แต่ทำไมความรู้สึกที่มีต่อชีคหนุ่มในยามนี้ มันถึงได้เกิดความประหม่ายิ่งนัก ประหม่ามากจนหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ แต่ทว่าความกลัวก็ไม่เลือนหายไปจากจิตใจ ความหวั่นไหวก็บั่นทอนแรงกำลังของเธอให้น้อยลงจนแทบไม่เหลือพลังกายจะต่อต้าน
อุ้งมือหยาบกร้านบีบเรียวคางให้เผยออ้า พร้อมกับสอดชิวหาที่แสนร้ายกาจเข้าไปสำรวจโพรงปากของเธอจนถ้วนทั่วอย่างกระหาย ลิ้นเล็กแม้พยายามจะหลบหนีแต่ก็ถูกลิ้นใหญ่ไล่ต้อนมาได้ทุกครั้ง และดูดดึงให้หัวใจของเธอพลิกคว่ำคะมำหงายไปหลายตลบ จนหายใจหายคอแทบไม่ทัน
จุมพิตที่แสนดูดดื่มเร่าร้อนราวกับจะสูบวิญญาณออกจากร่าง ทำให้ร่างบางยืนแทบไม่ติดพื้น และทำท่าจะทรุดลงไปตรงหน้าหลายครั้งหลายคราหากท่อนแขนแข็งแรงกำยำไม่โอบกระชับเอาไว้ เขาทั้งป่าเถื่อน ทั้งดุดัน บีบบังคับให้สาวน้อยด้อยประสบการณ์รักต้องคล้อยตามไปอย่างไม่อาจฝืน
แล้วความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆ ในพื้นที่ว่างของหัวใจ
ชีคหนุ่มมิได้ซาดิสม์รุนแรงจนเธอรับไม่ได้ เขาเพียงแค่กำลังพยายามทำให้เธอหลอมละลายด้วยอ้อมกอดที่แสนเร่าร้อน และจุมพิตที่แสนวาบหวามที่สั่นสะท้านไปถึงจิตวิญญาณ แววตาคมกล้าที่สะท้อนความรู้สึกออกมาที่เธอเห็น เต็มไปด้วยเพลิงพิศวาสเข้มข้น จนเธอไม่อาจที่จะทัดทานได้ มันร้อนแรงดุจเปลวไฟ และมันก็พัดโหมราวกับพายุที่โอบล้อมรอบตัวเธอ
“อย่าเพคะ...ท่านชีค ได้โปรด”
“สายไปแล้ว ฮาบิบตี้” ชีคหนุ่มตรัสลอดไรฟันออกมา ก่อนที่จะแทะเล็มไปทั่วขอบปากอิ่มสวยสีกุหลาบอีกครั้ง แล้วแทรกลิ้นร้อนๆ เข้าไปใหม่เพื่อปลุกไฟพิศวาสในร่างกายสาวให้ร้อนฉ่าเช่นเดียวกันกับพระองค์
ร่างกายนุ่มนิ่มที่แนบชิด ยิ่งกระตุ้นให้ชีคแห่งดาร์บูย่าปรารถนาที่จะประสานกายเป็นหนึ่งเดียวกับเธอเร็วขึ้น ขณะที่อารียาก็กำลังมึนเมาในรสจุมพิตที่แสนหวานจนใจแทบจะขาดรอน
ชีคหนุ่มส่งมอบความสุขให้เธอด้วยสัมผัสจากฝ่าพระหัตถ์ที่อ่อนโยนระคนวาบหวาม พระองค์ทรงลูบพระหัตถ์หยาบกร้านไปทั่วร่างบางพร้อมกับปลดเปลื้องชุดอาบาย่าออกจากกายสาวและชุดกาลาไบยาออกจากร่างกำยำขององค์เอง ลงไปกองกับพื้นอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงผ้าผืนเล็กไม่กี่ชิ้นที่ปกปิดความเป็นหญิงและความเป็นชายของทั้งสองเอาไว้
ชีควาคิลยันกายลุกขึ้นมองความสวยงามไร้ที่ติตรงหน้า ตั้งแต่นอนกับหญิงอื่นมาไม่เคยพบว่าหญิงใดจะสวยงามเทียบเทียมร่างสาวสะพรั่งงดงามผุดผาดตรงหน้านี่ได้เลย
