" เนยหวานทำอะไรอยู่ลูก กลิ่นหอมฟุ้งออกไปถึงข้างนอกเชียว "
ชิดจันทร์ผู้เป็นแม่เดินเข้ามาในครัวพร้อมกับสูดดมกลิ่นอาหารที่ลอยไปเตะจมูกเข้าอย่างจัง เมื่อลูกสาวทำอาหารทีไร เธอกับผู้เป็นสามีก็จะเจริญอาหารขึ้นทันทีในมื้อนั้น
" วันนี้เนยทำแกงเขียวหวานค่ะแม่ กับบัวลอยไข่หวาน แล้วก็วุ้นมะพร้าวค่ะ วันนี้แม่รอชิมฝีมือของเนยได้เลยนะคะ "
ร่างบอบบางพูดพร้อมกับหันมายิ้มให้กับผู้เป็นแม่ สาวน้อยในวัย 23 ปีที่เพิ่งจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีมาหมาดๆ ในอนาคตคงต้องไปช่วยงานในโรงแรมของผู้เป็นพ่อเป็นแน่ เพราะเธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว แม้จะจบด้านการบริหารธุรกิจแต่เธอก็ชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจจนทำให้เธอทำอาหารได้เกือบทุกเมนู
" ลูกสาวแม่น่ารักขนาดนี้ไม่มีใครมาขายขนมจีบเลยเหรอลูก "
ชิดจันทร์ถามลูกสาวออกไป ส่วนเนยหวานได้แต่ยิ้มให้กับผู้เป็นแม่ เธอยอมรับว่าตั้งแต่ตอนเรียนก็มีผู้ชายมาจีบเธอมากมาย แต่เธอก็ยังไม่คิดที่จะคบกับใครจริงจังเพราะเธอมุ่งมั่นกับการตั้งใจเรียนมากกว่า
" ก็มีบ้างค่ะแม่ แต่เนยก็ไม่ได้รักใครสักหน่อย เนยอยากตั้งใจเรียนให้จบแล้วก็อยากตั้งใจทำงานก่อน "
" แต่แม่อยากอุ้มหลานแล้วน่ะสิ "
คำพูดผู้เป็นมารดาทำให้เนยหวานรู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อย แม่ของเธอไม่เคยพูดแบบนี้ แล้วอยู่ๆมาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง
" แม่หมายความว่ายังไงคะ "
" รีบทำกับข้าวแล้วไปคุยกันที่โต๊ะอาหารนะลูก ตอนนี้พ่อของเราก็รออยู่ที่นั่นแล้ว "
ชิดจันทร์พูดกับลูกสาวเพียงแค่นั้นก็เดินออกไปหาผู้เป็นสามีที่โต๊ะอาหาร หลังจากนั้นเนยหวานก็รีบทำอาหารตรงนั้นให้เสร็จ เธอเอาไปจัดเสิร์ฟให้กับผู้เป็นแม่พร้อมกับป้าแม่บ้าน ตอนนี้ทุกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว
" แม่มีอะไรจะคุยกับเนยหรอคะ "
หญิงสาวร่างบอบบางอดไม่ได้ที่จะถามมารดา เพราะเธอสงสัยตั้งแต่อยู่ในครัวแล้ว
" พ่อว่าจะให้เราไปดูตัวกับพี่มาร์ตินเขาลูกชายของคุณมอร์แดนกับคุณหญิงฤทัยเพื่อนพ่อกับแม่ เห็นว่าเราเรียนจบมาสักพักแล้ว แล้วเราก็เป็นผู้หญิงควรที่จะมีผู้ชายดูแลนะลูก พ่อกับแม่ก็แก่ลงทุกวันไม่รู้ก็จะอยู่ดูแลลูกไปได้ถึงเมื่อไหร่ "
คำพูดของจักรกฤษณ์ผู้เป็นบิดาทำเอาเนยหวานชะงักค้าง พ่อกับแม่ของเธอกำลังจะหาสามีให้เธออย่างนั้นหรือ เธอไม่เคยจะปฏิเสธความต้องการของพ่อกับแม่เลยสักครั้งถึงได้แต่อ้ำอึ้งเพราะเธอไม่อยากทำ นั่นมันหมายถึงทั้งชีวิตของเธอเลยนะ
" ถือว่าพ่อขอนะลูก ไปดูตัวกับพี่เขาสักครั้ง แล้วหนูจะรู้ว่าพี่เขาไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด "
" ก็ได้ค่ะพ่อ พี่เขาเป็นใครนะคะ "
เธอถามผู้เป็นพ่อออกไปอย่างน้อยๆเธอควรที่จะรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเขาไว้บ้าง
" มาร์ติน ไมโลเวอร์ ลูกชายคนเล็กของคุณมอร์แดนกับคุณหญิงฤทัย ตอนนี้อายุสี่สิบแล้ว เป็นเจ้าของสนามแข่งรถ เจ้าของห้างสรรพสินค้าแล้วก็โรงแรมในหลายจังหวัด "
เนยหวานที่ได้ยินถึงกับตกใจ นี่เธอจะต้องแต่งงานกับผู้ชายอายุสี่สิบอย่างงั้นหรือ แก่คราวพ่อเลยนะ จะต้องมาแต่งงานอะไรอีก ดูเธอสิเพิ่งจะยี่สิบสามเองห่างกันตั้งรอบกว่า
" อายุตั้งสี่สิบเขายังหาเมียไม่ได้เลยหรอคะคุณพ่อ "
แม้ว่าเธอจะเป็นคนเรียบร้อย แต่ก็พูดตรงไม่น้อย จึงถามผู้เป็นบิดาออกมาตรงๆแล้วจักกฤษณ์ก็นึกขำในคำพูดซื่อๆของลูกสาว
" พี่เขาอายุมากก็จริง แต่ยังไม่ได้แก่ขนาดนั้นหรอกลูก พี่เขาก็ยังดูดีเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไปนั่นแหละ "
จักรกฤษณ์และชิดจันทร์อดที่จะยิ้มให้กับลูกสาวไม่ได้ เมื่อเห็นลูกสาวมีท่าทางตื่นกลัว ส่วนเนยหวานเองไม่เชื่อคำพูดของพ่อกับแม่เลยสักนิดคนอายุสี่สิบที่ไหนจะยังดูดีกันเล่า ดูอย่างพ่อเธอสิห้าสิบปลายๆยังดูแก่แล้วเลย แล้วผู้ชายคนนั้นจะเหลืออะไร และเธอต้องแต่งงานกับคนแก่จริงๆหรอเนี่ย
" ไปกันนะลูก วันมะรืนนี้คุณหญิงฤทัยท่านนัดให้เราไปทานข้าวด้วยที่บ้าน "
" ค่ะ "
เนยหวานรับปาก พร้อมกับถอนหายใจออกมา จนคนเป็นพ่อกับแม่รู้สึกได้จึงรีบเปลี่ยนบรรยากาศการรับประทานอาหารเป็นคุยเรื่องอื่นกันแทน ถ้าไม่อย่างนั้นลูกสาวของพวกเขาคงทานอาหารไม่ลงแน่
หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้วเนยหวานก็รีบขึ้นห้องนอนของตัวเองพร้อมกับคิดทบทวนกับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เธอไม่รู้ว่าผู้ชายที่เธอต้องไปดูตัวด้วยมีนิสัยยังไง แต่ถ้าผ่านมาได้ถึงสี่สิบปีโดยที่ไม่เคยแต่งงานแล้วล่ะก็ เขาคงเป็นผู้ชายที่น่าเกลียดน่าดูนิสัยก็คงแย่ไม่อย่างนั้นไม่เหลือรอดมาจนถึงขนาดนี้หรอก ในขณะที่ร่างบอบบางกำลังคิดอะไรเพลินๆ เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นจึงทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์
" เนยออกมาเจอกันที่ผับหน่อยสิ ยัยแพมมันอกหัก "
บรีสและแพมเพื่อนสาวที่สนิทที่สุดของเนยหวาน เรียกให้เธอออกไปหา เธอรู้ดีว่าแพมมีแฟนหนุ่มที่คบกันมานานอยู่คนหนึ่ง แต่ช่วงหลังๆนี้เหมือนทั้งสองจะมีปัญหาทะเลาะกันตลอด
" ได้สิ เดี๋ยวฉันไปกำลังเซ็งๆอยู่พอดี "
" เออรีบมานะ ไอ้แพมมันดื่มเหล้าเป็นน้ำแล้วเนี่ย "
เนยหวานรีบวางสายแล้วแต่งตัวออกไปยังผับหรูทันที เพราะเป็นห่วงเพื่อนแล้วเธอก็อยากย้อมใจเหมือนกัน เธอเป็นสาวเรียบร้อยอ่อนหวานก็จริง แต่เรื่องแอลกอฮอล์เธอก็พอเคยชิมมาบ้างชีวิตวัยรุ่นเธอก็ใช้ตามปกติ เพียงแต่ว่าไม่ได้สนใจเรื่องผู้ชายเท่านั้นเอง
เมื่อมาถึงผับหรูใจกลางเมือง เธอก็เดินเข้าไปยังโต๊ะของสองสาวที่เลือกที่นั่งได้อย่างเด่นชัด ใครมองมาก็คงต้องเห็นหมด แถมเพื่อนของพวกเธอทั้งสองคนก็มีหน้าตาสะสวย ไม่แปลกที่โต๊ะข้างๆหรือคนส่วนมากจะมองไม่วางตาแบบนี้
" ทำไมไม่เลือกโต๊ะตรงมุมๆหน่อยวะแก คนมองหมดแล้วเนี่ยเห็นไหม "
เนยหวานดุเพื่อนที่หาโต๊ะอยู่ตรงกลางเลย ต่อให้ไม่สวยคนก็มองอยู่ดี เด่นเกิ๊น
" ก็โต๊ะริมมันไม่ว่างนี่หว่า แกก็มองดูสิวันนี้คนเยอะจะตายนั่งๆไปเหอะน่า เดี๋ยวก็ต้องเมาเหมือนกันนั่นแหละ เป็นห่วงยัยแพมเถอะดูมันซิเนี่ย ร้องไห้จนจะเป็นสายเลือดอยู่แล้ว "
ตั้งแต่ที่เนยหวานและเพื่อนๆเข้ามาก็เจอกับผู้คนมากหน้าหลายตาที่มองมายังพวกเธอ ไม่เว้นแม้แต่ชั้นสอง VIP ที่ตอนนี้มีเจ้าของร้านกับเพื่อนของเขานั่งอยู่ด้วย เขานั่งมองเธออยู่แบบนั้นเพราะเขาจำใบหน้าของเธอได้จากนักสืบที่เขาเพิ่งไปจ้างมา
" เธอเองสินะ... "