ราวกับรู้ทันความคิดวันนี้มีพวกวัยรุ่นขี้เมานั่งกินเหล้าอยู่หน้าทางเข้าบ้าน น้ำอิงกะว่าจะมาเอาเสื้อผ้าแล้วกลับไปที่โรงพยาบาลเท่านั้น ปกติพวกเขาจะกินแล้วหลับตรงนี้ไม่ก็ไปกินที่อื่นเนื่องจากต้องหลบสายตรวจไม่คิดเลยว่าวันนี้เลิกงานไวจะมาเจอพวกเขา
“ถอยไปนะ”
“ทางมันเปลี่ยว ให้พวกพี่เดินไปเป็นเพื่อนมั้ยละน้องน้ำอิง คิดค่าเดินไปส่งคนละยกสองยกแค่นั้นเอง” ไม่ทันได้ปฏิเสธชายวันรุ่นขี้เมาสามคนก็ปรี่เข้ามาล็อคแขนของเธอเอาไว้คนละข้าง คนหนึ่งจับกระเป๋าของเธอออก อีกคนจับแขนเธอเอาไว้ด้านหลัง ตั้งใจจะลากหญิงสาวให้เข้าไปในตรอกมืดข้างร้านคาราโอเกะให้ได้
“ทุเรศ! ปล่อยนะ ช่วยด้วย!!!” น้ำอิงขัดขืนสุดกำลังคว้ากระเป๋าของเธอได้ ก่อนจะใช้กระเป๋าที่มีแก้วน้ำที่ใส่น้ำจากคลับมาจนเต็มฟาดไปที่หัวของหนึ่งในสามจนมันล้มคะมำ อีกสองคนตกใจเผลอปล่อยแขนของเธอจนเป็นอิสระ เมื่อพบทางหนีน้ำอิงวิ่งลัดเข้าตรอกหนีมาอย่างไม่คิดชีวิต
แต่สามคนที่วับขาวิ่งมาไวกว่า ก็ตามมาจนทันและผลักเธอจนล้มลง
“มานี่!”
มันกระชากเธอก่อนใส่หมัดหนักเข้าไปที่ท้องของเธอจนหญิงสาวตัวงอ เสื้อตัวยาวที่เธอใส่มาหลุดออกทำให้เห็นซับในสีขาวที่ปกปิดไว้อีกชั้น ชายทั้งสามมองเธอด้วยสายตาลวนลามก่อนจะเลียปากตัวเองอย่างน่าเกลียด
“ยะ อย่านะ…” เสียงแผ่วเบาของน้ำอิงดังขึ้น
“สวยจัง…วันนี้เป็นเมียพวกพี่สักครั้งเถอะนะ.... รับรองว่าพวกพี่จะเอาให้น้องน้ำอิงสุขจนลืมผัวที่บ้านเลย!” หนึ่งในสามคนพ่นคำน่ารังเกียจ
น้ำอิงที่ถูกฟาดด้วยแรงชายก็ตะเกียกตะกายพาร่างของตัวเองคลานหนีอสูรกายอย่างทุลักทุเล ไปได้ไม่ไกล ขาของหญิงสาวก็ถูกลากครูดกับพื้นกลับมานอนที่เดิมยังดีที่กางเกงที่เธอใส่เป็นกางเกงยีนส์จึงไม่ได้รู้สึกเจ็บสักเท่าไหร่
“ปล่อย...ฉันไปเถอะนะ อยากได้เงินฉันจะเอาให้ปล่อยฉันไปก็พอ” ร่างกายอ่อนยวบยาบไร้แรงที่จะขัดขืน แขนสองข้างของเธอถูกกางออกก่อนหน้าคนใจชั่วจะก้มลงดมต้นคอของเธอน้ำอิงทั้งร้องไห้และอ้อนวอนพวกอันธพาล แต่ไร้ผล พวกเขาก็ไม่ยอมเลิกรา
“พี่ปล่อยหนูไปเถอะนะ…” เธอขอร้องเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลิ่นเหม็นบูดเหล้าเตะเข้าจมูกของเธอทำเอาเธอปวดหัวตุบๆ
