ตอนที่ 1 : จุดเริ่มต้น

2448 Words
ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อน RedSky Club ภายใต้แสงสีของคลับหรูใจกลางเมืองหลวง เสียงเพลงดังกระหึ่มปลุกเร้าให้แขกผู้มาเยือนขยับเขยื้อนตัวไปมาตามท่วงทำนองของเสียงเพลง ผู้คนต่างเพลิดเพลินและสนุกสนานกับการที่พวกเขาได้มาปลดปล่อยความเหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิตตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา จะมีก็แต่หญิงสาวเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่ยังคงนั่งนิ่งไร้อารมณ์ร่วมกับผู้คนเบื้องหน้า น่านฟ้า หรือ อริสา หอรัตนกุล หญิงสาววัย 22 ปี ที่อยู่ในชุดเดรสเข้ารูปสีดำสนิท ถอนหายใจออกมาราวกับว่าเธอนั้นกำลังกลัดกลุ้มอยู่ภายในอก นัยน์ตาคู่สวยหลุบมองแก้วเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนที่เธอจะเอื้อมมือคว้าแก้วเหล้านั้นขึ้นมากระดกดื่มเพื่อย้อมใจหวังให้หัวใจของเธอนั้นหายเจ็บปวดจากการเลิกรากับแฟนหนุ่มรุ่นพี่ที่คบกันมาได้เกือบ 3 ปี และเหตุผลที่เลิกรากันก็น่าตลกสิ้นดี เขาบอกว่าเธอน่ะ ดีเกินไป เธอเองก็อยากจะรู้นักว่าเธอต้องทำตัวเลวหรือยังไงเขาถึงจะรักเธอต่อไป “ไม่รักก็แค่พูดออกมาว่าไม่รัก จะมาพูดว่าฉันดีเกินไปทำไม...” น่านฟ้ายิ้มเยาะออกมาอย่างรู้สึกสมเพชให้กับเหตุผลของอดีตแฟนหนุ่มจะบอกว่าเธอไม่เสียใจมันก็ดูเหมือนว่าเธอโกหก เพราะจริง ๆ แล้ว เธอกำลังเสียใจมากเลยต่างหาก...สู้ให้เขามาบอกว่าเขาไม่รักเธอแล้วยังดีซะกว่า ไม่ใช่มาใช้ข้ออ้างว่าเธอนั้นดีเกินไป เพราะเธอรู้ตัวเองดีว่าเธอเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่เลิศเลออะไร “เจ็บมากเลยหรอไง? ” “กับคนอื่นกูไม่เห็นมึงจะเป็นแบบนี้” เจ้าของใบหน้าสวยในแบบฉบับสาวลูกครึ่งหันไปมองเพื่อนคนสนิทอย่าง ฟลินต์ ที่เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แอบแฝงไปด้วยความเหน็บแนม ฟลินต์ หรือ รามิล ธนภูดินันท์ เป็นทายาทลำดับที่ 2 ของตระกูลเจ้าสัวหมื่นล้านที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาฯ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ รวมถึงธุรกิจสีเทาที่รวมทุนกับตระกูลมาเฟียอย่างตระกูลเบทริค และในตอนนี้ข้างกายของเขานั้นก็มีหญิงสาวหน้าตาสะสวยกำลังนั่งห้อมล้อมเบียดหน้าอกตูม ๆ เข้าหาอกแกร่งกำยำของเขาไม่หยุด น่านฟ้ากลอกตามองบนเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายใจที่ต้องมาได้ยินคำพูดเหน็บแนมซ้ำ ๆ จากเพื่อนสนิท “ก็คนนี้กูรัก” “รัก? ไหนตอนแรกแค่เล่นๆ” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพพระเจ้าปั้นวางเอ่ยถามอย่างประหลาดใจพลางเลื่อนสายตาไปมองร่างบางที่ยังคงนั่งหน้านิ่งไร้อารมณ์ร่วมกับทุกสิ่งอย่าง และดูเหมือนว่าจะมีเพียงแค่แก้วเหล้าในมือของหญิงสาวที่เธอนั้นให้ความสนใจกับมันมากเป็นพิเศษ “ก็มันรักไปแล้ว...” “รักไปแล้วก็คือรักไปแล้ว...” ร่างบางเอ่ยออกไปอย่างหงุดหงิด เธอไม่ชอบเลยที่เพื่อนของเธอมักจะมาตั้งคำถามกับเธอแบบนี้ เวลาคนเรานั้นจะรักใครต้องมีเหตุผลมากมายด้วยเหรอไงกัน แค่รู้ว่าเธอรักก็พอแล้ว... “ฮึ...มันมีอะไรให้มึงรักวะน่าน” คราวนี้เป็น ดัสติน ที่เอ่ยถามขึ้นเขาเป็นชายหนุ่มเจ้าสำราญที่มีดีกรีเป็นถึงทายาทเพียงคนเดียวของหนึ่งในตระกูลมาเฟียที่เป็นพันธมิตรกับตระกูลเบทริค เขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมน่านฟ้าถึงได้ไปหลงรักผู้ชายที่ไม่ได้มีอะไรเลยอย่าง คราม เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว น่านฟ้าเป็นผู้หญิงที่สวยสะกดสายตาผู้คนให้มองมาที่เธอได้ในทันทีเพียงแค่เธอปรากฏตัว และเธอก็ยังเพียบพร้อมไปหมดเสียทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นฐานะหรือชาติตระกูล แต่เธอกลับไปหลงรักผู้ชายอย่าง คราม ผู้ชายที่ไม่ได้มีอะไรคู่ควรหรือเหมาะสมกับเธอ ยิ่งฐานะและชาติตระกูลไม่ต้องเอ่ยถึงเพราะมันเทียบกับน่านฟ้าไม่ได้เลยสักนิด “ก็เขาไม่เหมือนคนอื่น...แล้วเขาก็ดีกับกูมาตลอดด้วย” “ดีของมึงคือแบบไหน?” ฟลินต์เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพลางเลื่อนสายตาสบมองใบหน้าของเพื่อนสาวคนสนิทอย่างรอฟังในคำตอบของเธอ เขาอยากจะรู้นักว่าผู้ชายอย่างครามมันมีอะไรดีทำไมน่านฟ้าถึงรักมันฝังใจได้ขนาดนี้ “ก็จะมีผู้ชายที่ไหนที่อดทนได้อย่างพี่คราม มึงก็รู้ว่าที่ผ่านมาพ่อกูร้ายกับพี่เขามากแค่ไหน พ่อกูบีบให้พี่ครามเลิกกับกูมาสารพัดเลยนะ...” “แถมยังส่งคนมาทำร้ายพี่เขาอีก แล้วยังพาลให้คนไปทำร้ายเพื่อนๆ ของพี่ครามจนพวกพี่เขาบาดเจ็บกันไปหมด...” “แล้วอีกอย่างตั้งแต่คบกันมาพี่เขาก็ให้เกียรติกูมาตลอด พี่เขาไม่เคยขอมีอะไรกับกูเลยนะและเขาก็ไม่เคยล่วงเกินกูเลยสักครั้งเดียว...” “แค่ผู้ชายไม่ขอมีอะไรด้วย มึงก็คิดว่าเขาเป็นคนดีงั้นเหรอ? ..” “ก็ใช่น่ะสิ ลองถ้าเป็นมึงนะ คุยกันวันเดียวก็คงลากกูขึ้นเตียงไปแล้ว...” น่านฟ้าเอ่ยออกไปตามที่คิด พร้อมกับแสดงสีหน้าอย่างมั่นอกมั่นใจว่าถ้าเป็นฟลินต์ที่เข้ามาจีบเธอ เธอคงถูกฟลินต์จับขึ้นเตียงตั้งแต่วันแรกที่คุยกัน... “ฮึ มึงจะบอกว่ากับพี่ครามของมึงน่ะ แม้แต่จูบมึงก็ไม่เคย? ...” ฟลินต์เอ่ยถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่ทว่าสายตาที่เขาใช้จับจ้องไปที่ร่างบางกับแอบแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์บางอย่าง “อย่าว่าแต่จูบเลย แม้แต่กอดก็ไม่เคยถ้ากูไม่ขอ” น่านฟ้าเอ่ยออกไปพลางมองหน้าฟลินต์ และเธอเองก็ไม่ได้ฉุกคิดหรือเอะใจกับแววตาที่ชายหนุ่มใช้มองมาที่เธอเลยสักนิดอาจจะเพราะความเป็นเพื่อนที่สนิท มันเลยทำให้เธอไม่เคยเอะใจกับสายตาของฟลินต์ที่ใช้มองเธอเลยสักครั้ง ร่างสูงที่ได้ยินแบบนั้นแอบกระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย มือหนาคว้าแก้วเหล้าบนโต๊ะขึ้นมากระดกดื่มอย่างชอบใจที่ได้ยินคำตอบที่เขาเองก็อยากรู้มานานจากปากหญิงสาว “เกินไปน่าน พี่ครามของมึงเขาจะพ่อพระขนาดนั้นเลยเหรอไง..” “มีแฟนสวยแบบมึงแล้วจะไม่อยากได้มึงน่ะเหรอ...เป็นไปไม่ได้” ดัสตินเอ่ยออกไปอย่างไม่คิดจะเชื่อหู เพราะมันดูเป็นไปได้ยากที่ผู้ชายจะไม่อยากครอบครองหรือสัมผัสผู้หญิงที่สวยแบบไร้ที่ติอย่างน่านฟ้า “ไม่เกินไปค่ะ พี่ครามเขาเป็นคนดี และพี่เขาก็ให้เกียรติกูมาก..” “งั้นพี่ครามของมึงก็คงเป็นเกย์ถึงไม่ต้องแตะมึงเลยสักนิด” ดัสตินยังคงเอ่ยออกไปตามที่คิด เพราะมันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อสำหรับเขามากจริงๆ น่านฟ้าส่งสายตามองค้อนดัสตินในทันทีพลางเม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะส่งเสียงในลำคอออกมาแสดงถึงความไม่ชอบใจที่ดัสตินพูดออกมาแบบนั้น “พี่เขาไม่ใช่เกย์ค่ะ และก็อย่างที่กูบอก พี่ครามเป็นคนดีมาก ดีแบบที่มึงเทียบไม่ติดแน่นอนดัสติน” “มึงดูมั่นใจมากเลยนะ ว่าไอ้พี่ครามเหี้ยอะไรนั่นของมึงเป็นคนดี..” ฟลินต์ที่นั่งเงียบไปแล้วในตอนแรกเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งพลางยกยิ้มที่มุมปากปรายสายตามองเพื่อนสาวคนสนิทด้วยสีหน้ายียวน...คำพูดที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางตรงหน้าแต่ล่ะคำมันทำให้ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกหงุดหงิดอยู่ภายในใจไม่น้อย เพราะมันเป็นคำพูดที่ไม่ค่อยรื่นหูสำหรับเขาเท่าไหร่ “มั่นใจดิ กูคบกับพี่เขามาตั้ง 3 ปีนะฟลินต์” “พี่เขาเป็นคนยังไง คนที่รู้ดีที่สุดคือกูค่ะ” ร่างบางเอ่ยออกไปด้วยความมั่นใจเพราะเธอคิดว่าที่ผ่านมาเธอก็รู้จักครามดีไม่แพ้ใคร