เสียงโซ่ตรวนคล้องคอดังเบาๆ ในความมืดสลัวเมื่ออุณาขยับตัวด้วยความปวดปร่าไปทั้งเรือนร่าง สาวน้อยพบว่าตัวเองซุกหน้าอยู่กับกำแพงอกล่ำสันของใครคนหนึ่ง ร่างกายเปลือยเปล่าอิงแอบแนบชิดกันอย่างสนิทสนมเกินพอดี
ทรวงอกอวบเบียดเสียดอยู่กับกล้ามท้องของเขา และ... เจ้าสิ่งที่เธอเพิ่งเคยทำความรู้จักเมื่อคืนนี้ก็แนบชิดอยู่ตรงใต้ทรวงอกของเธอด้วย
อุณาแก้มแดง จดจำเหตุการณ์ที่ผ่านพ้นไปได้อย่างเลือนราง เธอค่อยๆ ขยับตัวออกมาจากการซุกกอดกายอุ่นของเขาหนีไอหนาวจากเครื่องปรับอากาศ ก่อนมองหาผ้าคลุมขนแกะสีขาวจนเจอร่วงอยู่ข้างเตียงนอน สาวน้อยเก็บมันขึ้นมาคลุมกายด้วยแววตาสับสนรื้นน้ำตา
เรื่องเมื่อคืนมันแสนวิเศษนั้นจริงอยู่ แต่อุณาก็ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรกับตัวเองต่อจากนี้...
เธอชักไม่มั่นใจแล้วว่าจะสามารถเชื่อทุกอย่างที่คุณแม่พร่ำสอนได้จริงหรือ... หรือว่าน้องสาวฝาแฝดของเธอจะพูดถูก คุณแม่อาจจะเลี้ยงดูพวกเธอให้โตขึ้นมาเป็นเพียง ‘ตัวทำเงิน’ เท่านั้น หาได้มีความรักใคร่ใยดีกับพวกเธอเลย
ก็การแนบชิดเสียดสีกับชายที่นอนหลับใหลอยู่ตรงหน้าเธอนี้ หากจะจินตนาการว่าต้องทำแบบนี้กับชายอื่น อุณาก็คลื่นไส้เต็มทน
อาจเพราะสิงหราชหล่อเหลา อ่อนโยน คิดถึงจิตใจของเธอมากกว่าจะแค่บดบี้ขยำขยี้ให้บอบช้ำ อุณายอมรับว่าเขาทำให้เธอ ‘ติดใจ’ จนเกิดความขบถกับคุณแม่ขึ้นมาว่าอยากจะพลีกายให้กับเขาเพียงผู้เดียวไปตลอดชีวิตของเธอ
แต่.. แต่... คุณแม่บอกชัด หลังจากเช้าวันใหม่มาเยือน ชายคนแรกที่ประมูลพรหมจรรย์ของเธอในราคาแพงลิบจะลุกจากเตียง เขาอาจจะสั่งให้เธออาบน้ำให้เขา อาจจะขย้ำเธอซ้ำอีกครั้ง อาจจะให้ทิปเธอแล้วเดินออกจากห้องนี้ไป
หลังจากนั้นจะได้เจอเขาอีกหรือไม่ได้เจออีกเลยตลอดไป มีแค่เขาเท่านั้นที่เป็นคนตัดสินใจ ไม่ใช่เธอ
“อืม...”
อุณาสะดุ้งเมื่อชายหนุ่มขยับตัว เธอเห็นเขาหรี่ตามองมาด้วยดวงตาเซ็กซี่ล้นเหลือ
สิงหราชตกใจนิดหน่อยตอนที่เห็นสาวน้อยแปลกหน้านั่งคลุมกายด้วยผ้าขนแกะอยู่บนเตียงเดียวกัน ก่อนที่ความทรงจำเมื่อคืนนี้จะย้อนกลับมาเตือนเขาว่าเมื่อคืนเธอได้มอบความหฤหรรษ์แสนวิเศษให้กับเขามากมายเพียงใด
“ทำไมตื่นเช้า”
เสียงของเขาทุ้มแหบทรงเสน่ห์แบบที่ทำให้อุณาใจสั่น มือหนาที่ยื่นมาจับข้อมือบอบบางก็ทำให้เธอสั่นเทิ้มด้วยความประหม่าเขิน
“มานี่มา ฉันขอนอนต่ออีกหน่อย”
แรงดึงข้อมือจากคนตัวโตทำให้ร่างแน่งน้อยจำต้องสอดกายเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับเขาอีกครั้ง ผ้าคลุมไหล่ขนแกะหลุดออกจากร่าง อุณาโอบวงแขนกอดเอวสอบไว้ เธอสะดุ้งเบาๆ เมื่อหน้าท้องแบนราบเปลือยเปล่าแนบชิดกับความใหญ่โตขึงขังของเขา
อุณาแก้มแดง หัวใจเต้นระรัว
เขาคงรับรู้ได้ เพราะชายหนุ่มหัวเราะในคอเบาๆ จนอกกว้างของเขากระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะ
“ไม่เป็นไร” เขาลูบผมเธอ ในแบบที่ทำให้อุณารู้สึกอบอุ่นไปทั่วทั้งหัวใจ “เธอต้องพักบ้าง ฉันรู้ แล้วฉันก็เพลียมากเหมือนกัน ยังอีกตั้งชั่วโมงกว่าจะเช้า พักผ่อนเถอะนะ อย่าไปสนใจมันเลย”
ในขณะที่สาวน้อยตื่นเต้นจนหัวใจแทบทะลุออกจากอก ชายหนุ่มกลับใช้เวลาไม่นานในการหายใจสม่ำเสมอสมกับที่เขาออกปากว่าเพลีย
อุณาซุกหน้าลงกับอกเขา ไม่รู้ทำไมเธออยากให้วินาทีนี้ยาวนานตลอดนิรันดร์
ไม่อยากให้ยามเช้ามาถึง... แล้วคุณแม่จะเข้ามาพรากเธอไปจากเขาเลย...
เสียงเครื่องปรับอากาศดังแผ่วตอนที่อุณาเคลิ้มเจียนหลับลงอีกครั้ง
เธอฝัน...
ฝันเห็นตัวเองในวัยห้าขวบกับน้องสาวฝาแฝดที่ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย อุณาเป็นเด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้ม ผิวขาวจัดราวน้ำนม ดวงตากลมโตน่ารัก ในขณะที่ดารีย์ น้องสาวฝาแฝดเป็นเด็กหญิงหน้าตาสดสวย ดวงตางามราวกับตากวาง
‘ดูแลพี่ด้วยนะลูกกวาง’
นั่นเป็นเสียงของแม่ เสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนล้าและกำลังจะหมดพลังชีวิต แม่ของพวกเธอเป็นโสเภณี เรื่องนี้อุณาและดารีย์รู้มาตั้งแต่จำความได้ ดารีย์ยังจำได้ด้วยว่าแม่บอกเสมอว่าแม้เกิดมาในสถานที่อโคจรและเป็นเด็กผู้หญิง แต่เมื่อโตเป็นสาว ทั้งสองคนต้องออกไป อย่าใช้ชีวิตเหมือนแม่
ดารีย์พูดกับอุณาเสมอว่าแม่เคยบอกแบบนี้ แต่อุณาจำรายละเอียดเรื่องวัยเด็กแทบไม่ได้เลย
เธอจำได้แค่วันนั้นที่แม่เสียชีวิต แม่นอนอยู่บนฟูกนอนเก่าๆ แม่เล่าว่าชีวิตวัยสาวที่ผิดพลาด เพราะความอยากได้ อยากมี อยากเหนือกว่าใครๆ ทำให้ชีวิตของแม่ระหกระเหินมาดับดิ้นอยู่ตรงนี้...
ในโรงแรมของเดือนเต็ม หญิงวัยกลางคนที่ทุกๆ คนในโรงแรมเรียกนางว่า ‘คุณแม่’ แม้เดือนเต็มจะเปิดโรงแรมบังหน้า แต่ใครก็รู้ว่าเบื้องหลังโรงแรมหลายสาขาของนางคือสถานที่ค้าเนื้อสดอย่างเอิกเกริก โดยที่ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้เลยเพราะเดือนเต็มมีแบ็คใหญ่
‘แม่จะต้องหายนะ หรือไม่ก็ต้องดีขึ้นนะ’ ดารีย์ร้องไห้น้ำตาไหลเต็มสองแก้ม เธอจับมือมารดาไว้ด้วยสองมือเล็กๆ สั่นเทา ‘ลูกกวางสัญญา โตขึ้นลูกกวางจะหาเงินมารักษาให้แม่หายให้ได้เลย’
เด็กหญิงพูดความในใจปนเสียงสะอื้น
‘ดังนั้นแม่ต้องมีชีวิตอยู่นะ รอลูกวางโตก่อนนะ ลูกกวางกับลูกแกะจะดูแลแม่เอง’
ระหว่างที่น้องสาวพูดถึงความฝันในอนาคตของตัวเอง อุณากลับทำได้แค่ร้องไห้ซบหน้ากับต้นแขนของมารดา ปิ่มว่าจะขาดใจ
‘เก่งลูก แม่เชื่อว่าหนูทำได้’
แม่ลูบผมดารีย์อย่างรักใคร่ ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นมาแตะศีรษะอุณาด้วยความอ่อนโยน
‘ลูกแกะ ลูกเป็นคนซื่อ’
เสียงของแม่ติดขัด ลมหายใจของแม่ถี่กระชั้นราวกับแม้แต่การหายใจก็ยากเย็นเหลือเกิน
‘อย่าให้ใครหลอกเอาได้ ต้องเชื่อน้องนะ น้องเป็นคนเก่ง น้องจะดูแลลูกแกะแทนแม่นะลูก’
‘ไม่เอา ฮือ’ อุณาคร่ำครวญทั้งน้ำตา ‘แม่ต้องอยู่นะ อยู่กับหนูกับลูกกวางนะ’
‘แม่อยากอยู่’ แม่ยิ้มด้วยสีหน้าอิดโรย ร่างกายซูบซีดราวกับไร้แล้วซึ่งเลือดในร่าง
‘อยากอยู่ใจจะขาด ลูก...’
น้ำตาหยดหนึ่งไหลคลึงแก้มซูบของแม่
แล้วคืนนั้นแม่ก็หลับไป ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย