ตอนที่ 1

2976 Words
เสียงเครื่องปรับอากาศยี่ห้อดังทำงานได้อย่างเงียบสงบและเย็นเฉียบ แต่ร่างกายของน้ำหนึ่งในเวลานี้กลับร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างผิดปกติ เม็ดเหงื่อเล็กๆ ผุดขึ้นมาเต็มตามหน้าผากและไรผมที่เกล้าเอาไว้อย่างมากมาย จนหญิงสาวต้องคอยยกมือเรียวสวยขึ้นปาดเช็คมันอยู่เรื่อยๆ “เสร็จสักที! เบื่อเรื่องบ้าๆ นี่จริงๆ” เสียงสบถของติณที่พูดบ่นออกมาด้วยความเบื่อหน่ายกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ น้ำหนึ่งถึงกับนั่งก้มหน้านิ่ง หญิงสาวพยายามข่มซ่อนน้ำตาของตนเอาไว้อย่างที่สุด รู้ตัวเองดีว่าเป็นแค่ตัวแทนของเพียงฟ้าที่ต้องมาแต่งงานขัดตาทัพให้กับตระกูลของฝ่ายชาย หญิงสาวสะอื้นไห้อย่างห้ามไม่อยู่ และดูเหมือนก้อนสะอื้นเมื่อสักครู่มันได้วิ่งขึ้นมาคาอยู่ที่อกของเธอไม่ยอมหายไปไหน หญิงสาวพยายามกล้ำกลืนให้มันไหลกลับลงไปด้วยความยากลำบาก ก่อนจะค่อยๆ ขยับร่างบางออกห่างจากรัศมีของผู้ชายร่างใหญ่ตรงหน้าที่กำลังแผ่รังสีอำมหิตออกมาจากตัว ซึ่งตอนนี้กำลังจ้องเขม็งมองมาที่เธออย่างน่ากลัว “ไม่ต้องมาทำเป็นรังเกียจฉันแล้วถอยออกห่างขนาดนั้นหรอกนะ มันน่าจะเป็นฉันมากกว่าที่จะต้องเป็นฝ่ายที่ทำแบบนั้นกับเธอ เพราะฉันเองก็ไม่เคยที่จะพิศวาสอะไรกับผู้หญิงอย่างเธอเลยแม้แต่นิดเดียว แม่ผู้หญิงมากเล่ห์...” คำพูดของติณที่พูดบอกออกมานั้นช่างเหยียดหยามดูถูกหัวใจหญิงสาวยิ่งนัก น้ำหนึ่งรีบลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินหนีออกไปจากตรงนั้นโดยเร็ว เพราะไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับชายหนุ่มตรงหน้าให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาอีก ติณเหยียดยิ้มออกมาอย่างชิงชัง พร้อมกับมองตามร่างบางที่เดินเลี่ยงออกไปยืนอยู่ที่มุมโต๊ะเครื่องแป้ง ดวงตาคมกวาดมองหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ติณเองก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าผู้หญิงที่เขาเห็นเกือบทุกวันในมาดที่คล้ายกับทอมบอยก็ไม่ปาน จะกลับกลายเป็นสาวสะพรั่งอวบอิ่มไปทุกสัดส่วนได้ถึงขนาดนี้ ผมดำขลับถูกเกล้าเป็นมวยขึ้นสูงแล้วปักเสียบด้วยปิ่นปักผมฝังเพชรซึ่งเป็นสมบัติของคุณหญิงนิลวรรณผู้เป็นป้าของชายหนุ่มได้ให้เป็นเครื่องประดับรับขวัญหลานสะใภ้ซึ่งก็คือเพียงฟ้า...ไม่ใช่น้ำหนึ่ง ชุดไทยสีงาช้างเผยผิวเนื้อนวลเนียนช่วงเนินอกและหัวไหล่ไว้ให้ได้เห็น...