“ไม่สูบหรอก ว่าจะออกไปคุยโทรศัพท์” ฉันโกหกหน้าตาย ฉันไม่ได้จะออกไปคุยโทรศัพท์หรอก แค่จะไปสังเกตการณ์อีบอส ฉันรู้ว่ามันไม่กล้าพุ่งสุดตัวตอนที่รู้ว่าฉันอยู่ แต่ถ้ามันเมา ก็ไม่แน่ สันดานอีบอสก็ใช่จะไว้ใจได้
“เดี๋ยวเราไปด้วย ว่าจะสูบบุหรี่สักหน่อย” เนสท์ว่าก่อนที่จะหันไปใช้แขนแหวกทางให้ฉันเดินอย่างสะดวก ไม่มีผู้ชายหน้าไหนสามารถเต้นเบียดเข้ามาโดนตัวฉันได้เลย มีความสุภาพบุรุษอย่างที่อีบอสไม่เคยมี
ฉันกับเนสท์เดินหลบคนเมาและคนที่เต้นไม่ลืมหูลืมตาจนออกไปด้านนอกที่เป็นโซนสูบบุหรี่ มีที่นั่งพักอยู่หลายที่ เสียงเพลงข้างในดังออกมาแต่ไม่ดังมากนัก พอเดินพ้นประตูคลับ ฉันก็กวาดสายตามองหาอีบอสทันที
มันนั่งอยู่บนโซฟาสีขาว โดยที่มีผู้หญิงตัวเล็กนั่งข้างๆ ซบไหล่มันอยู่ แถมมือเธอยังซุกซนเกาะกอดเอวอีบอส ทำหน้ามึนเมาจนฉันกลอกตา อีบอสคีบบุหรี่ด้วยมือซ้าย ทำหน้าเฉื่อยชาเพราะยังไม่รู้ชะตากรรม
“เราเจอคนรู้จักพอดีเลย นั่งสูบกับเค้าก็ได้” ฉันบอกเนสท์แล้วหมุนนิ้วชี้ไปที่อีบอส เราสบตากันพอดี อีบอสชะงักนิดๆ แต่ไม่แสดงอาการตื่นตูมอะไร เพราะมันเห็นฉันเดินออกมากับผู้ชายด้วยมั้ง
“ไปดิ” เนสท์ว่าแล้วเดินตามฉัน ฉันพาเขาไปนั่งลงตรงข้ามโซฟาของแฟนตัวดีที่มีชะนีคลอเคลียอยู่ตรงไหล่ ทันทีที่หย่อนก้นลงฉันก็ยกเท้าขึ้นมาไขว่ห้างให้ปลายตีนชี้ไปที่หน้ามัน เผื่อมันจะสำเหนียก
มันทำเป็นนิ่ง แล้วกวาดสายตามองเนสท์ตั้งแต่หัวจรดเท้า หน้าตายังไม่สำนึกผิดนัก คงคิดว่าฉันมากับผู้ชาย มันมากับผู้หญิง ความผิดก็คงเท่ากัน แถมวันนี้ตกลงกันแล้วว่าจะไม่อะไรทั้งคู่
“เนสท์ นี่บอส บอส นี่เนสท์” ฉันแนะนำตัวแบบไม่แนะนำสถานะแล้วมองหน้าผู้หญิงตัวน้อยที่ซบไหล่อีบอสอยู่ หมุนตีนชี้ไปที่หน้านางอย่างช้าๆ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหวาน “ว่าแต่เธอชื่ออะไรเหรอ หน้าตาน่ารักจัง”
“เราหรอ เราชื่อเมจิ”
“เหรอ เราชื่อเบสท์นะ ยินดีที่ได้รู้จัก” ฉันว่าก่อนจะมองอีบอสนิดนึง วันนี้เราตกลงกันว่าโสดก็จริง แต่อีนี่ก็ถึงเนื้อถึงตัวไปนิดนะ ถ้าฉันไม่ออกมาไม่รู้ว่าจะล้วงกันไปถึงไหนต่อไหน ตอนนี้มืออยู่ที่เอว ถ้าฉันหันหลังไปอาจจะอยู่ใต้เอวละมั้ง
“ดูบอสจะสนิทกับเธอจังนะ” ฉันยักคิ้ว “เราขอสนิทกับเธอด้วยคนได้ปะ”
“ดูบอสจะสนิทกับเธอจังนะ” ฉันยักคิ้ว “เราขอสนิทกับเธอด้วยคนได้ปะ”
“ได้ดิ” เมจิยิ้มแล้วยื่นมือมาทางฉัน และเราสองคนก็ได้ทำการเชคแฮนด์กันอย่างเรียบง่ายภายใต้รอยยิ้มเสแสร้งของฉัน “เธอสวยจัง เราอิจฉา”
เมจิชมแล้วก็เริ่มไถลซบอีบอสมากขึ้น
“กินเยอะแน่เลย มึนหัวจัง”เสียงเธอเอ่ยขึ้นในขณะที่กบาลไถลเข้าไปในซอกคออีบอสแล้ว ฉันมองนิ่งแล้วเบ้ปาก
แหม สเตปนี้ฉันก็เคยทำ สภาพนี้เค้าไม่เรียกเมาย่ะ เค้าเรียกอ่อย
“ขี้เมานะเรา” อีบอสหัวเราะแล้วมองหน้าฉันเหมือนกำลังสนุกที่ได้ยั่วโมโหฉัน พอฉันจ้อง มันก็ทำท่าเหมือนจะบอกว่า มันไม่ได้ทำอะไร ผู้หญิงมาอ่อยเองตะหาก
ได้!!!
“เราก็มึนๆ เหมือนกัน” ฉันแกล้งยกมือป้องหน้าผาก พลางถอนหายใจทำให้เนสท์ที่อยู่ใกล้ๆ หันขวับแล้วเอามือมาลูบหัวด้วยท่าทางเอ็นดู
“โอเคมั้ย กลับบ้านก่อนเปล่า เราไปส่ง”
คราวนี้อีบอสตาขวางบ้างแล้ว ว้ายยยย คิดว่ากวนประสาทเป็นคนเดียวเหรอฮะ
“มึนห่าไรละคะ ปกติเบสท์กินเหล้าแทนน้ำเปล่า คนอื่นเขากินทีละแก้ว เบสท์แดกทีละขวด” อีบอสแกล้งใส่ร้ายฉันก่อนจะปาก้นบุหรี่ใส่กบาลฉัน
“ใช่หรอ” เนสท์หัวเราะแล้วขยี้หัวฉัน อีบอสเบ้หน้า
“อือ” เมจิส่งเสียงอ่อยๆ แล้วแกล้งทำเป็นหลับในซอกคออีบอส
“ไหวเปล่าเธอ เราไปส่งกลับบ้านไหม” อีบอสกระตุกคิ้วพร้อมรอยยิ้มเหี้ยๆ เอาคืนฉันบ้าง
“เราไม่อยากรบกวนเลย” เธอพูดเสียงออดอ้อนแล้วตามด้วยครางอือในลำคอ
แหม่ ไม่อยากรบกวนแต่มึงซุกซอกคอเค้าแล้วน้า อีคุณเมจิ!
“เราก็ว่าน่าจะรบกวนนะ ช่วงนี้ ไม่ค่อยมีเงินไม่ใช่หรอบอส แท็กซี่แถวนี้เหมากลับสี่ร้อยอัพตลอดนะ แกคงไม่พาคนเมาขึ้นรถเมล์ใช่เปล่า” ฉันเตะตัดขามันอย่างโหดเหี้ยม
“สี่ร้อยเราจ่ายได้น่า เพื่อความปลอดภัยของผู้หญิง”
ฉันกลอกตาให้กับการวางท่าป๋าเปย์ของมัน
เหรอๆๆๆ สี่ร้อยมันจ่ายได้แต่ค่าก๊วยเตี๋ยวกูสี่สิบมึงยังไม่จ่ายเลยนะอีบอส!
“แล้วเนสท์ไปไหนต่อเหรอ” ฉันเบะปากใส่มันก่อนจะหันไปถามคนข้างๆ เสียงหวาน เนสท์ไหวไหล่
“ไปส่งเธอไง แล้วเราก็กลับบ้านแหละ”
“ไปส่งเบสท์ที่บ้าน ไม่กลัวเจอผัวเบสท์ยืนถืออีโต้รออยู่อ่อ” อีบอสพูดกลั้วหัวเราะเหมือนเรื่องตลก “มีแฟนแล้วก็บอกเค้าไปดิ ไปอ่อยเค้าไมอ่ะเธอ นิสัยไม่ดีน้า กลับบ้านผัวตบกบาล ไม่คุ้มหรอก”
“เบสท์มีแฟนแล้วเหรอ?” เนสท์หันขวับแล้วเม้มปากเล็กน้อย