครสักคนนอกจากเจ้าของฟาร์มกับหญิงสาววัยยี่สิบหกปี
“แอบดูไงคะอาภพ” เธอตอบขณะที่ไม่ได้ปล่อยกล้องอันเล็ก ๆ ที่จรดอยู่บนดวงตา คนข้างหลังหยุดก้าวลงทำชะเง้อคอมองบ้าง
“จะไปแอบดูอะไรเขาฮะ เป็นพวกถ้ำมองหรือไง?”
“ใช่แล้วค่ะ พายมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพราะว่าพี่อริสเปลี่ยนไปคืออารมณ์ดี ปรกติพายไม่ยักกะเห็นพี่อริสหัวเราะ พี่แกแค่ยิ้ม นาน น้าน นาน จะได้เห็นสักที มุกตลกพี่อริสก็ฝืดมาก ไม่ตลกสักนิด แกชอบเก๊กสวย ทำหน้าตาเป็นรูปปั้นหิน แต่คนสวยก็สวยนี่นะ”
ขณิกาบ่นยาวเหยียด ส่องดูทั้งสองคนไป คุณหมอไอศูรย์นอนอยู่บนตักของพี่สาวแสนน่ารักของเธอ หัวเราะคิกคักอะไรกันสักอย่าง ทำเอาอยากรู้จนตัวสั่น