ผิวขาวผุดผ่องดุจตุ๊กตาที่แกะสลักด้วยหินอ่อน ดวงหน้าสวยซึ้งทอดมองคราใดก็ยิ่งทำให้หัวใจเต้นรัวเรียกร้องต้องการหาแต่เธอ ทรวงอกสองข้างอวบอัดชูชันหลอกล่อให้พระองค์อยากเข้าครอบครองจนเนื้อเต้น หน้าท้องแบนราบไร้ไขมันชวนให้ลูบไล้ลามเลีย และดอกกุหลาบช่อโตที่นูนเด่นช่างน่าคลั่งไคล้ใหลหลงยากเกินที่จะถอนสายพระเนตรออกมาได้
“ฮาบิบตี้ เราต้องการครอบครองเจ้า”
ใบหน้าหวานที่แดงเรื่อดั่งผลเชอรี่ส่ายหน้าน้อยๆ ไปมาบนหมอน อยากจะปฏิเสธแต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะต่อต้าน เธอกำลังพ่ายแพ้ให้แก่สายพระเนตรที่ราวกับมีมนต์ขลังตราตรึงเธอให้มองสบตาพระองค์ แววตาชื่นชมที่เต็มไปด้วยเพลิงเสน่หา คล้ายจะเผาผลาญความคิดดื้อดึงของเธอให้หลอมละลายลงช้าๆ และพระพักตร์ที่หล่อเหล่าดั่งนักรบเทพเจ้ากรีกที่ก้มต่ำลงมา ก็ทำให้อารียาแทบกลั้นหายใจ
“อย่า! อย่าทำหม่อมฉันเลยเพคะ” ร่างบางที่ถูกตรึงไว้อย่างแน่นหนายังคงดิ้นรนเล็กน้อย เท่าที่จะมีแรงขัดขืน
“อย่าดิ้นสิ ฮาบิบตี้ เก็บแรงของเจ้าเอาไว้ตอนที่เราประสานร่างกับเจ้าดีกว่า เราไม่อยากใช้กำลังบังคับเจ้ามากจนเกินไป จงยอมตามใจเราแต่โดยดีเถิด จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวมาก”
“แต่ว่า มะ...” คำว่าหม่อมฉันและคำประท้วงถัดไปไม่มีโอกาสได้เอ่ยออกมาอีกแล้ว เมื่อพระโอษฐ์หยักสวยได้รูปไม่ปล่อยให้ริมฝีปากบางอิ่มที่เริ่มบวมเจ่อเล็กน้อยได้เอ่ยคำใดออกมาอีก นอกเสียจากเสียงครวญครางด้วยความสุข
“อื้อ...” เสียงเล็กเริ่มครางออกมาเบาๆ ในลำคอ เมื่อพบกับความซาบซ่านที่เริ่มก่อตัวขึ้นบนเรือนกายอีกครั้ง
ผิวกายเปลือยเปล่าที่เสียดสีทำให้ร่างกายของชีคหนุ่มร้อนระอุยิ่งกว่าทะเลทรายในยามกลางวันเสียอีก แต่ความเร่าร้อนนั้นก็มิได้ทำให้ผิวขาวของเนื้อสมันสาวมอดไหม้มัวหมองแต่อย่างใด แต่ความร้อนผ่าวจากกายทั้งสองทำให้ไฟปรารถนาลามเลียจนทั่วกายสาวที่ขาวผ่อง ผิวพรรณของคนใต้ร่างแดงระเรื่อเต็มไปด้วยเลือดฝาดสาวน่ามองมากยิ่งขึ้น
ชีคหนุ่มอยากสำรวจความงดงามน่าค้นหานั้นมากขึ้นไปอีก พระวรกายหนาจึงเลื่อนต่ำลงพร้อมกับริมฝีปากร้อนๆ ที่ค่อยๆ เคลื่อนออกอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนที่จะพรมจูบไปทั่วดวงหน้า แล้วเลื่อนลงบนซอกคอขาวผ่อง พระองค์ทรงฝากรอยรักไว้เป็นจ้ำๆ สีแดงจางๆ อีกครั้งอย่างกระหาย พร้อมกับพระหัตถ์สองข้างที่ลูบไล้ไปทั่วร่างกายนุ่มเนียนผุดผาดนั้น
เปลวเพลิงขนาดย่อมเคลื่อนไปทุกที่ที่ฝ่าพระหัตถ์ทรงเคลื่อนผ่าน มันเสียวซ่านวาบหวามทุกครั้งเมื่อปลายนิ้วไล้วนไปตามจุดอ่อนไหวบนร่างที่กำลังสั่นสะท้าน แล้วอาภรณ์ผืนเล็กที่ปกปิดเนินทรวงผุดผาดก็หลุดออกโดยที่หญิงสาวไม่ทันได้รู้ตัว
พระพักตร์หล่อเหลาชะโงกขึ้นมองความงามของดอกบัวเต่งตึงชูช่ออย่างหลงใหล
“เจ้าสวยเหลือเกินฮาบิบตี้”
สิ้นเสียงแหบพร่า พระโอษฐ์ร้อนๆ ก็เข้าครอบครองยอดประทุมถันทันทีอย่างตระกุมตระกาม หิวกระหายราวกับทารกหิวนมมารดา
“อ๊า...” อารียาอยากจะต่อต้านขัดขืนมากเหลือเกิน แต่ทำไมร่างกายของเธอถึงได้สั่นสะท้อนสะท้านด้วยความเสียวซ่านมากมายขนาดนี้ก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ต้องการเป็นของเขา ไม่ต้องการให้เขาครอบครองเธอ แต่ทำไมร่างกายถึงได้ทรยศหัวใจถึงเพียงนี้
สัมผัสจากพระโอษฐ์ที่จัดเจนในเกมรัก ได้จุดความปรารถนาบางอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในตัวหญิงสาวให้ลุกพรึ่บขึ้นมาจนน่าตกใจ เธอรู้สึกเสียวสะท้านไปทั้งร่าง ขนอ่อนลุกเกรียวไปทุกอณูขุมขน ความสุขที่ชีคหนุ่มส่งมอบให้ด้วยพระชิวหาที่ดูดดึงขบเม้มที่เม็ดทับทิมสีสวย มันเสียวซ่านแล่นขึ้นไปจนถึงสมอง และแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กายจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง
นิ้วมือเรียวสวยสอดเข้าไปบนเส้นพระเกศาหนานุ่ม และเผลอกดพระเศียรลงมาให้แนบชิดกับทรวงอกของตนจนบี้แบน
“ท่านชีค อ๊ะ...” เสียงหวานๆ ครวญครางออกมาไม่หยุดหย่อน
“เจ้าหวานมากเหลือเกิน ฮาบิบตี้”
พระองค์ทรงตรัสชิดร่องอกขาวผ่อง และทอดพระเนตรคมกล้าสบสายตาที่เบลอไปด้วยฤทธิ์พิศวาสที่พระองค์ประทานให้ จนลืมสิ้นแทบทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ร่างกายที่ไม่เคยต้องมือชายสั่นสะท้านไหวระริกราวกับระลอกคลื่นบนผืนทราย ช่างเร้าใจชีคหนุ่มยิ่งนัก พระองค์ไม่เคยเห็นอะไรที่งดงามและเย้ายวนใจเท่านี้มาก่อนเลย
ชีควาคิลไม่อยากจะเชื่อเลยว่า หญิงที่ผ่านมือชายมาแล้วมากมาย จะรักษาความสวยสดงดงามอย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติแบบนี้เอาไว้ได้ ต่อให้หญิงสาวบริสุทธิ์ที่พระองค์เคยเจอ ก็มิอาจสวยเทียบเท่า และน่าเสพสมเทียมเท่าเธอ
ร่างขาวนวลผ่องตรงหน้า ทำให้พระทัยของพระองค์ทรงเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน รู้สึกปรารถนาเธอรุนแรงมากกว่าหญิงใดที่เคยผ่านมา เพียงแค่ได้ชิมดอกบัวสองข้างพระองค์ก็ทรงรู้สึกหวงแหนเสียแล้ว
“นับแต่นี้เป็นต้นไป เจ้าจะต้องเป็นของเราคนเดียวเท่านั้น ไลลา”