ฉันหนีออกจากห้องนอนเขามานั่งรอที่โซฟาเหมือนเดิม ตอนนี้ก็บ่ายแก่ๆ แล้ว นี่เรานอนยาวกันขนาดนี้เลยเหรอ อย่างว่านอนที่นอนเขาเหมือนโดนดูด หลับสบายเลย
แต่นี่ก็เลยเที่ยงมานานละ ยังไม่ได้กินข้าวเลย เริ่มจะหิวแล้วสิ ฉันกวาดสายตาไปทั่วห้องของเขาเพื่อหาอะไรที่พอจะกินได้ จนเจอกับตู้เย็นที่ตั้งอยู่โซนครัว เมื่อเห็นเป้าหมายแล้ว ฉันก็ลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เย็นทันที แต่พอเปิดออกมากลับไม่มีสิ่งใดที่เรียกว่าเป็นของที่จะประทังชีวิตฉันได้เลย นอกจากเบียร์ที่เต็มไปหมดทุกชั้น นี่เขาไม่คิดจะทำอะไรกินเองเลยรึไง
ฉันค้นตู้เย็นทุกซอกทุกมุม จนได้น้ำเปล่ามาแค่หนึ่งขวด โอเค นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ฉันจะกินได้ หลังจากที่เทน้ำเปล่าเพียงขวดเดียวที่มีอยู่ในห้องเขาดื่มแล้ว ฉันก็กลับมานั่งหงอยรอเขาที่โซฟาเหมือนเดิม
นั่งเล่นโทรศัพท์รอเขาไปได้สักพัก เขาก็เดินออกจากห้องนอนมาด้วยสภาพที่...เอ่อ...ใส่กางเกงขายาวตัวเดียวและเปลือยท่อนบน บนตัวของเขามีหยดน้ำเกาะพราวคงเป็นเพราะอาบน้ำมา
หยดน้ำที่หยดลงมาจากผมของเขาทำให้เขาดูเซ็กซี่ขึ้นไปอีก แถมยังเดินเข้ามาหาพร้อมกับสะบัดผมเพื่อไล่น้ำออกจากผมเปียกๆ ภาพที่ฉันเห็นตอนนี้เหมือนกับภาพสโลว ทุกอย่างดูเชื่องช้าจนทำให้ตาค้าง ร่างกายกำยำของเขาไม่ได้ผอมบางอย่างที่คิด แต่กลับเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเหมือนกับคนออกกำลังกาย แต่ก็ไม่ได้มีมากจนน่าเกลียด
ต้นแขนข้างขวาของเขามีรอยสักอาร์ตๆ เป็นเหมือนงานศิลปะชั้นเลิศ ยิ่งเพิ่มความแบดบอยให้เขาไปกันใหญ่ ฉันไม่เคยเห็นมันมาก่อน ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าเขามีรอยสัก มันไม่ได้น่าเกลียดสำหรับฉัน แต่มันยิ่งทำให้เขาดูน่าหลงใหลไปอีก นอกจากยังไม่อายกับการที่เห็นเขาเปลือยท่อนแล้ว
ฉันยังมองมันด้วยสายตาจาบจ้วง ฮือออออ ฉันต้องเขินอายเหมือนในนิยายที่เห็นพระเอกถอดเสื้อสิ ไม่ใช่จ้องเอาๆ แบบนี้เสียภาพพจน์หมด
“มองอะไร หื่น” เขาเดินจนมาถึงตัวฉันแล้วก็โยนผ้าขนหนูผืนเล็กที่เขาใช้เช็ดผมเมื่อกี้มาใส่ฉัน เป็นเพราะเขาเห็นฉันจ้องแน่ๆ ถึงได้บอกว่าฉันหื่น อือ ยอมรับ หรือเธอจะไม่มองเวลามีผู้ชายหุ่นดีๆ มายืนเปลือยท่อนบนให้ดูต่อหน้า
“เปล๊า” ฉันปฏิเสธเขาไปด้วยเสียงที่สูงกว่าปกติแต่เรื่องอะไรจะยอมรับ
“หึ เด็กน้อยขี้โกหก” เขาว่าพร้อมกับนั่งหันหลังลงที่พื้นตรงหน้าฉัน ตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนโซฟา ก็เท่ากับว่าเขานั่งอยู่ต่ำกว่าฉัน
“ใครโกหก”
“เธอไง เช็ดผมให้ด้วย” เขาเอนตัวพิงมาด้านหลังและเงยหน้าพูดกับฉันที่นั่งอยู่เหนือกว่าเขา
คือที่โยนมาใส่คือกะจะให้เช็ดผมให้ว่างั้น เนียนตลอดเลยนะคนนี้ เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่ห้องเมื่อกี้ และฉันก็ไม่ได้อยากจะพูดถึงอีกเหมือนกัน ไม่ใช่อะไรนะ มันเขิน
“หิวข้าว” ฉันไม่ได้เช็ดผมให้เขาตามที่เขาต้องการ แต่เปลี่ยนเป็นบอกถึงความต้องการของตัวเองก่อน