เพียงเท่านี้ก็มากเกินพอแล้วในความคิดของชายหนุ่มเพราะมันทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่ในเวลานี้ ติณมองอยู่ที่เนินอกอวบอิ่มของหญิงสาวอย่างอ้อยอิ่ง น้ำหนึ่งดูเป็นสาวขึ้นและสวยซึ้งดูเย้ายวนชวนให้หลงใหลเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มเผลอไล้สายตากวาดมองไปทั่วเรือนร่างของหญิงสาวก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก แถมเจ้าลูกชายตัวดีก็ยังมาตื่นตัวกับหญิงสาวตรงหน้าให้เขาได้อึดอัดช่วงขาอยู่ไม่ใช่น้อย ไอ้บ้าเอ้ย! เขาไม่มีทางที่จะคิดอะไรกับแม่ผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างอื่นไปได้อย่างแน่นอน มีแต่จะแค้นแสนแค้นเสียละมากกว่าที่ทำให้เขาไม่ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ตนเองรัก จ้างให้ก็ไม่มีทางที่จะไปหลงบ่วงเสน่ห์ของแม่นี่ง่ายๆ หรอก “ถะ...ถ้าพี่ติณไม่มีอะไรจะพูดกับหนึ่งอีก...หนึ่งขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” ใบหน้าเรียวสวยที่ตอนนี้ถูกบรรจงแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดีร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อถูกสายตาของติณจ้องมองอย่างโลมเลียออกมาแบบนั้น คำพูดสั่นเครือของน้ำหนึ่งดึงให้ติณได้สติขึ้นมาทันที ชายหนุ่มรีบกลบเกลื่อนกิริยาตนเองด้วยการก้าวเดินเข้าไปหาน้ำหนึ่งอย่างช้าๆ พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงดังห้วน “เดี๋ยวสิ...จะรีบไปไหนล่ะฉันยังพูดไม่จบ” ก้าวแต่ละก้าวของติณที่เดินเข้ามาหาน้ำหนึ่งนั้นมันทำให้หญิงสาวหน้าซีดแล้วซีดอีก หญิงสาวก้าวถอยไปจนตอนนี้หลังของเธอนั้นแนบชิดติดกับผนังของห้องไปแล้ว “อะ...เอ่อ...เอาไว้พูด...กัน...พรุ่งนี้ดีกว่ามั้ย...” “ไม่! ฉันจะพูดวันนี้ ความแค้นของฉันมันแน่นอกจนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว” ติณพูดจบ ขาแข็งแกร่งก็ก้าวเข้ามาถึงตัวของน้ำหนึ่งพอดี สองแขนยกขึ้นเท้ากับผนังห้องจนตอนนี้เท่ากับว่าน้ำหนึ่งได้ตกอยู่ในวงล้อมของแขนทั้งสองข้างของติณไปแล้ว ลมหายใจร้อนผ่าวของชายหนุ่มเป่ารดอยู่เหนือศีรษะของหญิงสาวจนเธอเองทำอะไรแทบไม่ถูก “หนึ่ง...หนึ่งขอโทษ...” รอยยิ้มที่แฝงความชิงชังผุดขึ้นมาที่ริมฝีปากของติณก่อนจะพูดต่อออกมา “ขอโทษ... ก่อนจะทำ...ทำไมไม่คิด” “พี่ติณ...”น้ำหนึ่งครางเรียกชื่ออีกฝ่ายน้ำตารื้นขึ้นมา ขณะที่ติณมองหน้าอีกฝ่ายอย่างแสนเกลียด “อย่ามาเรียกฉันว่าพี่! ฉันไม่ใช่พี่เธอ! ฉันไม่คิดเลยนะว่าเธอจะกล้าทำกับฉันถึงขนาดนี้ ฉันเคยเอ็นดูเธอเหมือนกับน้องสาวเหมือนกับที่เพียงฟ้าทำ แต่เธอ...เฮอะ...” ติณเปล่งเสียงเหมือนกับหัวเราะเยาะให้กับความโง่เขลาของตนเอง “เธอกลับทำร้ายทำลายความรู้สึกดีๆ ที่ฉันมีให้ลงไปได้อย่างเลือดเย็น เธอมันช่างเลวจนหาที่เปรียบไม่ได้เลย ฉันละรังเกียจผู้หญิงอย่างเธอจริงๆ” “คะ...คุณติณ...หนึ่งขอโทษ...ขอโทษจริงๆ หนึ่งไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้” น้ำหนึ่งพูดพร้อมกับป้ายปาดน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มโดยไม่อายอีกฝ่าย และไม่สนใจว่าตอนนี้เครื่องสำอางบนใบหน้าจะเป็นเช่นไร “แล้วเธอคิดว่ามันควรจะต้องเป็นแบบไหน รึว่าอยากจะให้มันเลวร้ายมากลงไปกว่านี้ห๊ะ! ฉันยังเจ็บปวดไม่พอใช่มั้ย” คำพูดของชายหนุ่มตรงหน้ามันช่างเสียดแทงหัวใจของหญิงสาวยิ่งนัก เธอแค่อยากให้พี่สาวต่างสายเลือดได้มีความสุขกับคนที่รักเท่านั้น แต่ลืมคิดไปว่าจะต้องมีผู้ชายอีกคนที่จะต้องเสียใจกับเรื่องนี้ น้ำหนึ่งคิดไม่ถึงเลยว่าติณจะรักพี่ฟ้าของเธอมากมายขนาดนี้ “หนึ่งขอโทษ...ขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น...พรุ่งนี้หนึ่งจะกลับไร่ พี่ติณจะได้ไม่ต้องทนเห็นหน้าหนึ่งอีก” คำพูดของน้ำหนึ่งทำให้ติณโน้มใบหน้าคมเข้มต่ำลงมาจนลมหายใจของคนทั้งคู่เป่ารดกัน “ไม่! ฉันยังไม่ให้เธอกลับ” เขาพูดใส่หน้าเธอออกมาเสียงห้วน ใบหน้าสวยเงยมองอีกฝ่ายทันทีที่เขาพูดบอกออกมา “คุณจะให้หนึ่งอยู่ที่นี่ทำไม ในเมื่อคุณเองก็รัง...เกียจหนึ่งซะขนาดนี้” ปากอวบอิ่มพูดถามออกมาอย่างไม่เข้าใจในเมื่อเกลียดเธอขนาดนี้แล้วจะให้อยู่ร่วมบ้านกันทำไม และนั่นทำให้ริมฝีปากของคนทั้งคู่สัมผัสกันอย่างไม่ตั้งใจ ความรู้สึกแปลกประหลาดคล้ายกับมีกระแสไฟฟ้าวิ่งแล่นไปทั่วร่างบาง ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก น้ำหนึ่งรีบถอยกายออกห่างจากตัวชายหนุ่มโดยอัตโนมัติ แต่กลับถูกมือใหญ่กอดรัดร่างบางเอาไว้แน่นแล้วบดจูบลงไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาวอย่างรุนแรง ติณอาศัยความช่ำชองของตนส่งปลายลิ้นใหญ่ชำแรกแทรกเข้าไปในอุ้งปากของหญิงสาว ซึ่งเขาเองไม่คาดคิดเลยว่ามันจะหอมหวานได้ถึงขนาดนี้ ชายหนุ่มดูดดึงลิ้นเล็กๆ ของอีกฝ่ายที่พยายามหลีกหลบจากการกระหายอยากของเขาให้ได้...แต่มีหรือที่เขาจะยอม ความตั้งใจที่จะไม่แตะต้องผู้หญิงคนนี้มันได้ถูกเบี่ยงเบนความสนใจด้วยความหอมหวานเย้ายวนใจจากริมฝีปากอวบอิ่มของอีกฝ่ายจนยากที่ละออกห่างได้ ติณบดจูบหนักหน่วง ร้อนแรง ไม่สนใจกับอาการขัดขืนของหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาเลยแม้แต่น้อย ความดิบเถื่อนจากการกระทำของเขาทำให้น้ำหนึ่งตกใจเป็นอย่างมาก ติณจูบเอาจูบเอาจนริมฝีปากของน้ำหนึ่งเห่อแดงขึ้นมาอย่างมาก หญิงสาวอยากจะร้องห้ามแต่ก็ไม่เป็นผล ยิ่งเธอพยายามผลัก เขาก็ยิ่งกระโจนเข้าหา และยิ่งไปกว่านั้น มือใหญ่ที่ในตอนแรกกอดรัดร่างหญิงสาวเอาไว้ตอนนี้แปรเปลี่ยนมาเป็นกอบกุมอยู่ที่ทรวงอกของน้ำหนึ่งแทน ติณบีบเคล้นอย่างแรงและเอาแต่ใจ “อย่า! ปล่อย...หนึ่ง...” น้ำหนึ่งร้องออกมาและพยายามขัดขืน น้ำตาไหลรินอาบแก้มด้วยความสมเพชตัวเองที่ต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ ติณเองตอนแรกนั้นเขาไม่ได้คิดจะสนใจในสิ่งที่อีกฝ่ายขอร้องออกมา แต่เป็นเพราะรสเค็มปร่าของน้ำตาที่เขาได้สัมผัสจากริมฝีปากของหญิงสาว มันผสมปนเปรวมไปกับรสสวาทที่เขาหักหาญเอากับอีกฝ่ายมันทำให้สติของติณกลับคืนมา ร่างบางถูกผลักออกห่างอย่างแรงจนเซถลาไปกระแทกเข้ากับผนังห้องอย่างแรงจนร่างทรุดลงไปกองกับพื้นห้อง ในขณะที่ร่างสูงใหญ่ของติณเองนั้นก็ก้าวถอยหลังออกห่างไปเช่นกัน ก่อนจะสบถออกมาด้วยถ้อยคำที่รุนแรง “บัดซบ!”ติณปรายตามองอีกฝ่ายด้วยความเย้ยหยันแล้วพูดต่อ “นี่เป็นการสั่งสอนผู้หญิงอย่างเธอ...แล้วอย่าคิดนะว่าฉันจะหลงเสน่ห์ของเธอล่ะ” ชายหนุ่มโกหกออกมาซึ่งๆ หน้า พยายามกลบเกลื่อนความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นมาเอาไว้อย่างมิดชิด “แต่จูบของเธอก็พอแก้ขัดได้ เอาไว้วันหลังถ้าฉันเกิดอารมณ์อยากระบายขึ้นมาเมื่อไหร่ฉันจะนึกถึงเธอเป็นคนแรกก็แล้วกัน แม้ว่ามันอาจจะมีกลิ่นเหม็น...เน่าบ้างก็นะ...ฉันเข้าใจ...ฮะฮะฮะฮะ” ติณหัวเราะออกมาอย่างสะใจที่คำพูดของเขาทำให้อีกฝ่ายต้องเสียน้ำตาได้อีกครั้ง ผิดกับน้ำหนึ่งที่ยืนร้องไห้น้ำตาไหลพรากกับคำพูดส่อเสียดว่ากล่าวของชายหนุ่ม ‘เธอทำผิดมากมายเลยหรือ...เธอผิดที่ช่วยเหลือพี่ฟ้าของเธอให้มีความสุขกับคนรัก...สิ่งนี้คือความผิดอย่างนั้นเหรอ... ผู้หญิงเขาไม่รัก ต่อให้แต่งงานกันก็เถอะยังเขาก็ไม่รัก เรื่องของความรักมันบังคับใจกันไม่ได้หรอก เหมือนกับเธอที่แอบรักผู้ชายตรงหน้านี้เหมือนกัน ในเมื่อคนมันรักแล้วต่อให้พยายามหักใจยังไงมันก็ยังทำไม่ได้สักที เมื่อไหร่น้ำหนึ่ง เมื่อไหร่เธอจะเลิกรักผู้ชายคนนี้ได้สักที...’ น้ำหนึ่งได้แต่รำพันถามตัวเองในใจ “หนึ่ง...หนึ่งอยากอยู่คนเดียว” “แล้วเธอคิดว่าฉันอยากอยู่กับเธอนักรึไง แค่อยู่ใกล้ก็เหม็นจนอยากจะอ้วกอยู่แล้ว” ติณพูดสวนกลับแทบจะทันที “เชิญเธอนอนฝันอยู่ในห้องนี้ไปคนเดียวเถอะ ฉันจะไปนอนที่อื่น เพราะยังไงการแต่งงานหลอกๆ นี้อีกไม่กี่วันมันก็จะจบลงแล้ว เธออย่าได้คิดหวังไปไกลว่าคนอย่างฉันจะเอาผู้หญิงอย่างเธอมาทำเมียยกออกหน้าออกตาซะล่ะ เพราะมันจะไม่มีวันนั้นอย่างแน่นอน” ติณพูดพร้อมกับเดินกระแทกเท้าเพื่อเดินออกจากห้องไป “หนึ่งก็ไม่มีวันยอมที่จะเป็นเมียคุณเหมือนกัน” คำพูดของน้ำหนึ่งทำให้การก้าวขาของชายหนุ่มหยุดชะงักทันที ก่อนจะหันหน้ากลับมามองหญิงสาวอีกครั้ง “ปากดี! ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอไม่อยากที่จะเป็นเมียของฉัน ฉันว่าเธอน่ะอยาก...จนตัวสั่นเลยละไม่ว่า จะบอกให้เอาบุญนะ ผู้หญิงอย่างเธอถ้าให้เอาฟรีๆ ชั่วครั้งชั่วคราวก็พอได้อยู่ แต่ถ้าให้เอามาทำเมียและเป็นแม่ของลูกละก็ไม่มีผู้ชายหน้าไหนเขาเอาหรอกฉันจะบอกให้” “ออก...ไป! หนึ่งอยากอยู่คนเดียว” เสียงไล่อีกฝ่ายที่พูดบอกออกมาพร้อมกับยกมือชี้นิ้วไปที่ประตู น้ำหนึ่งน้ำตาไหลพรากอย่างห้ามไม่อยู่ “ไปอยู่แล้ว! เธอไม่ต้องมาไล่ฉัน” ติณพูดเสียงกระด้างพร้อมกับกัดฟันแน่น ก่อนจะกระแทกเท้าเดินหน้างอออกไปทันที เสียงปิดประตูดังโครมใหญ่กระทบเข้ามาในโสตประสาทให้ได้รับรู้ว่าบัดนี้น้ำหนึ่งได้อยู่เพียงลำพังภายในห้องอย่างที่เธอต้องการแล้ว ร่างบางเซไปพิงกับผนังห้องพร้อมกับค่อยๆ ทรุดลงไปกองที่พื้น หญิงสาวกอดเข่าร่ำไห้เสียงสะอื้นออกมาเหมือนกับเด็กน้อยที่ร้องไห้หาแม่ก็ไม่ปาน ติณคนเก่าของเธอนั้นหายไปไหนแล้ว คนที่เคยพูดจาไพเราะเหมือนทุกครั้งที่เคยเจอคนนั้นหายไปไหน คนที่มีน้ำใจให้กับเธอช่วยเหลือทุกเรื่องที่เธอร้องขอนั้นอยู่ที่ไหน ทำไมติณที่เธอเจอในเวลานี้เขาคือใครกัน ทำไมถึงได้พูดจาเหยียดหยามดูถูกดูแคลนเธอเช่นนี้ “ฮือ...พี่ติณ...ทำไมพี่ติณถึงว่าหนึ่งขนาดนี้...ฮือๆ...