6

1497 Words
“ไม่จริง ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น หนูไม่ได้เป็นอะไรกับเขานะคะ” “ยังจะปากแข็งไม่เลิกอีก จะให้โชว์หลักฐานให้ทุกคนดูมั้ยว่าเธอสวมเขาให้ฉัน มานี่เลย มานี่กลับบ้านเดี๋ยวนี้” กวินภพใช้แรงกำลังที่เหนือกว่า ลากร่างสาวไปตามพื้นถนน แม้ว่าเธอจะฝืนร่างกายเอาไว้ก็ตาม “ลุงจ๋า ลุงช่วยหนูด้วย ช่วยหนูด้วยนะคะ” เธอหันมาเว้าวอนคนที่อยู่ใกล้ที่สุด “กลับบ้านไปหาลูกเถอะนังหนู กลับตัวกลับใจเสียใหม่นะ” คนขับแท็กซี่พูดจบก็หมุนตัวเดินกลับไปยังรถทำมาหากินของตน พร้อมกับค่าเสียหายหลายหมื่นที่อยู่ในมือ กวินภพยิ้มเยาะยามที่ได้เห็นสีหน้าของเธอตอนนี้ “ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกน้องหนู งานนี้เธอตายคาไร่ของฉันแน่ มานี่” เขาขู่ฟ่อเธออีกครั้ง ก่อนที่จะลากร่างสาวไม่หยุด เพลงมีนาก็ยังฝืนตัวและเปล่งเสียงร้องห้าม เสียงขอความช่วยเหลือต่อไป แต่ทว่าไม่มีใครสนใจเรื่องของผัวเมียเลยสักคน ต่างเดินกลับไปทำงาน ไปค้าขายของตนตามเดิม กวินภพลากร่างอวบอิ่มมาจนถึงประตูตอนหลังของรถยนต์คันหรูของตนที่เปิดอ้าอยู่ ออกแรงกระชากเธอให้ลุกขึ้นยืนเพียงครั้งเดียว ก่อนจะผลักร่างสาวเข้าไปนั่งในรถ ก่อนจะหันไปรับกระเป๋าสะพายของเพลงมีนาที่อยู่ในมือของจตุรทิศมาปาใส่ร่างของหญิงสาว กระเป๋าใบใหญ่ที่มีน้ำหนักมากเนื่องจากเธอใส่เครื่องมือสื่อสารไว้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์และไอแพด เธอจึงเจ็บจนจุกไปในทันทีเมื่อโดนกระแทก หนำซ้ำตรงช่วงขาที่ถูไถไปบนพื้นถนนคอนกรีตยังแสบร้อนไปทั้งขา โชคดีที่ว่าวันนี้เธอสวมใส่กางเกงยีนส์ จึงทานแรงเสียดสีได้มากโข หากเธอสวมใส่กระโปรงมามีหวัง ขาของเธอต้องถลอกเป็นรอยแดงแน่นอน ปัง... เสียงปิดประตูโครมใหญ่ หลังจากที่เจ้าของรถสอดตัวเข้ามานั่งข้างๆ ร่างเล็กที่ถอยร่นไปนั่งชิดติดประตูอีกด้าน นั่งมองหน้าเขานิ่งงัน มองทั้งน้ำตา “ฮือๆๆ คุณทำกับฉันอย่างนี้ทำไม ฉันไปทำอะไรให้คุณ” เพลงมีนาร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น เหลือบมองใบหน้าของเขาเพียงแวบเดียว ก่อนจะก้มหน้ามองหน้าตักของตนเอง เมื่อเห็นประกายตาน่ากลัวคู่นั้น “อย่ามาทำเป็นไม่รู้จักฉันน้องหนู ทั้งๆ ที่เธอรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองทำอะไรไว้กับฉันบ้าง” เสียงเข้มโต้กลับ ดวงตาคมกล้ามองเขม็งไปยังร่างสาวที่กอดกระเป๋าเอาไว้แน่น สายตาคู่นั้นแข็งกร้าว โกรธแค้น อยากจะเฉือนเนื้อเธอออกมาทาเกลือแล้วแปะทับเข้าไปใหม่ ให้เธอแสบร้อนครางครวญอย่างทุกข์ทรมาน “ฉันไม่ใช่น้องหนู ฉันไม่ใช่ ฉันชื่อเพลงมีนา” “อย่ามาทำอย่างนี้กับฉันน้องหนู อย่ามาทำเป็นไม่รู้จักฉัน ไม่รู้ว่าตัวเองชื่อเสียงเรียงนามอะไร” เขาตวาดลั่นเสียงดังลั่นรถที่กำลังมุ่งตรงไปยังไร่พฤกษาจังหวัดลำปาง “อ๋อ!!...ฉันลืมไป ชื่อน้องหนูเป็นชื่อปลอม ชื่อจริงของเธอคงจะชื่อเพลงมีนาล่ะซิ” “ไม่ใช่ ฉันไม่ได้ชื่อน้องหนู ไม่เคยใช้ชื่อนี้ด้วย ฉันใช้แต่ชื่อเพลงมีนา เพลงมีนา เพลงมีนา เพลงมีนาได้ยินหรือเปล่า ฉันชื่อเพลงมีนา” เธอตะโกนใส่หน้าชายหน้าเข้มบ้าง พอตะโกนออกไปใจสาวก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที เมื่อเขาเลื่อนลำตัวเข้ามาใกล้ เอื้อมมือมาบีบแก้มทั้งสองข้างของเธอ จนแก้มเนียนสวยร้าวเจ็บไปทั่ว น้ำตาจึงขับออกมาจากเบ้าตาทั้งสองข้าง “ใช่ เธอชื่อน้องหนู ฉันสมองไม่เสื่อม ตาไม่พร่ามัวถึงขนาดจำคนที่ทำให้ฉันเกือบจะเจ๊งไม่ได้หรอกนะ ฉันสู้อุตส่าห์ลงทุนลงแรงไปกับไร่นี้ตั้งหลายปี แต่พอเธอเข้ามาทำงานในไร่ของฉัน เธอก็สร้างความฉิบหายให้กับฉันอย่างมากมาย ยั่วยวนคนงานในไร่จนหลงหัวปักหัวปรำ ก่อนจะชักชวนให้ไปทำงานในไร่ของไอ้ท็อป พอพ้นวันกำหนดที่เก็บเกี่ยวเสร็จ เธอก็ให้ไอ้ท็อปมันถีบหัวคนงานทิ้ง ปล่อยพวกเขาลอยแพ ตกงานอย่างไม่ดูดำดูดี ส่วนเธอพอเป็นนกต่อเสร็จก็บินหนีอย่างไร้ร่องรอย สองเดือนมานี้ฉันไม่เคยหยุดตามหาเธอเลย แล้วคงไม่โง่ปล่อยให้เธอเดินออกไปจากไร่นี้ง่ายๆ แน่ เธอจะต้องได้รับบทเรียนที่ทำไว้กับฉัน” กวินภพกล่าวอย่างเดือดดาล ตลอดสองเดือนที่ผ่านมาเขาไม่เคยหยุดนิ่งเรื่องการออกตามหาน้องหนูเลย เริ่มต้นหาจากป้านุ่มเพราะน้องหนูคือหลานสาวของนาง ทว่าพอไปคาดคั้นถามความจริงจึงปรากฏขึ้น น้องหนูไม่ใช่หลานของนาง แต่เป็นผู้จ้างวานให้นางพูดและทำเช่นนั้น กล่าวคือให้นางบอกกับเขาว่าขอลาหยุดไปรักษาตัวจนกว่าจะหาย แต่ระหว่างนั้นจะให้หลานสาวมาทำหน้าที่แทน แล้วที่ป้านุ่มยอมทำตามเป็นเพราะตอนนั้นหลานของนางเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับคู่กรณี ทำให้ตอนนั้นนางเดือดร้อนเรื่องเงินมาก พอน้องหนูยื่นขอเสนอในการออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ และให้เงินค่าจ้างอีกจำนวนหนึ่ง ป้านุ่มจึงไม่ปฏิเสธข้อเสนอของน้องหนู อีกทั้งไม่ได้ถามหรือคิดสงสัยเลยว่า เหตุใดน้องหนูจึงต้องการเข้าไปทำงานในไร่พฤกษามากขนาดนี้ ณ ตอนนั้นเขาไม่มีข้อมูลของน้องหนูเลย คำพูดของป้านุ่มส่งผลให้เขาเกิดทางตันขึ้นมาทันทีทันใด ความที่เธอเป็นหลานของป้านุ่มทำให้เขาไม่ได้ขอหลักฐานต่างๆ เช่นสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านไว้ เขาจึงไม่ทราบเลยว่าชื่อน้องหนูคือชื่อจริงหรือว่าชื่อเล่น แต่ กวินภพก็ใช้หลักฐานที่มีอยู่น้อยนิดเป็นช่องทางออกตามหา เขาไว้วานให้วิกรมหลานชายของป้าพิณที่ทำงานอยู่ในที่ว่าการอำเภอสืบเสาะหาข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์ให้ ปรากฏว่าชื่อน้องหนูที่อยู่ในทะเบียนราษฎร์ไม่กี่คน แล้วไม่กี่คนที่ว่านี้หาใช่น้องหนูที่เขาต้องการตัวไม่ นั่นหมายความว่าชื่อน้องหนูเป็นเพียงชื่อเล่นหรือไม่ก็ชื่อปลอม กวินภพสันนิษฐานไว้เช่นนั้น คราวนี้ช่องทางการออกตามหาน้องหนูแทบจะไม่มีเลย เพราะหลังจากที่งานสำเร็จเธอได้อันตรธานไปจากไร่ปลายฟ้า หลอกถามคนในไร่แห่งนั้นก็ไม่ได้ความอีก ส่วนคนงานในไร่ที่เคยหลงผิดไปทำงานในไร่ปลายฟ้า ต่างพากันมาขอพึ่งใบบุญกวินภพ เนื่องจากพวกเขาถูกปล่อยลอยแพ เงินเดือนที่มากกว่า สวัสดิการและความเป็นอยู่ที่เหนือกว่าไร่พฤกษาตามคำกล่าวชักชวนของน้องหนู ไม่ได้เป็นไปดั่งที่พวกเขาคิดเอาไว้ จนในที่สุดพวกเขาก็ถูกผลักไสให้ออกจากไร่ปลายฟ้าโดยเจ้าของไร่ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะมีชีวิตต่อไปอย่างไร ให้เงินเดือนครึ่งเดือนเท่านั้น กวินภพรู้สึกสงสารคนงานเหล่านั้น แต่ทว่าสิ่งที่พวกเขาทำไว้กับเขาก็หนักหนาสาหัสเช่นกัน ไม่เพียงแค่เขาเก็บผลผลิตไม่ทัน ยังต้องเสียเงินค่าปรับไปเป็นจำนวนเงินไม่น้อย หากรับเข้าทำงานโดยไม่มีการลงโทษ มันก็กระไรอยู่ บทลงโทษของเขาไม่ใช่การซ้ำเติม แต่ทำให้ทุกคนรู้ว่าก่อนจะตัดสินใจอะไรลงไป ต้องไตร่ตรองให้หนักเสียก่อน เขารับคนงานทุกคนกลับเข้ามาทำงานในไร่ ภายใต้ข้อแม้ว่าเงินเดือนที่ทุกคนเคยได้รับ เขาจะหักออกหนึ่งส่วนเป็นระยะเวลาหกเดือน อาทิเช่น นายโม่งได้รับเงินเดือนสี่พันบาท ก็จะได้รับค่าจ้างเดือนละสามพันบาทแทน หากใครยินยอมตามข้อตกลงเขาก็เต็มใจรับเข้าทำงานใหม่ แต่ถ้าไม่ก็ไปหางานใหม่ทำ ซึ่งทุกคนต่างยอมรับกติกาที่กวินภพตั้งขึ้น คิดว่าดีกว่าตกงานไม่มีรายได้ กวินภพก็ใช้คนเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์อีกทางหนึ่ง ทางนั้นก็คือให้คนงานทั้งหลายเป็นหูเป็นตา หากใครพบเห็นน้องหนูให้รีบตระคลุบตัวเอาไว้ แล้วเขาจะเดินทางมาจัดการด้วยตัวเอง แต่ไม่คิดว่าพอจะเจอก็เจออย่างง่ายดาย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD