“บอสสองครับทางนี้เลยครับ น้องเขามารอนาน...”
คนพูดยังพูดไม่ทันจบประโยคดี ร่างสูงใหญ่ของเหยื่อที่เพื่อน ๆ ในทีม ใช้เรียกลูกค้าเดินผ่านประตูห้องเข้ามาพอดี
“น้องเขารอไม่ได้ เราเปลี่ยนเจ้าก็ได้นี่สุธี” เสียงพูดเสียงนั้นลอยเข้ามาก่อน บอกอย่างไม่แยแส ตอนเดินเข้ามาในห้องแล้ว ‘สุธี’ ชายเจ้าของชื่อยิ้มแหย ๆ แล้วตอบเจ้านายไปว่า
“อย่าเลยครับบอส เจ้านี้งานดี กว่าจะได้คิวไม่ง่ายเลยนะครับ”
อัญญาเผลอมองไปทางคนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ เธอไม่ชอบเลยพวกไม่รักษาเวลา แล้วจะนัดทำพระแสงเงี้ยวของ้าวไปทำไม หากจะเรตขนาดนี้ เธอหยิบแฟ้มและกระเป๋าครัชใบหรูที่เพิ่งถอยใหม่ ทำท่าจะลุกขึ้นยืน เพื่อเดินออกจากห้องไปเสียให้พ้น ๆ เกิดมาเคยต้องงอใครกัน
“ไม่พอใจ ยกเลิกได้เลยนะคะ”
“ไม่เอานะครับ ใจร้อนพอกันเลย นั่งครับ นั่งก่อน” ชายหนุ่มหน้าตี๋เจ้าของชื่อสุธี พยายามห้ามทัพแล้วแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการว่า “พี่ชื่อสุธีนะครับ แทนตัวว่าพี่เลยแล้วกัน ดูจากหน้าแล้ว ส่วนท่านนี้ เรียกคุณบอสก็ได้ หรือบอสสองก็ได้ทั้งนั้นครับ ท่านเป็นคนเฟรนด์ลี่ ง่าย ๆ เนอะๆ” สุธีหันไปพยักหน้ากับทางนั้น
“อัญญาค่ะ”
เธอแนะนำตัวเองตัดบทกลับไปบ้าง เมื่อนึกถึงเงินก้อนใหญ่จากทางนี้กลบอารมณ์ร้อนๆ เมื่อครู่ได้เป็นอย่างดี แล้วลากทุกคนเข้าสู่ช่วงเวลาของการนำเสนองานในเวลาต่อมาเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้
และเมื่อได้พูดคุย ซักถาม โดยไม่อคติขึ้นมาเป็นที่ตั้ง เธอพบว่าทั้งหมดพูดคุยกันแบบมืออาชีพ บอสสองของสุธีปากเปราะไปแบบนั้นเอง แต่พอคุยถึงเนื้องานแล้วก็โอเค เธอคิดว่าพอรับเขาได้ มีบ้างบางคำบางประโยคที่จุดอารมณ์ด้านลบของเธอ แต่ก็ต้องเตือนตัวเองให้ใจเย็น ๆ และหากไม่สนใจเอาคำพูดของเขามาคิดมากก็ทำให้ดีลกันได้ในที่สุด และสุดท้ายของการสนทนาคือเซ็นสัญญารับเงินมาก่อน 50% รวมถึงทีมผู้บริหารลงความเห็นให้ทีมของเธอลงไปดูสถานที่ด้วยกัน เพื่อจะได้ให้งานออกมาดีที่สุด
สุธีเช็คตารางงานของนาย แล้วเงยหน้าขึ้นบอก “อย่างนั้นเป็นช่วงปลายเดือนหน้าเลยนะครับ น้องอัญญาสะดวกไหม”
อัญญาตอบรับอย่างไม่ต้องคิดอะไรมาก ให้ไปวันนี้ยังได้เลย “ได้ค่ะ” ตารางชีวิตของเธอตอนนี้ ทุ่มให้กับงานเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงไปแล้ว ต่อให้ไม่ได้ก็ต้องได้
เสียงทุ้มแต่แฝงแววหยอกล้อดังมาจากทางบอสสอง “ถ้าไปไม่ได้อีก แคนเซิลดีลได้นะ ผมหาทีมใหม่ได้”
“เอาอีกละ ไม่พูดแบบนี้สิครับบอส” สุธีห้ามเจ้านายของตนเองอีกครั้ง นึกเซ็งเจ้านายที่นึกอยากพูดอะไรก็พูด เด็กเส้นที่มีแต่ความรวยกับหน้าตาดีพวกนี้ทำเสียเรื่องอยู่เรื่อยเลย
อัญญายิ้มอย่างอารมณ์ดี เมื่อได้เซ็นสัญญา ได้เช็คมาเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไป ตั้งท่าจะกลับไปฉลองกับทีมที่บริษัทของตนเอง สุธีถามก่อนที่เธอจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ “เดี๋ยวนะครับน้องอัญญา พี่ว่าเราตกลงสถานที่นัดเจอกันที่ท่าเรือเลยก็แล้วกันเนอะ หรือถ้าเปลี่ยนแปลงยังไง พี่จะโทร. แจ้งนะครับ”
อัญญาตอบตกลงอย่างว่าง่าย ให้เธอว่ายน้ำไปเองยังได้เลย หญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อยบอกลาทุกคนอย่างมีมารยาท บอกทุกคนในนั้นว่าจะกลับแล้ว ค่อยหอบข้าวของตรงไปยังประตู ยื่นมือไปยังที่จับจะเปิดออกก็พบว่าประตูถูกดึงเปิดไปยังอีกทาง ตัวของเธอเกือบถลาเสียหลัก ดีที่ทรงตัวบนส้นเข็มเจ็ดนิ้วได้เป็นอย่างดี เลยไม่เป็นอะไร
ร่างสูงใหญ่กว่าบอสสอง ผู้จ้างงานกวนประสาทเธอที่ในห้อง กำลังยืนจังก้าประจันหน้ากันที่ตรงประตูห้อง
ใบหน้าของปัณณวัฒน์ดูคล้ายจะสีเข้มกว่าที่ครั้งล่าสุดที่เคยเจอกัน แววตาของเขาเรียบเฉย ไม่ดูขี้เล่นอารมณ์ดีเหมือนอย่างที่ตอนไปอ้อนขอข้าวที่บ้านแม่ของเธอกิน ทำไมวันนี้ถึงได้ดูเคร่งราวกับท่านประธานบริษัทใหญ่เลยเล่า
อัญญากระแอมเบา ๆ เรียกสติตัวเอง พร้อมกับใบหน้าที่ออกร้อนขึ้นนิด ๆ เธอเบี่ยงตัวหลบไปอีกทาง เดินฉับ ๆ จากไปโดยไม่คิดจะทักทาย รู้ดีว่าเขาเองก็ไม่ได้นึกอยากทักทายเธอเท่าไรนัก
‘บรมวุฒิ’ คือคนเดียวกันกับที่สุธีเรียกว่าคุณบอสสอง รีบบอกให้ปัณณวัฒน์ฟัง “ไงครับ ถึงกับชะงักเลยหรือ ตัวแทนเอเจนซี่ที่จะไปดูรายละเอียดให้ที่รีสอร์ตของเราไง สวยใช่ไหมล่ะ”
ปัณณวัฒน์ไม่ได้ตอบ เขาไม่เคยตัดสินใครด้วยรูปร่างหน้าตา เพราะทุกคนดูดีหมดในรูปแบบของตัวเอง เขาตรงเข้าไปนั่งประจำที่ของตัวเองที่เว้นว่างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว บรมวุฒิค่อยรายงานให้ฟังต่อจากนั้น
“เฮียมาไม่ทันฟังบรรยายของน้องส้นเข็มผู้ตรงต่อเวลาเลยว่ะ เลยอดเลย เสื้อน้องเขานะ คอลึกจนกูฟังไม่รู้เรื่องเลยเว้ย”
ปัณณวัฒน์ส่งเสียงอย่างหนึ่งที่ฟังรู้ว่าเขากำลังไม่พอใจ ก่อนจะตวัดแขนออกไปยังสุธี ทำท่าคล้ายจะขอเอกสารเมื่อครู่ บรมวุฒิหลบวูบแทบไม่ทัน ญาติผู้น้อง เหมือนแกล้งตนมากกว่าจะเอาเอกสารจริง ๆ ไปอ่านดู พอหลบแล้วบรมวุฒิจัดเสื้อใหม่ด้วยกิริยาแก้เก้อแล้วพูดต่อ “วันนี้พี่มาฟังรายละเอียดให้แล้วนะ ส่วนที่ต้องลงไปดูหน้างาน นายต้องลงไปเองนะเว้ยน้องต้นปัณ”
ปัณณวัฒน์มองสบตาตอบบรมวุฒิอย่างเซ็ง ๆ “รับงานแล้ว ทำไมไม่จัดการให้เรียบร้อย”
“พี่นัดฟูลมูนกับสาว ๆ ไง เลยไม่ได้ไปว่ะ ซอรี่ ๆ นะ”
ปัณณวัฒน์ส่ายหน้าทำนองจะด่าว่าไม่เอาไหน แม้จะอายุมากกว่าแต่บรมวุฒิวุฒิภาวะน้อยกว่าปัณณวัฒน์เกือบครึ่ง แล้วเอ่ยขอสุธี ถึงเอกสารรายงานเมื่อครู่นี้เพราะตามมาไม่ทัน เขารับไปอ่านดูคร่าว ๆ ก่อนจะถูกญาติผู้พี่อย่างบรมวุฒิลากออกจากห้อง เพื่อไปนั่งผ่อนคลายด้วยกันที่ผับหรูกึ่งโรงอาบน้ำสำหรับผู้ชาย ที่เป็นหนึ่งในกิจการของเสี่ยเรวัติ พ่อของปัณณวัฒน์เอง