รถยุโรปราคาแพงแล่นมาจอดในที่จอดรถภายในคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม่านหมอกลงจากรถแล้วตรงดิ่งมายังกลุ่มเพื่อนที่รออยู่ใต้โถงของคณะฯ
“นึกว่าจะหายไปพร้อมกับน้ำในแก่งซะแล้ว ไม่รู้ว่าที่คหกรรมมีอะไรดี พี่หมอกแห่งวิศวฯ ถึงได้ไปวนเวียนอยู่แถวนั้นไม่ห่าง” เสียงของมาร์คพูดแซวขึ้นเมื่อเห็นม่านหมอกกำลังเดินตรงมายังพวกเขา
“หุบปากไปไอ้มาร์ค เดี๋ยวโดนตัดเงินเดือน” เสียงเข้ม ๆ ของคนที่โดนแซวพูดขู่ แต่คนที่โดนขู่ดูเหมือนจะไม่ได้ทุกข์ร้อนหรือหวาดกลัวเลยสักนิด แถมยังหัวเราะร่วนอย่างชอบใจอีกต่างหาก
มาร์ค เป็นลูกชายของครูฝึกการต่อสู้ที่สอนการต่อสู้ให้กับบอดี้การ์ดของไททันสเนค อายุรุ่นเดียวกันและโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ๆ เรียกได้ว่า เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด และยังเป็นลูกน้องคู่ใจของม่านหมอก ไปไหนไปกัน มีเรื่องก็ไม่เคยหวั่น
“ดูร้อนรนนะครับ ไม่ทราบว่าได้รับน้องท่าไหนมาบ้าง” มาร์คก็ยังแซวต่อไม่หยุด ส่วนม่านหมอกก็ได้แต่หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้าง ๆ
“ไม่ได้สักท่า ฉันไม่อยากให้น้องตกใจ ค่อย ๆ ตะล่อมเอา จะได้กินได้นาน ๆ” พอได้ยินคำตอบก็ทำเอาลูกน้องที่พ่วงตำแหน่งเพื่อนสนิทเลิกคิ้วสูงอย่างไม่เชื่อหูตัวเองนัก ที่คนอย่างม่านหมอกสามารถยับยั้งช่างใจในเรื่องพวกนี้ได้
“นี่จริงจัง”
“เออ..”
“ตกหลุมรักแล้วชัวร์” มาร์คทำหน้าจริงจังจ้องมองนายของตัวเองอย่างพินิจพิจารณา ปกติมีแต่อยากได้ก็ต้องได้เดี๋ยวนั้นทันที ไม่เคยเห็นว่าม่านหมอกจะอดใจรอมาก่อน
“ไม่ถึงขนาดนั้นว่ะ แค่อยากเอาอีก ยัยนั่นดูไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นดี ฉันชอบความท้าทายแกก็รู้” นิ้วเรียวยาวเคาะลงบนโต๊ะ ริมฝีปากหยักโค้งขึ้นเหมือนคิดแผนการอะไรบางอย่างออก
“วันนี้ต้องเข้าไปดูงานให้พ่อนะ เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วไปกันเลย” ม่านหมอกหันไปบอกกับมาร์คที่นั่งอยู่ข้างกัน ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับโดยไม่ต้องคิดนาน
“เสร็จงานแล้วไปไหนต่อ” มาร์คเอ่ยถาม
“เสร็จงานแล้วก็ไปแดกเหล้าดิ แต่ตอนนี้ไปเรียนได้แล้ว เดี๋ยวอาจารย์ก็เพ่นกระบาล”
ทั้งกลุ่มพยักหน้าเห็นด้วย แล้วลุกขึ้นตามคำบอกของม่านหมอกไปยังคลาสเรียน เพราะอาจารย์ที่สอนวิชานี้ขึ้นชื่อว่าโหดที่สุด ไม่สนว่านักศึกษาจะเป็นลูกของใครทั้งนั้น จะลูกคนรวย หรือลูกมาเฟีย ต่างก็โดนลงโทษอย่างเท่าเทียมกัน
/////
หลังจากเลิกคลาสสุดท้าย ม่านหมอกก็เดินมาขึ้นรถของมาร์ค ส่วนรถของตัวเองก็โทรให้ลูกน้องเอากลับไปจอดไว้ที่เพ้นท์เฮาส์
ความเร็วของรถที่กำลังแล่นอยู่เรียกได้ว่าคันอื่นไม่มีโอกาสแซง มาร์คเป็นคนที่ขับรถเร็ว และเป็นลูกน้องเพียงคนเดียวที่ม่านหมอกยอมนั่งรถด้วย ถึงจะขับเร็วมากเท่าไหร่ แต่มาร์คก็คิดถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ
ใช้เวลาชั่วโมงกว่า ๆ รถก็มาจอดอยู่หน้าโกดังที่เป็นสถานที่นัดรับส่งสินค้าล็อตใหม่
ม่านหมอกยืนพิงรถเพื่อรอลูกค้าที่กำลังเดินทางมา มวนบุหรี่ถูกหยิบขึ้นมาจุดดูดฆ่าเวลา เมื่อเห็นขบวนรถสีดำแล่นเข้ามาจอด เขาก็โยนบุหรี่ทิ้งลงพื้นแล้วใช้ปลายเท้าขยี้จนไฟมอด
“ไม่คิดว่าวันนี้คุณไต้ฝุ่นจะส่งลูกชายมา” เสียงของหัวหน้าอีกฝ่ายดังขึ้นทันทีที่ลงมาจากรถแล้วเห็นคนที่รออยู่เป็นม่านหมอกไม่ใช่ไต้ฝุ่นอย่างทุกครั้ง
“พอดีพ่อมีธุระครับ ก็เลยส่งผมมาแทน รีบดูสินค้าเถอะครับ จะได้รีบจัดการให้เรียบร้อย” เขาเดินนำเข้าไปยังโกดังที่มีกล่องไม้มากมายวางเรียงกันอยู่
ม่านหมอกหันไปพยักหน้าให้มาร์คที่ยืนคุมอยู่ให้เปิดกล่องออก เพื่อให้ลูกค้าได้ดูสินค้าข้างใน
“ปืนทั้งหมดสองร้อยกระบอก พร้อมกระสุนแล้วก็อุปกรณ์เสริมตามที่สั่ง หวังว่าคุณภพจะพอใจในสินค้านะครับ”
พิภพกวาดสายตามองไปยังกล่องไม้เพื่อสำรวจดูคร่าว ๆ แล้วก็สุ่มหยิบขึ้นมาดูเป็นบางกระบอก รอยยิ้มฉาบขึ้นมาบนใบหน้าด้วยความพอใจ
“ของดี งานสวย ไม่มีผิดหวังจริง ๆ” พิภพพูดขึ้นแล้วก็หันไปพยักหน้าให้ลูกน้องส่งกระเป๋าเงินสดจำนวนหลายใบให้ทางลูกน้องของม่านหมอกตรวจดู
“ครบตามราคา ไม่ขาดไม่เกิน หวังว่าเราจะได้ทำการค้าร่วมกันอีกนะครับคุณภพ”
“แน่นอนอยู่แล้วครับ”
หลังจากที่พิภพขนของออกไปจากโกดังและลูกน้องเก็บทุกอย่างเรียบร้อย ม่านหมอกก็สั่งให้ลูกน้องเอากระเป๋าเงินสดไปเก็บไว้ที่ตึกไททันสเนค ส่วนเขากับมาร์คก็มุ่งหน้าสู่คลับที่ประจำ
ชายหนุ่มสองคนหย่อนตัวลงนั่งที่โซฟาของโซนวีไอพี พนักงานที่เห็นก็รีบเข้ามาบริการ เหล้าชั้นดีถูกยกมาเสิร์ฟให้ผู้เป็นนายโดยที่ม่านหมอกไม่ต้องเอ่ยบอก เพราะทุกครั้งที่มา เขาก็มักจะดื่มแบบเดิมเสมอ
“วันนี้ไม่สนใจเรียกสาว ๆ มานั่งด้วยหรือไง ปกติไม่เคยปล่อยให้ข้างตัวว่าง” มาร์คถามขึ้นแล้วก็ยกเหล้าขึ้นดื่ม
“ไม่ว่ะ ช่วงนี้อยากเป็นเด็กดี” ม่านหมอกตอบกลับ แววตาของเขาเป็นประกาย “ไม่อยากให้ยัยนั่นผิดกลิ่น”
มาร์คที่กำลังกระดกเหล้าเข้าปากแทบจะสำลักออกมาทางเดิมเมื่อได้ยินเหตุผล นี่มันใช่คนที่บอกว่าไม่ได้ตกหลุมรักเหรอ เท่าที่ดูการกระทำน่าจะตกลงไปลึกจนหาทางออกไม่เจอมากกว่า
“นี่ขนาดบอกว่าไม่ได้ตกหลุมรัก” น้ำเสียงปนหัวเราะพูดออกมา แล้วปรายหางตาไปมองเพื่อนตัวเอง
“เหอะ ไม่มีทาง ฉันไม่อยากผูกมัดกับใครแกก็รู้ วุ่นวาย ดูอย่างเมฆดิ มีแต่ปัญหา” ท่าทางมั่นอกมั่นใจของม่านหมอกทำเอามาร์คได้แต่ส่ายหัว
“อย่าให้เห็นว่าหอนทีหลังแล้วกันนะครับคุณหมอก”
“ไม่มีทาง”
“เออ...จะรอดู”
สองคนคุยกันสนุกสนานประสานกับเสียงชนแก้วที่ดังขึ้นแทบจะตลอดเวลา แก้วแล้วแก้วเล่าที่พร่องหาย จนเหล้าหมดไปเกือบสามขวด
ม่านหมอกกวาดสายตามองไปรอบ ๆ โซนด้านล่าง ที่ตอนนี้มีลูกค้าใช้บริการกันแน่นขนัด จนไปปะทะกับคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินขึ้นมายังโซนวีไอพี
