“อยู่กันเป็นโขยง ผู้หญิงตัวคนเดียวปล่อยให้เดินออกไปต่อหน้าต่อตา ไม่มีใครรู้สักคน”
การันต์ยกมือขึ้นนวดขมับ หลังจากเกรี้ยวกราดใส่ลูกน้องแล้วไล่ออกทั้งชุด เมื่อรู้ว่าวาปีสร้างวีรกรรมอะไรเอาไว้ก่อนหายตัวไปจากโรงพยาบาล คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ ร่างกายบอบบางอ่อนแอ ไม่มีทักษะในการเอาตัวรอดใดๆ จะกล้าทำร้ายพยาบาลจนสลบได้ นิยามของคำว่าหมาจนตรอกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
“ทางโรงพยาบาลว่ายังไงบ้าง”
“ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าเธอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำผู้ป่วยชั้นล่างสุด ก่อนจะออกจากโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถจับภาพได้ว่าเธอเดินไปทางไหน”
“แสบนัก... อย่าให้เจอนะวาปี” ชายหนุ่มสบถ กัดฟันกรอด โกรธเหมือนถูกหยาม เมื่อคิดว่านกน้อยอ่อนแรง ไร้ญาติขาดมิตรอย่างวาปี จู่ๆ ก็กล้าที่จะแข็งข้อต่อกรในช่วงเวลาสำคัญ เพราะหมอได้เตรียมการที่จะตรวจครรภ์โดยละเอียดให้เธอในวันพรุ่งนี้อยู่แล้ว และตัวเขาเองก็คิดถึงแต่เรื่องนี้จนไม่เป็นอันทำงานมาตั้งแต่วันที่เธอเข้าโรงพยาบาล
อีกไม่นาน... ก็รู้ผล แต่เธอกลับมาทำลายความตั้งใจของเขาทุกอย่าง เหมือนครั้งหนึ่งที่พี่ชายของเธอเคยทำมาแล้ว!
“ตอนนี้ให้คนเข้าไปขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ แต่คงขอดูกล้องวงจรปิดของทางราชการไม่ได้ ที่นี่ไม่ใช่ประเทศไทย... ผมไม่อยากให้เรื่องบานปลายถึงขั้นมีผลกระทบต่อบริษัท”
“เธอหนีออกไปตอนกี่ทุ่ม” ชายหนุ่มรับฟังที่วันเสาร์รายงานแล้วถามกลับ
“เกือบๆ จะสามทุ่มครับ”
“นายคิดว่าเธอจะไปไหน...” แววตาของเขาแพรวพราว รอยยิ้มตรงมุมปากบ่งบอกถึงบางอย่างที่กำลังโลดแล่นอยู่ใน
“ผม... ไม่ทราบ คิดว่าคงยังไปได้ไม่ไกล ร่างกายเธอไม่ได้แข็งแรง ต่อให้แกล้งป่วย แต่จริงๆ แล้วก็ยังอ่อนแอกว่าคนปกติอยู่ดี”
“แต่ฉันคิดว่าฉันรู้ และเรา... จะไปล่าแม่มดกัน” ร่างใหญ่ลุกยืนขึ้นในทันทีที่พูดจบ มองเลขาคนสนิทที่ยืนขมวดคิ้วสงสัย แล้วพยักหน้าให้เดินตามออกจากห้องพักที่วาปีเพิ่งจะหนีออกไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน