ในตำหนักของไป๋อวี้หลัน
ยามสายในตำหนักที่ตกแต่งอย่างงดงาม ไป๋อวี้หลัน กำลังนั่งจิบชาอย่างสงบ ท่ามกลางเสียงกระซิบของนางกำนัลถึงข่าวลือในวังที่ยังคงแพร่กระจาย
“พระสนมเพคะ ข่าวลือเกี่ยวกับตำแหน่งของท่านยังไม่จางลง บางคนกล่าวว่า…”
ก่อนที่นางกำนัลจะพูดจบ เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังขึ้นจากหน้าประตู ฮองเฮา เสด็จมาด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด นางกำนัลที่อยู่ในตำหนักรีบถอยออกไปด้วยความหวาดกลัว
“ไป๋อวี้หลัน!” เสียงของฮองเฮาดังก้อง นางเดินตรงเข้ามาหาอวี้หลันที่ยังคงนั่งสงบนิ่ง
“ฝ่าบาทไม่ว่างเสด็จมาที่นี่ ท่านเองก็มาดูแคลนข้าถึงตำหนักนี้เลยหรือเพคะ ฮองเฮา?” อวี้หลันตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ
ฮองเฮาเดินตรงเข้ามา ก่อนจะตบหน้าของอวี้หลันเต็มแรง เสียงฝ่ามือดังสนั่นในตำหนัก
“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมายั่วยวนฝ่าบาท!” ฮองเฮากล่าวด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
“หม่อมฉันไม่ได้ทำสิ่งใดเกินเลย” อวี้หลันตอบ ดวงตาของนางยังคงสงบนิ่ง แต่แก้มข้างหนึ่งขึ้นรอยแดงจากการตบ
“ไม่ได้ทำสิ่งใดเกินเลยอย่างนั้นหรือ? เจ้ากล้าขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งกุ้ยเฟย ทั้งที่เจ้าเป็นเพียงหญิงที่ใช้ร่างกายตัวเองไต่เต้าขึ้นมา!” ฮองเฮาตะโกน “ร่างกายที่ผ่านผู้ชายมาแล้ว…อย่างเจ้ามีค่าพอจะอยู่ในตำหนักนี้ด้วยหรือ?”
คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม นางกำนัลในตำหนักต่างเงียบกริบ ไม่มีใครกล้าเอ่ยคำใด
ไป๋อวี้หลันลุกขึ้นช้าๆ นางจับสายตาของฮองเฮาด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น “หม่อมฉันอาจไม่มีคุณค่าในสายพระเนตรของฮองเฮา…แต่ฝ่าบาทคิดเช่นไร หม่อมฉันเชื่อว่าท่านทรงทราบดี”
ฮองเฮาขมวดคิ้วแน่น “เจ้าอย่าคิดว่าการเป็นกุ้ยเฟยจะทำให้เจ้ามีอำนาจเหนือข้าได้! ข้ายังเป็นฮองเฮา และข้าจะไม่ยอมให้เจ้ามาแย่งชิงตำแหน่งใดในวังหลังนี้ไปได้!”
“หม่อมฉันไม่เคยคิดจะแย่งชิงสิ่งใดจากพระองค์เพคะ” อวี้หลันกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ “หม่อมฉันเพียงแค่…รับสิ่งที่ฝ่าบาทประทานให้”
คำพูดนั้นยิ่งทำให้ฮองเฮาโกรธจนตัวสั่น
“ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าอยู่ในวังหลวงนี้อย่างสงบสุขได้…เจ้าคิดผิดแล้วไป๋อวี้หลัน” ฮองเฮากล่าวก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากตำหนักด้วยความโกรธ
เมื่อฮองเฮาจากไป อวี้หลันนั่งลงอีกครั้ง นางจับแก้มข้างที่ถูกตบเบาๆ ดวงตาของนางฉายแววเย็นชา
“หากคิดว่าการตบครั้งนี้จะทำให้ข้าหวั่นไหว…ท่านคิดผิดแล้ว ฮองเฮา”
“ในวังหลังนี้ มีเพียงผู้ที่ยืนหยัดได้เท่านั้นที่จะอยู่รอด…และข้าจะไม่ยอมพ่ายแพ้ให้ใคร”
ในตำหนักของฝ่าบาท
ข่าวการที่ ฮองเฮา เสด็จไปอาละวาดและลงมือตบ ไป๋อวี้หลัน ในตำหนักของนางเอก แพร่สะพัดไปถึงพระกรรณของฝ่าบาทอย่างรวดเร็ว
“นางกล้าทำเช่นนั้นจริงหรือ?” ฝ่าบาทตรัส น้ำเสียงแฝงความไม่พอพระทัย
ขันทีคนสนิทก้มหน้าต่ำก่อนตอบ “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท เรื่องนี้มีนางกำนัลและข้าราชบริพารในตำหนักกุ้ยเฟยเป็นพยาน”
ดวงเนตรของฝ่าบาทฉายแววไม่พอพระทัยยิ่งนัก
“เตรียมรถม้า ข้าจะไปดูนางเดี๋ยวนี้”
ในตำหนักของไป๋อวี้หลัน
ไป๋อวี้หลัน นอนอยู่บนตั่ง ใบหน้าเรียบสงบของนางฉายแววอ่อนล้า แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยแผนการที่คาดไม่ถึง
เมื่อฝ่าบาทเสด็จมาถึง นางกำนัลในตำหนักรีบถอยออกไป ปล่อยให้ทั้งสองอยู่กันตามลำพัง
“ข้าได้ยินว่าเจ้าถูกฮองเฮาลงมือทำร้าย” ฝ่าบาทตรัสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะนั่งลงใกล้นาง
อวี้หลันแสร้งหลบสายพระเนตร นางขยับตัวอย่างเจ็บปวดเล็กน้อย “หม่อมฉันมิได้โกรธเคืองฮองเฮาเพคะ…หม่อมฉันอาจทำสิ่งใดผิดโดยไม่ตั้งใจจนทำให้นางไม่พอใจ”
ฝ่าบาททอดถอนพระปัสสาสะ ก่อนเอื้อมพระหัตถ์ไปจับมือของนางอย่างปลอบโยน “เจ้าช่างใจดีนัก แต่ข้าไม่อาจปล่อยเรื่องนี้ไปได้”
อวี้หลันเงยหน้าขึ้น ดวงตาฉายแววตื้นตัน “ฝ่าบาท…หม่อมฉันเพียงต้องการอยู่ในวังอย่างสงบสุข ไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้ผู้ใดเพคะ”
คำพูดที่เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนนั้นยิ่งทำให้ฝ่าบาทหลงใหลในตัวนางมากขึ้น
“ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้ยุติธรรม เจ้าหายห่วงเถิด”
ที่ตำหนักของฮองเฮา
ฮองเฮา ยืนรออยู่ในตำหนักด้วยความโกรธที่ยังไม่จางหาย นางทราบดีว่าฝ่าบาทเสด็จมาด้วยเรื่องใด แต่ไม่ได้คิดว่าฝ่าบาทจะลงโทษนาง
“ฝ่าบาทเสด็จ!” เสียงขันทีประกาศ
เมื่อฝ่าบาทก้าวเข้ามาในตำหนัก สีพระพักตร์ของพระองค์เย็นชา ต่างจากยามที่อยู่กับไป๋อวี้หลันโดยสิ้นเชิง
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เจ้าทำในตำหนักของกุ้ยเฟยนั้นเกินขอบเขตไปมาก?” ฝ่าบาทตรัสด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ฮองเฮาก้มหน้าลงเล็กน้อย แต่ยังคงยืนหยัด “หม่อมฉันเพียงต้องการปกป้องความเหมาะสมในวังหลังเพคะ”
“ปกป้องความเหมาะสมหรือ? ด้วยการลงมือทำร้ายสนมในตำหนักของนาง?” พระองค์ตรัสเสียงดัง
ฮองเฮาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าว “ฝ่าบาท…นางปีนขึ้นตำแหน่งด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม หม่อมฉันเพียง…”
“พอได้แล้ว!” ฝ่าบาทขัดขึ้น “ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ลงมือเช่นนี้”
“ข้าจะให้เจ้าถูกกักบริเวณในตำหนักนี้ ห้ามออกไปที่ใดจนกว่าข้าจะอนุญาต”
คำตรัสของฝ่าบาททำให้ฮองเฮาตกตะลึง นางมองพระองค์ด้วยความคาดไม่ถึง
“ฝ่าบาท! หม่อมฉันเป็นฮองเฮา! ท่านจะลงโทษหม่อมฉันเช่นนี้ไม่ได้!”
“ตำแหน่งฮองเฮาไม่ได้ทำให้เจ้ามีสิทธิ์ล่วงเกินขอบเขต” ฝ่าบาทตรัสเรียบ “ข้าจะไม่ยอมให้วังหลังกลายเป็นสถานที่แห่งความวุ่นวาย”
เมื่อข่าวการกักบริเวณฮองเฮามาถึงตำหนักของนาง อวี้หลันยิ้มบางๆ ขณะจิบชาอย่างสง่างาม
“นี่เป็นเพียงก้าวเล็กๆ ในแผนการของข้า…ฮองเฮา ท่านคิดว่าท่านจะขัดขวางข้าได้หรือ?”
“ในเกมนี้…ผู้ที่อ่อนแอย่อมต้องพ่ายแพ้ และข้าจะไม่มีวันเป็นผู้พ่ายแพ้”