เวลาผ่านไปอีกราวหนึ่งชั่วยาม ก๊อก ก๊อก ก๊อก มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น หลินฮวาและศิษย์พี่หญิงคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา ด้านหลังก็มีคนตามมาด้วย พวกเขาน่าจะเป็นสหายของท่านพี่กระมัง? “สวัสดีศิษย์น้องหลินซี ประเดี๋ยวพี่สาวเยว่ฉานจะตรวจดูอาการบาดเจ็บให้นะ…” ศิษย์พี่หญิงคนนั้นมีเรือนผมสีทองยาวสลวยเงางามพาดลงไปถึงบั้นท้าย ถ้าดูจากออร่าลมปราณสีเขียวขจีอ่อนโยนที่แผ่ซ่านออกมา คงจะเป็นอัจฉริยะด้านศาสตร์การรักษา “ยินดีที่ได้รู้จักเจ้าค่ะ..อะ” หลินซีขยับตัวจะลุกขึ้นยืน ทว่าด้วยร่างกายที่ยังอ่อนแอ จึงส่งเสียงร้องออกมา ร่างบางเซซัดเล็กน้อย หลินฮวามีสีหน้าตกใจพลันรีบเข้ามาประคองร่างบางเอาไว้อย่างทันท่วงที “จะลุกไม่ได้นะ…เสี่ยวซี แผลยังไม่หายดีเลย ห้ามฝืนเด็ดขาด” เยว่ฉานพลันหัวเราะอย่างขบขัน เมื่อเห็นท่าทีเป็นห่วงเป็นใยน้องสาวของศิษย์น้องคนสนิท ส่วนอีกสองคนที่ดูเหมือนจะเป็นสหายของหลินฮวาพลันส่ายศีรษะไปมา