“โอ้ย!” อยู่ดีๆชายคนที่กำลังจะกระทำมิดีมิร้ายกับหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายก็ถูกแรงปริศนาเตะจนตัวกระเด็นออกไป ก่อนที่ชายอีก 2 คนจะโดนแรงเตะปะทะเดียวกันจนร่างกายสะบักสะบอม ไม่นานสามคนที่สู้แรงชายคนเดียวไม่ได้ก็รีบวิ่งหนีไป
“ธัน” น้ำอิงลุกขึ้นมองหน้าเพื่อนหนุ่มที่อยู่ในชุดตำรวจ ธันเป็นตำรวจสายตรวจที่ตรวจตราอยู่แถวนี้ประจำ น้ำอิงมองชายวัยรุ่นสามคนถูกตำรวจที่มากับเพื่อนของเธอจับไปแล้วเนื่องด้วยพวกเขานั่งดื่มเหล้าและเสพยา ซึ่งยังไม่ได้เก็บหลักฐานจึงมีหลักฐานมัดตัวแน่น
“ไม่เป็นไรแล้ว กลับกันเถอะอิง เดี๋ยวเราไปส่ง”
เขาประคองน้ำอิงพร้อมกับถือกระเป๋าให้เธอก่อนจะพาเธอเดินมาส่งที่บ้าน ท่ามกลางความมืดมีแสงไฟสลัวจากเสาไฟเก่าๆติดบ้างดับบ้างตลอดทาง ธัญที่มีความเป็นสุภาบุรุษไม่แม้แต่จะแตะต้องตัวน้ำอิง จะแตะตัวน้ำอิงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ก่อนจะถอดเสื้อตำรวจของเขาคลุมไหล่เพื่อปกปิดเสื้อที่ขาดของเธอไว้ก่อน และธันบอกเพื่อนๆตำรวจของเขาว่าเขาขอไปส่งน้ำอิงก่อนจะตามไปที่โรงพัก
“ขอบใจนะ”
“จะบอกป้านุชดีไหม เรื่องเมื่อกี้หรือถ้าจะไปแจ้งความเราไปเป็นเพื่อนได้นะ มันจะได้ติดคุกกันยาวๆนอกจากเรื่องยาเสพติดถ้ามีคดีนี้เข้าไปมันดิ้นไม่หลุดแน่”
“ไม่ๆอย่าบอกแม่นะ ตอนนี้แม่กำลังรักษาตัวอยู่อิงไม่อยากให้แม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวอาการทรุด ส่วนเรื่องแจ้งความเราคงไม่ไปหรอกเราไม่มีเวลาไปทำเรื่องยุ่งยากแบบนั้น เอาเป็นว่าต่อไปเราจะระวังตัวเองละกัน ขอบใจธันที่มาช่วยอิง...ธันกลับไปได้แล้วล่ะเดี๋ยวพ่อจะมาเห็นเข้า” อิงบอกเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอให้รีบกลับไปเพราะพ่อของเธอไม่ชอบเพื่อนคนนี้เอาซะเลย เขากลัวว่าธันจะมาจีบลูกสาวของเขารังเกียจที่ธันมีฐานะไม่ได้ร่ำรวยแล้วยังไม่ชอบที่ธันเป็นตำรวจอีกด้วย เพราะว่าธันเคยบุกจับพ่อคาบ่อนนั่นเอง
“อืม…บาย”
น้ำอิงยืนส่งธันจนเขาเดินลับหายไปในซอยที่เป็นบ้านของเขา ก่อนจะเดินเข้าบ้านสายตาเหลือไปเห็นรถที่ไม่คุ้นตาจอดอยู่ไกลๆแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรก่อนจะเดินเข้าบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะได้ไปหาแม่ที่โรงพยาบาลต่อ
