ท่ามกลางคลับที่มีผู้คนสายเที่ยวมากมายรายล้อม กลับมีชายอีกคนที่สวมแว่นหนาอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องของกฎหมายอยู่ในมุมมืด
เขาขึ้นชื่อว่าเป็นหลานชายเจ้าของที่แห่งนี้ จู่ ๆ สายตาคมกลับเหลือบไปเห็นหญิงสาวปริศนากำลังนั่งร้องไห้อยู่ที่โต๊ะฝั่งตรงข้าม ถ้าไม่สังเกตคงไม่เห็นเลย
“นี่ครับ” ไรเฟิลยื่นผ้าเช็ดหน้าผืนโปรดให้เธอทั้งที่ยังไม่รู้จัก
“นายเป็นใคร?” เธอเงยหน้าพรางปาดน้ำตาลวก ๆ และเอ่ยถามเขาขึ้น ไม่ได้เอื้อมมือมาหยิบผ้าผืนนั้น สถาที่อโคจรแบบนี้ไม่มีใครไว้ใจได้ในความคิดของเธอ บางทีผ้าที่เขายื่นมาอาจจะมีอะไรซ่อนอยู่ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
“ผมชื่อไรเฟิลครับ”
“สภาพนายไม่น่าจะมาเที่ยวที่นี่เลยนะ ดูเหมาะกับห้องสมุดมากกว่า” เธอไล่สายตามองดูจากสภาพการแต่งตัวของเขา และส่ายหัวไปมา
“ผมไม่ได้มาเที่ยวครับ”
“งั้นนายมาทำไม?”
“เอาผ้าผมไปเช็ดคราบน้ำตาที่เปื้อนอยู่ก่อนดีมั้ย?” เขาเลี่ยงที่ตอบและยื่นผ้าให้อีกครั้ง หลังจากที่เมื่อกี้เธอไม่รับเขาเกือบจะเก็บมันเข้ากระเป๋าที่เดิมแล้ว
“ฉันไว้ใจนายได้?” เธอเลิกคิ้วถามตรง ๆ
“คุณบอกเองว่าสภาพของผมไม่เหมาะกับที่นี่ งั้นผมคงไม่น่าจะหลอกใครได้หรอก” ชายหนุ่มไม่เข้าใจเธอจริง ๆ หากเป็นผู้ชายคนอื่นที่หวังบางอย่างจากเธอ เขาจะบอกเธอตรง ๆ งั้นเหรอ
“ก็จริง นั่งก่อนสิ” เธอผายมือเชิญไรเฟิลนั่ง แต่ครั้งนี้กลับเป็นชายหนุ่มที่เริ่มระแวงเสียเอง
“ฉันไม่กระทำชำเรานายหรอก” เธอที่รู้ทันความคิดของร่างสูงต้องเอ่ยดักคอขึ้น
“ผมไม่ได้คิดแบบนั้นครับ”
“งั้นบอกมาสิว่านายคิดอะไร?”
“เมื่อกี้ร้องไห้ทำไมเหรอครับ?” นี่คือสิ่งที่ไรเฟิลอยากรู้จริง ๆ
“อย่าสนใจเลย” เธอตอบก่อนเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ใครจะกล้าเล่าสิ่งแย่ ๆ ที่เจอให้คนที่เพิ่งเห็นหน้าไม่ถึง 10 นาทีฟัง
“ผมชื่อไรเฟิลนะครับ แล้ว..” เขาแนะนำตัวเองอีกครั้ง เพราะคิดว่าเมื่อกี้ที่แนะนำไปตอนแรก หญิงสาวคงไม่ได้ฟังมัน
“ฉันชื่อดิสนีย์เรียกดิสอย่างเดียวก็ได้” เมื่อสำหรับเธอ ดูแล้วเขาน่าไว้ใจ เลยไม่เห็นว่ามันจะเสียหายอะไรหากจะรู้จักกันไว้
“ครับ”
“สรุปแล้วนายมาทำอะไรที่นี่?” เธอทวนถามอีกครั้ง หวังว่าเขาจะตอบ
“ผมมารอรับน้องสาวกลับครับ พอดีเธอมีปัญหาเรื่องความรักนิดหน่อย” ไรเฟิลตอบไปตามตรง สายตาคอยมองไปที่ออฟฟิศด้านบนตลอดเวลา
“น้องสาวทำงานที่นี่เหรอ?”