ฟลินต์เลื่อนสายตามองใบหน้าสวยของน่านฟ้านิ่งงันก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากน้อย ๆ พลางหัวเราะในลำคอให้กับความโลกสวยของหญิงสาว สำหรับคนอื่นอาจจะมองว่าน่านฟ้าเป็นหญิงสาวที่ค่อนข้างแข็งกระด้างจนคล้ายกับเย็นชา เธอทำตัวเป็นเหมือนว่าเธอนั้นเข้มแข็งและแกร่งไปหมดเสียทุกเรื่อง แต่สุดท้ายแล้วทั้งหมดนั้นมันก็เป็นเพียงแค่ภาพที่เธอสร้างขึ้นมา น่านฟ้าเป็นคนแบบไหนคนที่รู้ดีที่สุดก็คือเขา เธออ่อนแอและเปราะบางเกินกว่าใครหลายคนจะรู้ และสิ่งที่เธอต้องการคือความรักจากคนรักที่ดี แต่บังเอิญว่าคนรักที่น่านฟ้ารักนักหนา ดันเป็นผู้ชายหน้าเงินที่ชอบทำตัวเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกิน เขาน่ะหงุดหงิดเรื่องนี้มาเสมอว่าเพราะอะไรน่านฟ้าถึงหลงรักหมอนั่นหัวปักหัวปำ ไม่ว่ามันจะพูดหรือทำอะไรเธอก็เห็นดีเห็นงามกับมันไปเสียหมดแถมยังคอยปกป้องมันทุกอย่าง... “แล้วถ้าเขาดีอย่างที่มึงพูด เขาจะมาบอกเลิกมึงทำไม? ...” คำถามที่ทิ่มแทงใจของหญิงสาวถูกส่งออกมาจากริมฝีปากหยักของชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง น่านฟ้าขบเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้มเข้าหากันอย่างคิดไม่ออกว่าจะเอ่ยคำใดออกไป สำหรับเธอนั้นฟลินต์เป็นคนพูดน้อย แต่เวลาที่เขาอ้าปากพูดทีไรมันเหมือนกับว่ามีอาวุธอันตรายลอยละลิ่วออกมาจากริมฝีปากเขาเพื่อทำเธอนั้นรู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดของเขาอยู่เรื่อยๆ เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ชายแบบนี้ไปได้ “เขาอาจจะจำใจมาบอกเลิกกูก็ได้ มึงก็เลิกอคติกับคนที่กูรักได้แล้ว..” “หัดมองพี่ครามในแง่ดีบ้างเถอะ” ร่างบางเอ่ยออกไปพร้อมกับชักสีหน้าไม่ชอบใจที่ฟลินต์เริ่มทำตัวเป็นทนายความที่กำลังซักไซ้เธอ “กูถามมึงก็แค่ตอบน่าน ว่าถ้าพี่ครามของมึงเขารักแล้วก็แสนดีกับมึงขนาดนั้น...” “เขาจะมาบอกเลิกมึงเพื่ออะไร? ถ้าเขารักมึงจริงไม่ว่าอุปสรรคเหี้ยอะไรเข้ามา เขาก็ควรจะอยู่เคียงข้างมึง ไม่ใช่ปล่อยให้มึงมานั่งเสียใจต่อหน้าพวกกูแบบนี้...” ร่างสูงเอ่ยออกไปอย่างเริ่มมีอารมณ์ที่กรุ่นโกรธ เขาต้องการพูดให้น่านฟ้าได้ฉุกคิดถึงอีกมุมหนึ่งไม่ใช่เอาแต่หาเหตุผลดี ๆ มาปกป้องผู้ชายที่ชอบทำตัวเป็นแมงดาอย่างคราม “ก็กูคิดว่าเรื่องที่พี่ครามมาบอกเลิกกูเป็นเพราะพ่อสั่งอีกแน่ๆ ...” ร่างบางเอ่ยออกไปตามที่คิด เพราะเธอกับผู้เป็นพ่อทะเลาะกันเรื่องของครามมาตลอด ไม่ว่าเธอจะพยายามพูดให้พ่อเปิดใจให้ครามมากแค่ไหน ท่านก็ดูเหมือนจะปิดประตูตายทุกบานไม่ยอมเปิดโอกาสให้ครามได้เข้าไปเลย เธอเพียงแค่อยากขอโอกาสให้ครามได้พิสูจน์ตัวเองแต่พ่อของเธอก็ไม่คิดจะให้ มิหนำซ้ำยังพูดกรอกหูเธอทุกครั้งที่เจอหน้าว่าต้องการให้เธอเลิกกับคราม “มึงคิดว่าครั้งนี้พ่อมึงเป็นคนบังคับให้ไอ้เหี้ยนั่นมาบอกเลิกมึง? ...” “ใช่ กูคิดว่าพี่ครามอาจจะจำใจบอกเลิกกู...” “มึงนี่หลอกตัวเองเก่งฉิบหาย...” ฟลินต์เอ่ยออกไปอย่างเริ่มหัวเสีย คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปม ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกไปน่านฟ้ามักจะมีข้อโต้แย้งแทนแฟนเก่าของเธออยู่ตลอด รักแม่งอะไรขนาดนั้นวะ!... “กูไม่ได้หลอกตัวเองสักหน่อย! กูแค่พูดไปตามที่คิดเอง” “ก็ไอ้สิ่งที่มึงคิดมันเรียกว่าหลอกตัวเองไงน่าน มึงมันหลอกตัวเอง! หลอกแม้กระทั่งว่าการที่ผู้ชายไม่ขอมีอะไรกับมึงแปลว่าเขารัก เขาให้เกียรติมึง..” “มีเซ็กส์หรือไม่มีเซ็กส์ไม่ได้เป็นตัววัดว่าไอ้เหี้ยนั้นจะเป็นคนดีหรือไม่ดี แต่มึงควรจะมองตอนนี้ ตอนที่มึงกำลังนั่งเสียใจต่อหน้ากู!!” ทุกคนนน~ คิดถึงจังเลยค่าา คิดถึงนักอ่านที่น่ารักของไรท์มาก ๆ เลย ? กว่าจะได้มีเวลามาเปิดเรื่องนี้ใช้เวลานานพอสมควรเลยค่ะ? เปิดมาตอนแรก หนุ่มฟลินต์ของเราก็หึงน่านฟ้าจนเกือบเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่เลยค่าา อยากจะข้ามเส้นคำว่าเพื่อนกับเขาแต่ติดที่คำว่าเพื่อนสนิทมันค้ำอยู่ที่คอ? พอจะเดากันออกเลยใช่ไหมคะว่าเรื่องนี้ใครจะคลั่งรักใครมากกว่ากัน ? สำหรับใครที่เพิ่งผ่านมาเจอนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ไรท์จะแนะนำว่าเป็นคู่รองที่มาจากเรื่อง Deceiveลวงรักมาเฟีย ค่ะ ซึ่งถ้าใครยังไม่เคยอ่านแล้วมาอ่านเรื่องดาวหลงตะวันเลยก็สามารถอ่านได้แบบไม่งงแน่นอนค่ะ เรื่องนี้ไม่ได้มีปมซับซ้อนอะไรเลยค่ะ ไม่ดราม่าหนักเหมือนเรื่องที่แล้วแน่นอนแต่มีพอกรุบกริบให้น้ำตาซึม ส่วนใครที่รอคู่ ฮอลกับไอรีน น้องชายคนรองของพี่เฮลจากเรื่อง heartlessพ่ายรักมาเฟีย จะมาหลังจากที่เรื่องดาวหลงตะวันจบนะคะ แต่ถ้าให้พูดตามที่ไรท์แพลนไว้ตอนแรกคือแพลนเดิมเรื่องฮอลกับไอรีนต้องมาก่อนเรื่องนี้ค่ะ แต่พอดีหน้าปกยังไม่เสร็จแพลนเลยต้องเปลี่ยนมาเป็นดาวหลงตะวันก่อน ?? ยังไงก็ฝากนักอ่านที่น่ารักเอ็นดูคู่น่านฟ้ากับฟลินต์ด้วยนะคะ นุ้งน่านของเราสวยมากจริงๆ? เจอกันตอนต่อไปนะคะทุกคนน ขอกำลังใจให้ไรท์กับคู่นี้หน่อยน้าาา รักมากๆเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD