หญิงสาวถึงกับตัวสั่น รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วกายสาว จิ๊มิเต้นตึก ๆ ตัก ๆ เมื่อได้สบตาร้อนแรงของสามีทางนิตินัย เธอเขินบิดตัวเป็นเกลียว แก้มแดงเปล่งปลั่งอย่างห้ามไม่อยู่ หลังจากคิดไปไกลว่าคืนนี้จิ๊มิแสนบริสุทธิ์จะได้ใช้งาน แต่ความหื่นเอ๊ยความคิดของเธอกลับพังทลายเมื่ออินทิวาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบบอกว่า คืนนี้เขาจะนอนบนโซฟา
“พี่อินจะไปนอนบนโซฟา!” เธออุตส่าห์จินตนาการ เสียงคราง เสียงร้อง เสียงเตียงดังเอี๊ยด หายไปในพริบตาเดียว เหมือนลูกโป่งที่ลอยอยู่ในอากาศโดนเข็มจิ้มแล้วแตกดังโพละ
“ใช่ ผมจะไปนอนบนโซฟา” น้ำเสียงของเขาเย็นยะเยือกราวกับไม่ได้คิดอกุศล เป็นคนดีศรีสังคมไม่มีความหื่นอยู่ในสมอง ทั้งที่ความจริงเจ้าโลกกำลังขยายตัวพร้อมออกศึก
“แต่คืนนี้ เราต้องเข้าหอกันนะคะ” เธอย้ำอีกครั้งเผื่อเขาจะลืม นี่คือคืนเข้าหอเชียวนะ อินทิวาจะไม่ยอมเสียตัวให้เธอเลยเหรอ หรือเขาจะให้เธอเสียตัวก็ได้ นาทีนี้เธอพร้อมมาก จิ๊มิกำลังบอกว่า ช่วยจิ้มหนูหน่อย หนูอยากโดนจิ้ม
“ผมจะไม่แตะต้องคุณหนูอลิซ แม้แต่ปลายนิ้วก้อย”
อินทิวาเอ่ยชัดถ้อยชัดคำสวนทางกับแววตาและความต้องการของร่างกาย ก่อนจะหมุนตัวหันหลังแล้วเดินไปนั่งบนโซฟา อลิซได้แต่อ้าปากหวอทำอะไรไม่ถูกก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ
คืนเข้าหอไม่ได้เข้าหอก็ไม่เป็นไรเพราะวันอื่นยังมี อย่างไรเสียอินทิวาต้องเป็นคนแรกที่ได้จิ้มจิ๊มิของเธอ
คิดได้อย่างนั้นมุมปากจึงมีรอยยิ้มออกมาราวกับนางร้าย แล้วหญิงสาวก็หายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย วันนี้เหนื่อยล้ามาทั้งวัน เธอหมดแรงที่จะอ่อยเหยื่อให้กินเบ็ดแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
ทางด้านคนปากไม่ตรงกับใจหลังจากเดินมานั่งบนโซฟาเรียบร้อย ก็ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างช้า ๆ ยุบหนอ พองหนอ ท่องวนไปเพื่อเตือนสติตัวเองไม่ให้เผลอไผลไปกับความเย้ายวนของภรรยาทางนิตินัย แม้แต่งงานกันแล้วแต่เขาจะไม่เอาเปรียบเธอเด็ดขาด เขาสัญญาจะไม่แตะต้องคุณหนูอลิซแม้แต่ปลายนิ้วก้อย
“ไม่ได้ เราจะคิดอกุศลกับคุณหนูอลิซไม่ได้”
“มึงต้องใจเย็นไอ้อิน”
“ตั้งสติ ยุบหนอ พองหนอ”
อินทิวาเตือนสติตัวเองแต่หารู้ไม่ว่าคำสัญญาที่คิดเอาไว้จะถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของเขาเองในอีกไม่นาน
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงชายหนุ่มก็ค่อย ๆ ย่องเข้ามาในห้องนอนที่แยกออกจากห้องนั่งเล่น เขาเปิดและปิดประตูอย่างเบามือ ก่อนจะก้าวไปยืนอยู่ตรงปลายเตียงแล้วเหลือบไปมองตรงถุงยาที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
“นึกว่าจะดื้อไม่ยอมทายา” เขาเอ่ยเบา ๆ แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเอ็นดู
“นอนนิ่ง ๆ แบบนี้ก็น่ารักเหมือนกัน” พูดจบก็เอามือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ พูดแบบนั้นไปได้อย่างไร แต่แล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อคนที่นอนหลับสนิทพลิกตัวจนเกือบจะตกเตียงทำให้อินทิวาต้องรีบเข้าไปคว้าตัว ด้วยความเหนื่อยล้าจากงานแต่งทำให้คุณหนูอลิซหลับสนิทไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังทำให้คนบางคนเป็นห่วง
“นอนด้วยก็ได้ ผมกลัวคุณจะตกเตียงหรอก” คนตัวโตให้เหตุผลหลังจากอุ้มคนนอนดิ้นไปไว้กึ่งกลางเตียงเรียบร้อย จากนั้นเขาก็หายเข้าไปในห้องน้ำแต่ไม่นานก็ออกมาเพราะกลัวภรรยาจะนอนตกเตียงอีก เดี๋ยวจะมีคนด่าว่าเขาเป็นสามีที่ไม่ได้เรื่องและพาลไปถึงคนในตระกูลมหาโชคดำรงวรกุล
อินทิวาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินมาที่เตียงทันที เมื่อเห็นว่าคุณหนูอลิซยังนอนอยู่ในท่าเดิมจึงเป่าปากด้วยความโล่งอก
แต่แล้วดวงตาของเขาก็โตเท่าไข่ห่าน ใจเต้นตึกตัก ๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลังจากเห็นคุณหนูอลิซถีบผ้าห่มออกทำให้ท่อนล่างโผล่ ขาทั้งสองข้างอ้ากว้างเหมือนตั้งใจยั่วสามีให้ตบะแตก แต่ก็ยังดีที่เธอใส่ชุดชั้นในนอนไม่อย่างนั้นอินทิวาต้องอกแตกตายแน่
“มีเมียหรือมีลูกกันแน่วะกู” คนโตกว่าหลายปีบ่นด้วยความอ่อนใจ ชีวิตของเขานับจากนี้ต้องมีสีสันแน่นอนโดยไม่ต้องเดาให้เสียเวลา แค่คืนแต่งงานก็เจอกับความตื่นเต้นแล้วไม่อยากจะคิดถึงวันต่อ ๆ ไป
เขาคิดก่อนจะเอามือขึ้นมาปิดดวงตาแล้วค่อย ๆ คลำหาชายเสื้อนอนของเธอ เพื่อดึงลงมาปกปิดขาอ่อนที่กำลังกระตุ้นความหื่นของเขา
“เชี่ยยยยย” อินทิวาสบถหลังจากมือไปสัมผัสโดนโหนกนูนของคุณหนูอลิซอย่างไม่ตั้งใจ เขาจึงตัดสินใจดึงผ้าห่มปกปิดร่างกายของเธอแทน แล้วรีบอ้อมไปอีกข้างก่อนจะล้มตัวลงนอน
ตากำลังจะปิดสนิทกลับต้องเบิกกว้างอีกครั้ง เมื่อภรรยาในนามเข้ามากอดตนเองทั้งตัว แถมยังเอาขาเรียวสวยมาก่ายอีกต่างหากทำเหมือนเขาเป็นหมอนข้างก็ไม่ปาน
“อื้อ อย่าขยับสิคะ อึนอูอปป้า” แม่คนคลั่งดาราเกาหลีหลุดปากเรียกชื่อพระเอกในดวงใจ แต่อินทิวาไม่รู้จักจึงขมวดคิ้วเป็นปม
‘ไอ้คนชื่ออึนอูอปป้าคือใคร’
พรุ่งนี้เขาต้องถามเธอให้กระจ่างและบอกให้เธอตัดสัมพันธ์กับมันซะเพราะต่อจากนี้ไปอีกหนึ่งปี อลิซต้องเป็นเมียของอินทิวาคนเดียวเท่านั้น