“พี่! พี่ยังไม่ตายใช่ไหมคะ!” ฉันลนลานมาก ตรงเข้าไปดูเขาที่นอนกองอยู่ที่พื้น เลือดอาบไปครึ่งหน้าด้านซ้ายแต่ก็ยังเห็นชัดว่าหล่อ
หล่อมาก หล่อวัวตายควายล้ม หล่อแบบไม่มีความขี้เหร่ผสมแม้แต่มิลลิเมตรเดียว บ้าจริงคนเราจะหล่ออะไรขนาดนี้! นึกว่าหล่อค้ำฟ้าจะมีแค่พี่เพลิงแฟนของพรีมเพื่อนรักแต่ที่ไหนได้ในโลกนี้ยังมีคนหล่อแบบไม่มีอยู่จริงอีกคนเหรอ
“อึก! อ่าส์~ พยุงที~” เขาปรือตามองฉันนิดหน่อย มือกุมท้องแล้วเอ่ยบอก
เสียงเบามาก แต่เสียงก็หล่อมากเหมือนกัน มือไม้สั่นไปหมดเลยค่ะ ความกลัวเลือดของตัวเองก็หายไปหมดเช่นกัน
ฉันรีบพยุงเขาให้นั่งตามที่ขอ เขาเองพอลุกนั่งได้ก็นั่งนิ่ง ๆ เอามือกุมท้องพร้อมกับใบหน้าเหยเก
“ซี๊ด~”
โอ้โห~ หน้าพี่เขา เขาเงยหน้าสูดปากครางพร้อมกับหลับตา เข้าใจนะว่าเจ็บปวด น่าจะเจ็บท้องเพราะเคยดูในหนังไอ้พวกนักเลงมันชอบรุมกระทืบแล้วก็เตะที่ท้องแบบรัว ๆ แต่พี่คะพี่จะทำหน้าเจ็บแต่ดูเสียวเหมือนพระเอกหนังโป๊แบบนี้ไม่ได้นะ
“อ่าส์~” ครางยังไงให้เหมือนครางนะ เอ่อ ไม่งงใช่ไหมคะ ^_^!
“ดะ เดี๋ยวหนูโทรเรียกตำรวจก่อนนะคะ” ฉันไม่รู้จะทำยังไงถ้างั้นก็แจ้งตำรวจก่อนแล้วกัน ให้ตำรวจมาที่เกิดเหตุจะได้พาคนเจ็บไปหาหมอด้วย
“ไม่ต้อง อ่าส์~” กำลังจะกดโทรศัพท์เขาก็ห้ามก่อน
“แต่เราต้องแจ้งความนะคะ พี่โดนรุมทำร้าย”
“บอกว่าไม่ต้องไง ซี๊ด~ ช่วยพยุงออกไปข้างนอกก็พอ” เขาห้ามเหมือนเดิม เสียงดุขึ้นด้วยฉันไม่เข้าใจว่าทำไมไม่แจ้งความทั้งที่ตัวเองโดนรุมทำร้ายปางตายแต่เขาไม่ให้แจ้งก็ไม่แจ้งแล้วกัน
“เอ่อ...ถ้างั้นไปหาหมอนะคะ” ไม่แจ้งความไม่เป็นไรแต่สภาพนี้ต้องพบแพทย์ ด้วยมนุษยธรรมอันประเสริฐปิ๊งรักจะยอมได้นอนน้อย สภาพแบบนี้คงต้องพาไปส่งให้ถึงมือหมอก่อน
“มีร้านสะดวกซื้อไหม”
“คะ?”
“อยากได้ผ้าเย็น” เขาบอกด้วยสีหน้าเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือจ้องหน้าฉันตอนพูดด้วย สายตาคมกริบยิ่งกว่าใบมีดโกนหนวดยี่ห้อขนนกซะอีก
“ไม่ไปหาหมอเหรอคะ?”
“อ่าส์~ ขอผ้าเย็นเช็ดหน้าก็พอ”
“ได้ไง พี่ต้องไปหาหมอนะคะ”
“ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก เดี๋ยวก็หาย” โห~เลือดอาบไปครึ่งหน้าขนาดนี้ไม่ได้เป็นอะไรมากตรงไหน ฉันนี่อึ้งจนพูดไม่ออกทำได้แค่มองหัวเขาเลยค่ะว่าแผลมันอยู่ตรงไหน
“ช่วยบอกก็พอว่าร้านสะดวกซื้ออยู่ไกลไหม” ไม่ใช่คนแถวนี้แน่ ๆ ถึงไม่รู้ว่าร้านสะดวกซื้อแค่เดินไปทางปากซอยแล้วเลี้ยวขวาก็เจอแล้ว อยู่ใกล้มากห่างจากตรงนี้แค่ร้อยห้าสิบเมตร
“จะไปซื้อเองเหรอคะ”
“อื้ม”
“สภาพนี้นี่นะ?”
“อืม” เขาตอบสั้น ๆ ถึงจะอยู่ไม่ไกลแต่ดูจากสภาพไม่น่าเดินไปเองได้หรอก และสุดท้ายด้วยมนุษยธรรมอันประเสริฐฉันก็เลยให้เขานั่งรอแล้ววิ่งไปซื้อผ้าเย็นกับน้ำแล้วก็พลาสเตอร์มาปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เขา
“ขอบใจนะ” เขาเอ่ยคำขอบคุณหลังจากที่ฉันกลับมาแล้วเขาก็จัดการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าและเช็ดหน้าด้วยผ้าเย็น
“...” อห. ที่ไม่ใช่โอ้โห ตอนมีเลือดอาบหน้าว่าหล่อแล้วพอไม่มีเลือดนี่หล่อยิ่งกว่าหล่อ
หล่อ
หล้อ
หล๊อ~
หล่อแบตะโกนไปเลยค่ะ
“ได้ยินที่บอกรึเปล่า?”
“คะ? อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะเรื่องเล็ก พี่จะไปไหนต่อคะ มีรถรึเปล่า”
“มี แต่กุญแจรถอยู่ไหนก็ไม่รู้” เขาบอกฉัน ฉันเลยหันกลับไปที่ซอกตึก
“ตกตอนโดนทำร้ายไหมคะ”
“ไม่แน่ใจ คงใช่มั้งถ้าพวกมันไม่ได้เอาไป” เขาตอบแต่ท่าทางดูไม่ยี่หระไม่สนใจที่จะหากุญแจรถเท่าไหร่เอาแต่นั่งเช็ดหน้าพร้อมกับสายตาที่เหมือนคนมีอะไรในใจ
“อาจจะตกนะคะเดี๋ยวหนูหาให้” ฉันลุกขึ้นเดินไปที่ซอกตึกแล้วใช้ไฟฉายของโทรศัพท์ส่องดูเผื่อจะเจอ ส่องไม่นานก็เจอจริง ๆ กุญแจรถหรูซะด้วย
“อันนี้ไหมคะ” ฉันเดินกลับมาถามเขาพร้อมกุญแจในมือพอเขาเห็นก็พยักหน้ารับ
“อื้ม”
“จอดอยู่ตรงไหนคะหนูพยุงไปส่งที่รถ”
“นั่นไง” เขาชี้ไปที่มุมมืด ๆ ฉันเลยได้เห็นรถหรูราคาหลายล้าน ตอนมามัวแต่คิดอะไรแล้วก็ยุ่ง ๆ ตกใจช่วยเขาอยู่เลยไม่ได้สังเกตอะไรอย่างอื่น รถสวยมาก~ ดูจากเสื้อผ้าที่ใส่ถึงจะเลอะเทอะเพราะนอนกองที่พื้นก็รู้ล่ะว่าฐานะดีแต่ไม่คิดว่าจะดีขนาดขับรถหรูรุ่นที่แพงหูฉี่ขนาดนี้
“ถ้างั้นหนูว่าพี่กลับดีกว่าค่ะถ้าไหว เดี๋ยวพวกมันย้อนกลับมาแล้วจะยุ่ง”
“อื้ม”
“ดีขึ้นแล้วใช่ไหมคะ ถ้างั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ ดึกแล้วพรุ่งนี้ต้องทำงานต่อเช้า” รถเขาจอดห่างไปแค่สามสิบสิ่บเมตรคงเดินไปไหวแหละถ้างั้นฉันก็ไปเลยดีกว่า
“ขอบใจนะ”
“เล็กน้อยค่ะ” ^^
“ทำงานเหรอ? นึกว่ายังเรียนอยู่”
“คะ? อ๋อ เรียนค่ะแต่ทำงานพิเศษ”
“ทำอะไร”
“พาร์ทไทม์เป็นสตาร์ฟตามงานอีเว้นท์ค่ะ”
“แล้วมาทำอะไรแถวนี้ดึก ๆ ดื่น ๆ”
“หอหนูอยู่แถวนี้ค่ะ”
“แล้วมาเดินที่เปลี่ยว ๆ ทำไม”
“ไปร้านเหล้ามาน่ะพี่” เขาถามฉันก็ตอบ ตลกดีเหมือนกันที่นั่งคุยกับคนแปลกหน้า
“คนเดียว?”
“ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับเขาก็พยักหน้ารับเหมือนกัน
“ช่วยพยุงไปที่รถหน่อยได้ไหม โทรศัพท์อยู่ในรถ”
“อ๋อ ได้ค่ะ” น่าจะเดินไปไหวแหละเพราะกุมท้องตัวเองอยู่ เขาพยุงตัวเองขึ้นฉันก็ช่วยพยุงเดินไปที่รถ พอถึงรถเขาก็เปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งในรถทันที
“อ่าส์~” ก้นถึงเบาะพี่เขาก็เอนหังพิง กุมท้องแล้วครางเบา ๆ ด้วยความเจ็บ
“สตาร์ทรถแล้วนั่งพักในรถก็ดีนะคะ หนูไปก่อนนะคะพี่ กลับบ้านดี ๆ ค่ะ”
“จ้างได้ไหม” ฉันกำลังจะหนตัวเดินไปที่หอหลังลาคนแปลกหน้าเสร็จแต่เขาก็พูดคำนี้ออกมาซะก่อน คำพูดที่ฟังแล้วงงมาก
“คะ?”
“ขอจ้างได้ไหม”
“จ้าง...จ้างอะไร?” เสียงฉันเริ่มแข็งขึ้นมาแล้ว คิดว่าหล่อ คิดว่าช่วยแล้วจะพูดยังไงก็ได้เหรอ? เชี่ยไรวะ
“จ้างมาอยู่เป็นเพื่อน”
“ฮะ? บ้าป้ะเนี่ย!”
“ไม่ได้บ้า ฉันอยากจ้างเธอจริง ๆ”
“...” ฉันเงียบนี่ไม่ใช่เพราะอะไรนะคะ อึ้งอยู่ อะไรวะเนี่ย แล้วดูเขาสินั่งมองหน้าฉันด้วยสายตาจริงจังสุด ๆ ไปเลย
“เดือนละแสนอยู่เป็นเพื่อนเฉย ๆ ไม่มีเซ็กส์หรอก ถ้ากลัวเบี้ยวจะจ่ายล่วงหน้าให้เลย”
“นี่อย่ามาพูดบ้า ๆ นะ เห็นใจดีแล้วคิดว่าจะทำอะไรก็เหรอ?” ฉันเริ่มโมโหมากแล้ว กำหมัดแล้วนะ ถ้าพูดอะไรไม่ดีอีกแม่ทุบแน่ ฉันจ้องแต่เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่เบาะข้าง ๆ มา
“จ้างมาอยู่เป็นเพื่อนจริง ๆ ให้เดือนละแสน” ฉันโมโหจริง ๆ นะคะ มันจะมากเกินไปแล้วนะ เมาเหรอ? เมาหรือตั้งใจกวนตีน? บ้าป้ะอยู่ดี ๆ จ้างไปอยู่เป็นเพื่อนแถมยังบอกให้เดือนละแสน นี่คิดว่าฉันช่วยเพราะเขาหล่อเหรอ? ฉันช่วยเพราะความมีมนุษยรรมของตัวเองต่างหากย่ะ! เห็นช่วยแล้วคิดจะหลอกเคลมต่อรึไงไม่สำนึกน้ำใจของคนอื่นเลย!
“โอนเงินมาดิ” ฉันกวนกลับบ้าง จำได้ว่าเขาบอกจะจ่ายล่วงหน้าให้ พอฉันท้าเขาก็มองหน้าแต่แป๊บเดียวก็ก้มลงมองโทรศัพท์ตัวเอง
“เลขบัญชี”
“ฮะ?”
“เลขบัญชีไง” เขาย้ำอีกครั้ง เล่นไม่เลิกเดี๋ยวจะรอดูว่าจะเล่นอะไรต่อ
“ธนาคาร XXX เลขบัญชี 027XXXXXXX”
ติ๊ง!
“...” โอนมาจริงค่ะ เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ที่เหน็บอยู่ที่ก้นดังแล้วพร้อมกับเขาที่เงยหน้า นี่ต้องเล่นมุขโอนมาห้าบาทสิบบาทแน่ ๆ
“เรียบร้อยแล้ว”
“ตลกมากป้ะ” ฉันว่าแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาดูว่าเขาโอนมาเท่าไหร่
“...เฮ้ย!”
ฉันจ้องหน้าจอ มองจุดทศนิยมข้างหลังพร้อมกับไล่สายตานับจำนวนเลขศูนย์ให้ดีเพราะถ้าตาไม่ฝาดนี่คือยอดเงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีเยอะที่สุดในชีวิตแล้ว
“จะให้ทำงานวันไหนเดี๋ยวบอก” คำพูดของเขาดึงความสนใจของฉันออกจากตัวเลขหน้าจอได้สำเร็จแล้วพอมองหน้าเขาก็ถึงได้รู้ว่าเขาปิดประตูรถเลื่อนกระจกลงและสตาร์ทรถเรียบร้อยแล้ว
“พี่บ้าป๊ะเนี่ย! เอาเลขบัญชีพี่มาเดี๋ยวนี้เลยจะโอนคืน แล้วอย่าไปเล่นใหญ่แบบนี้กับใครอีกเจอคนเชิดเงินหนีมันจะยุ่งนะพี่”
“ถ้างั้นเธอก็อย่าเชิดเงินหนีล่ะ วันนี้แยกย้ายกันก่อนจะให้เริ่มงานวันไหนเดี๋ยวบอก”
“ฮะ?”
“ฉันไปก่อน”
“ฮะ? อ้าว...เฮ้ย!” เขาทำฉันงงเพราะเขาพูดจบแล้วก็เลื่อนกระจกขึ้นพร้อมกับขับรถไปเลย ขับรถไปทิ้งไว้แค่ฉันที่ยืนงงกับเงินหนึ่งแสนที่เพิ่งโอนมา...