“อยากรู้จักผมเหรอครับ?” ชายหนุ่มเป็นคนตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม
“คงงั้น”
“แปลกดีนะครับ ตั้งแต่โตมาไม่เห็นมีใครอยากจะรู้จักผมเลย” เขาพูดพรางทำหน้าเศร้า ทำเอาหญิงสาวอดสงสัยและสงสารไม่ได้
“ทำไมล่ะ?” เธอไม่เข้าใจ ในเมื่อคนตรงหน้าดูเป็นคนดี แถมสุภาพอีกต่างหาก
“ดูสภาพผมสิครับ เฉิ่มเนิร์ดขนาดนี้ ใครจะอยากรู้จัก” เขาพูดติดขำและก้มมองตัวเอง
“ใครพูดแบบนั้นกับนายได้ลงกัน ถ้าเป็นเพื่อนฉันแล้ว ฉันจะตามทุบทีละคนเลย” ไรเฟิลถึงกับยิ้มอย่างเอ็นดู ผู้หญิงแรง ๆ แบบเธอดูจริงใจและดูมีความอ่อนแออยู่ในตัวไม่น้อย
“โหดจังนะครับ”
“แน่สิ แต่ฉันว่าเอาจริง ๆ หน้าตานายดีนะ ปรับการแต่งตัวหน่อยคงเป็นหนุ่มฮอตได้ไม่ยากเลย” เธอมองเขาอย่างพิจารณา
“ไม่ดีกว่าครับ ผมชอบชีวิตแบบนี้”
“มันดีเหรอ ชีวิตที่ไม่ต้องให้ใครมาสนใจ?”
“ดีครับ มันเงียบและสงบ คนที่เข้ามาล้วนจะใช้ความจริงใจ” เขาตอบไปตามความคิด แต่ดูเหมือนว่ามันไปจี้จุดของดิสนีย์เข้าโดยไม่รู้ตัว
“จริงสินะ ชีวิตที่สงบ เรียบง่ายมันต้องดีอยู่แล้ว” สายตาที่เหม่อลอยทำเอาไรเฟิลไม่กล้าพูดอะไรต่อ
“รักษาชีวิตแบบนี้ไว้นะ เพราะบางคนที่อยากมีบ้าง กลับไม่มี” จบประโยคเหมือนว่าน้ำตาของเธอจะไหลออกมา แต่เพียงแค่เสี้ยววินาที ก็ถูกนิ้วเรียวยาวของเธอปัดมันทิ้งอย่างไม่ไยดี
ราวกับว่าเธอไม่ต้องการให้ใครเห็นถึงความอ่อนแอที่เธอมีอยู่ แต่ดิสนีย์ไม่รู้เลยว่าเผยมุมนั้นให้ไรเฟิลเห็นโดยไม่รู้ตัว
“ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ เหมือนน้องผมจะทำธุระเสร็จแล้ว” เขาเตรียมจะหมุนตัวเดินออกไป
“เดี๋ยวสิไรเฟิล” เธอเอ่ยเรียก
“ครับ?” ชายหนุ่มทำหน้างงเพราะไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร
“ฉันอยากเป็นเพื่อนกับนาย”
“ได้สิครับ” เขายิ้มให้ด้วยความจริงใจ รอยยิ้มนั่นสะกดผู้หญิงหลายคนได้ไม่ยากถ้าไรเฟิลสลัดลุกเนิร์ดนี่ออกไป
แต่มันกลับไม่ทำให้ผู้หญิงที่ชื่อดิสนีย์หลงใหลไปได้เลย เพราะเธอไม่เคยสนใจเรื่องความรัก ไม่ว่ากับใครและสถานะไหน
“เอาไลน์นายมาสิ” เธอก็ยื่นโทรศัพท์ให้ ไรเฟิลรับมันมาก่อนจะกดไอดีและเพิ่มเพื่อน จากนั้นเขาเดินตรงขึ้นออฟฟิศเพื่อไปหาน้องสาว
“เมื่อกี้เบบี้เห็นนะคะ” คนเป็นน้องเอ่ยแซวพี่ชายในคราบลุคหนุ่มเนิร์ด
“เห็นอะไรกันยัยน้อง” ไรเฟิลพูดพรางถอดแว่นหนาออก พร้อมปลดกระดุมเสื้อสองเม็ด ตอนนี้เขาไม่หลงเหลือมุมเมื่อครู่สักนิด อยู่กับคนในบ้านเขาจะเป็นตัวของตัวเอง
“ทำไมต้องทำตัวเฉิ่ม ๆ ตลอดด้วยคะพี่เฟิล น้องไม่เข้าใจ? แล้วผู้หญิงคนเมื่อกี้น้องคุ้นหน้าจัง ใครคะ?” เบบี้มองไม่ชัดจึงเอ่ยถามพี่ชายและพยายามจะเพ่งมองเธอคนนั้นที่ทำให้พี่ชายอย่างไรเฟิลยืนคุยอยู่ด้วยนานสองนาน
“อย่าไปสนใจเลยครับ ใครก็ไม่รู้ ส่วนเรื่องเนิร์ดพี่มีเหตุผลของพี่ กลับกันได้แล้วครับ” สุดท้ายเบบี้ไม่ได้ถามอะไรต่อ ไรเฟิลรับเธอกลับไปส่งที่บ้านของอาอย่างเพลิงเสร็จ ชายหนุ่มก็หมุนหน้ารถกลับบ้านตัวเองทันที