“นั่นมันไอ้จอมทัพไม่ใช่เหรอวะ มันมาทำเหี้ยอะไรที่นี่”
มาร์คหันไปมองยังจุดที่สายตาของม่านหมอกมองอยู่ ก็เห็นจอมทัพกับลูกน้องอีกห้าคนกำลังเดินขึ้นมา มันเป็นทายาทของเดอะไลอ้อน กลุ่มมาเฟียที่เคยมีปัญหากับอาร์เดน ปู่ของม่านหมอก เพราะไอ้สิงหาหัวหน้าคนเก่าเป็นคนวางแผนฆ่าปู่ทวดของเขา
หลังจากที่สิงหาโดนอาร์เดนฆ่าตาย เดอะไลอ้อนก็ใช้เวลาอยู่หลายปีกว่าที่จะรวมกลุ่มขึ้นมาใหม่ได้ โดยการนำของพยัคฆ์ที่เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของสิงหา และเป็นปู่ของไอ้จอมทัพ
แต่กว่าจะรวมอำนาจให้กลับมายืนอยู่แถวหน้าได้อีกครั้ง ก็กินเวลามาจนถึงรุ่นหลาน และแน่นอนว่า ตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ เดอะไลอ้อนและไททันสเนค ก็ยังเป็นคู่อริกันเช่นเดิม
ม่านหมอกลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ตามมาด้วยมาร์คที่ลุกขึ้นยืนข้างกัน สองคนก้าวขายาว ๆ ไปหยุดอยู่ตรงหน้าของจอมทัพและลูกน้อง
“มึงมาทำเหี้ยอะไรที่นี่” คำพูดแรกที่ออกมาจากปาก เขาแสดงอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบผู้มาเยือน
“โอ๊ะ เจ้าของที่นี่พูดกับลูกค้าแบบนี้เหรอวะ” จอมทัพตอบกลับพร้อมกับเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงจ้องหน้าม่านหมอกอย่างยียวน
“กับมึงกูไม่นับว่าเป็นลูกค้า มาทางไหนก็กลับไปทางนั้น ที่นี่ไม่ต้อนรับคนของเดอะไลอ้อน”
แต่ไหนแต่ไหร ม่านหมอกกับจอมทัพเป็นคู่อริกันมาตลอด ตีรันฟันแทงกันมาก็หลายรอบ จู่ ๆ อีกฝ่ายบอกจะมาเป็นลูกค้า ซึ่งมันฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด
เหตุผลเดียวที่มันมาที่นี่ ก็เพราะมันอาจจะกำลังสืบเรื่องอะไรบางอย่างของไททันสเนค
“แต่กูอยากจะกินเหล้าที่นี่” จอมทัพก้าวมาประจันหน้า สายตาเอาเรื่อง
“ถ้ามึงคิดว่าจะได้แดกเหล้าที่นี่แทนการแดกลูกปืน มึงก็ลองนั่งลงดู มึงก็รู้ว่ากูไม่เคยพูดเล่น” ม่านหมอกเองก็ไม่ยอมเช่นกัน ถึงยังไงตลอดชีวิตนี้ ไททันสเนคกับเดอะไลอ้อนก็ไม่มีทางญาติดีกันได้แน่นอน
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมอ่อนข้อ จอมทัพจึงถอยหลังกลับ ที่จริงก็แค่อยากจะมาสำรวจดูกิจการที่นี่ แต่ไม่คิดว่าจะเจอม่านหมอก และการที่มีลูกน้องเพียงห้าคนอยู่ในวงล้อมของไททันสเนค แล้วยังคิดที่จะนั่งที่นี่ต่อ ก็เท่ากับหาเรื่องตายให้ตัวเอง
“กลับเว้ย ไปแดกที่อื่นก็ได้” จอมทัพสั่งลูกน้อง แล้วก็เดินลงไปจากโซนวีไอพีทันที
ม่านหมอกมองดูมันเดินจนออกจากประตูร้านไป ก่อนที่จะหันกลับมานั่งลงที่โซฟาตัวเดิม
“สั่งลูกน้องคอยสอดส่องที่ร้านให้ดี อย่าให้มีปัญหา จู่ ๆ มันมาที่นี่ต้องมีเป้าหมายอะไรบางอย่างแน่” เสียงเข้ม ๆ เอ่ยสั่งลูกน้องคนสนิท ซึ่งมาร์คก็รับคำทันที
///////////////////////////////////////////////////////