“เช็ดก่อน...เดี๋ยวพาไปกิน” เขาตอบกลับมาพร้อมกับต่อรองให้ทำในสิ่งที่เขาต้องการก่อน
โอเค ถ้าเช็ดแล้วไม่พาไปฉันจะกินหัวเขาแทน
“อยากกินเค้กด้วย” ฉันต่อรองเขากลับ กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่นะคะทุกคน
“กินเยอะ” เขาว่ามาด้วยน้ำเสียงที่ดูดุ เขาก็ทำเป็นดุไปงั้นแหละ พอเอาเข้าจริง เขาแทบจะไม่เคยขัดเวลาอยากกินอะไรด้วยซ้ำ มีบ้างที่ดุหน่อยเพราะฉันกินของหวานมากไป
“หรือจะไม่พาไป ให้คนอื่นพาไปก็ได้นะ” สิ้นคำพูดฉันเขาก็หันขวับมามองฉันตาขวางทันที กลัวแล้วค่า แหย่เล่นเฉยๆ
“ใคร!” ฉันล้อเล่นนะ
“ซูซี่กับยัยแพรวไง จะเป็นใครได้” ฉันทำหน้ามึนตอบเขาไป แล้วก็จับหน้าเขาให้หันกลับไปตามเดิม คอเคล็ดไปแล้วมั้งนั่น
“จะใครก็ไม่ต้อง เดี๋ยวพาไปเอง” หว่า เสียงตึงเชียว ผ่อนๆ บ้างก็ได้พ่อคู๊ณ เดินทางสายกลางน่ะ รู้จักไหม
“ค่า ไม่ไปกับใครหรอกไปกับพ่อนี่แหละ” ฉันพูดตกลงไปเพื่อให้อารมณ์เขาหายบูด ตอนนี้หน้างอคอหักมาก แหย่เล่นเฉยๆ ก็ไม่ได้ว่าแล้วก็หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมให้เขาสักที ก่อนที่จะเป็นปอดบวมตายซะก่อน ผมก็เปียกเสื้อก็ไม่ใส่แถมยังเปิดแอร์เย็นฉ่ำ ฉันที่ว่าเป็นคนขี้ร้อน ตอนนี้ก็เริ่มจะสั่นแล้ว
“อือ...พ่อ”
“…”
“พ่อทูนหัว” จ้ะ สถาปนาตัวเองเรียบร้อย ไม่ต้องให้ใครมาแต่งตั้ง
แล้วตอนนี้ฉันก็เช็ดผมให้เขาเรียบร้อยแล้วส่วนเขาก็กลับเข้าห้องนอนไปเพื่อใส่เสื้อผ้าให้มันเรียบร้อยกว่านี้ และนั่นก็เป็นเรื่องดี ที่เขาไม่คิดที่จะเปลือยท่อนบนออกไปพบปะผู้คนทั้งแบบนั้น
ซึ่งก็ไม่รู้จะแต่งตัวหล่อไปไหน นี่ก็เข้าไปนานละ อาบน้ำก็นานแต่งตัวก็นาน ฉันเป็นผู้หญิงแท้ๆ ยังไม่ใช้เวลานานเท่าเขาเลย
ก๊อก ก๊อกๆๆ
ใครกันมาเคาะห้องรัวขนาดนี้ ถ้ามากวนแม่จะด่าให้สามบ้านแปดบ้านเลย ฉันรีบสาวเท้าไปยังหน้าประตูทันที ขอดูหน้าสักหน่อยเถอะ แต่เอ๊ะ! ลืมไปนี่ไม่ใช่ห้องตัวเองนี่นา คิดได้ดังนี้ฉันก็หันตัวกลับเปลี่ยนทิศทางเดินไปทางห้องนอนเฮียทันที
“เฮีย มีคนมาเคาะห้อง” ฉันตะโกนบอกเขาอยู่หน้าห้อง ไม่ได้เข้าไปหรอกนะ กลัวไม่ได้ออกมา
“ใคร” อ้าว ถามฉันแล้วฉันจะไปถามใคร
“ไม่รู้ เฮียไปเปิดหน่อยสิ”
“ยังไม่เสร็จ ไปเปิดหน่อย” เขาโผล่ออกมาบอกและกลับเข้าไปแต่งตัวเหมือนเดิม นี่ยังไม่เสร็จอีกเหรอ แล้วให้ฉันไปเปิดเฉย ตัวเองเป็นเจ้าของห้องแท้ๆ
ในเมื่อเขาไม่ยอมไปเปิดประตู และฉันที่ทนต่อเสียงเคาะประตูไม่ไหว ก่อนที่ข้างห้องจะมาด่าเอา เลยรีบเคลื่อนไปยังประตูเพื่อขอดูหน้าคนที่มันเคาะทีเถอะ
ผ่าง!!
“เซอร์ไพรส์!!!” เออเซอร์ไพรส์จริง และคงจะเซอร์ไพรส์ทั้งสองฝ่ายเลยด้วย เพราะตอนนี้คนที่เคาะประตูรัวๆ และคนที่อยู่ตรงหน้าฉันคือกลุ่มเพื่อนของเฮียนั่นเอง มากันครบแก๊งเลยล่ะ ไม่เว้นแม้แต่พี่แบล็ค หน้าง่วงคนนั้นด้วย นี่มันวันรวมญาติหรืออะไร ทำไมมากันเยอะขนาดนี้
ราวกับรู้ว่ามาจะต้องเจอกับเรื่องเซอร์ไพรส์ ที่มีฉันอยู่ห้องเฮียด้วย ‘เธอมาได้ตรงวันพอดี อย่างกับรู้ใจ’ ขอยืมเพลงคุณมุก มาดัดแปลงเพื่ออรรถรสหน่อยแล้วกัน ฉันขอใช้วิชาหายตัว
“น้องซิน!!!”