“มีแฟนอยู่แล้วด้วยเหรอ ไอ้หน้าจืดนั่นรู้หรือเปล่านะว่าเธอทำงานอะไร...หึ” ชายในชุดสูทสีเทาดูดีบ่นพึมพำภายในรถเก๋งสีดำหรูคันนั้น เขามองเห็นทุกเหตุการณ์ตั้งแต่หญิงสาวลงจากรถแล้วยังเกือบโดนผู้ชายลากไปข่มขืน เกือบจะใจอ่อนลงไปช่วยแต่เห็นว่ามีคนมาช่วยเอาไว้จึงยังนั่งมองอยู่เฉยๆเช่นเดิม
ศิลากัดกรามแน่นด้วยความขุ่นเคือง ออกคำสั่งกับลูกน้องให้ขับรถกลับบ้านทันที
“พรุ่งนี้จัดการเรื่องที่ฉันบอกไปให้มันเรียบร้อย…ฉันต้องการคำตอบให้เร็วที่สุด” ชายหนุ่มพูดขณะเหม่อมองไฟสีส้มที่แขวนอยู่ตามทางระหว่างที่รถกำลังเคลื่อนที่
“ครับนาย”
“แม่…แม่ครับผมอยู่นี่...” ศิลารีบวิ่งเข้ามาดูอาการของผู้หญิงวัยกลางคนที่นอนป่วยอยู่บนเตียง เธอร้องโวยวายเสียสติหลังจากที่สามีของเธอหายไป เธอก็เอาแต่คิดถึงเขาจนไม่เป็นอันทำอะไรซ้ำยังทำให้ร่างกายเครียดจนป่วยเกือบตายอีก
ศิลารัตน์ที่เวทนาแม่ผู้ให้กำเนิด เขาเฝ้าตามหาผู้เป็นพ่อมาตลอด กระทั่งไม่นานเขาได้รู้ความจริงว่าพ่อแอบเลี้ยงดูเด็กไว้ วางแผนหายตัวไปจากบ้านต่างๆนานาเพื่อที่จะไปอยู่กลับเด็กสาวคนนั้น อันที่จริงศิลารัตน์ตั้งใจเก็บความลับนี้เอาไว้คนเดียว แต่แม่ของเขาดันมารู้ซะก่อนจึงทำให้อาการป่วยกำเริบ เฝ้าเรียกหาแต่ผู้ชายใจร้ายคนนั้นอยู่ตลอดเวลาจนเขาต้องไปตามตัวกลับมาให้ได้
ส่วนหญิงสาวที่เขาไปเจอในวันนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน น้ำอิง ผู้หญิงที่ยืนกอดหน้าระรื่นอยู่กับพ่อของเขาก่อนทั้งคู่จะขึ้นไปบนโรงแรมด้วยกัน วันนั้นเขาเห็นกับตา ความแค้นจึงก่อเกิดขึ้นมาตั้งแต่วันนั้น เขาจึงวางแผนให้เธอกลายเป็นสาวน้อยผู้โชคร้าย พ่อที่ติดการพนันเพราะแผนการที่เขาวางไว้ ติดเหล้าและติดหนี้ ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือเขาทั้งหมด เพื่อที่จะบีบไก่น้อยตัวนี้ให้เข้ามาอยู่ในกำมือของเขา แผนการที่แก้แค้นเธอนั้นกำลังเริ่มแล้ว
พ่อทิ้งแม่ไปและแม่ตกอยู่ในสภาพนี้จากที่เคยเป็นนักธุรกิจสาวสวยรวยเสน่ห์แล้วใครกันที่จะเจ็บที่สุดเมื่อเห็นแม่ของเขาเป็นได้ถึงขนาดนี้…ถ้าไม่ใช่ลูกชายของเธอ
“ศิลาพาแม่ไปหาพ่อที....แม่คิดถึงพ่อ” เธอร้องไห้คร่ำครวญกอดลูกชายของเธอจนเขาต้องให้หมอมาฉีดยาให้เธอถึงหลับไปให้หายจากความเจ็บปวด
“ฉันจะทำให้เธอได้เจ็บมากกว่าที่แม่ฉันได้รับอยู่ตอนนี้ น้ำอิง…”