ทำไม...” ความเจ็บปวดจากคำพูดของชายหนุ่มได้แทรกซึมเข้าไปในหัวใจของหญิงสาวจนทั่วทุกอณู และมันกำลังแพร่กระจายความร้าวรานออกมาอย่างไร้ความปรานีจนน้ำหนึ่งต้องยกมือขึ้นกุมที่อกข้างซ้ายของตัวเองอย่างคนที่เจ็บปวดเจียนตาย เรียวปากสั่นระริกเม้มเข้าหากันแน่น ดวงตาหญิงสาวคลอรื้นไปด้วยม่านน้ำตาก่อนจะยกมือขึ้นป้ายปาดน้ำตาที่ไหลออกมาจากความชอกช้ำนั้นทิ้งไป น้ำหนึ่งสะอื้นไห้จนร่างบางนั้นสั่นสะท้านก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ แล้วเดินกลับไปที่เตียงนอนซึ่งมีกลีบกุหลาบสีแดงรูปหัวใจบรรจงตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามอยู่บนเตียง ร่างบางทรุดนั่งลงข้างๆ เตียงนอนแทน ยิ่งเห็นน้ำตาของหญิงสาวก็ยิ่งไหลรินมากขึ้นเป็นทวีคูณ จนไม่สามารถที่จะนั่งลงบนเตียงนั้นได้เลยจริงๆ เตียงหลังนี้มันควรจะเป็นของคนที่เป็นคู่รักกัน ซึ่งเธอไม่ใช่! เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้เตียงนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ร่างสูงใหญ่ของติณที่ก้าวออกมาจากห้องหอแล้วชายหนุ่มก็เดินตรงดิ่งไปที่ห้องรับรองแขกของบ้านทันที ขายาวเดินกระแทกเท้าตึงๆ ก่อนจะเปิดประตูห้องและปิดลงเสียงดังสนั่นอย่างคนหัวเสียสุดๆ พวงมาลัยที่คล้องอยู่ในคอถูกดึงกระชากออกอย่างแรงและขว้างทิ้งลงกับพื้นอย่างไม่ไยดี ภายในใจของชายหนุ่มมีแต่เพียงไฟแค้นที่โหมลุกโชนขึ้นเผาไหม้อยู่ภายในอก เขาอยากจะฆ่ายัยเด็กนั่นให้มันตาคามือของเขานัก! “โธ่โว้ย!”ติณพูดบอกออกมาเสียงดังด้วยความไม่พอใจอย่างมาก ก่อนจะทิ้งร่างลงนอนแผ่หลาลงบนเตียงนอนหนานุ่มหลังใหญ่ ชายหนุ่มรู้สึกขัดใจตัวเองเป็นอย่างมาก เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงต้องไปจูบยัยเด็กนั่นด้วย ในเมื่อเขาเองนั้นก็แสนจะรังเกียจน้ำหนึ่งอย่างกับอะไรดี แต่ทำไมในใจเขาตอนนี้ถึงต้องร่ำร้องอยากที่จะเดินกลับเข้าไปในห้องหอนั่นอีกครั้งหนึ่งกัน ไม่! เขาก็แค่เผลอไปชั่วครู่เท่านั้น ไม่มีทางที่จะไปคิดเป็นอย่างอื่นกับผู้หญิงที่เขารังเกียจไปได้หรอก แต่จะทำยังไงกับร่างกายตอนนี้ดีที่อยู่ๆ มันก็เรียกร้องความต้องการบางอย่างจนซอกขาของเขาตอนนี้มันคับแน่นจนแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วมองดูหลักฐานสำคัญที่ทำให้เขาต้องเจ็บปวดอยู่ในขณะนี้อย่างหัวเสีย สองมือกำหมัดแน่นก่อนจะทุบลงบนที่นอนข้างกายอย่างแรงเพื่อหวังที่จะระบายความกำหนัด “มันเกิดบ้าอะไรขึ้นมาละเนี่ย ไอ้บ้าติณเอ้ย!” เขาสบถด่าตัวเองออกมา “จะไปคิดถึงยัยนั่นทำไมกัน หยุดคิดสักทีสิ” ชายหนุ่มได้แต่พูดบอกกับตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอน เขาเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องด้วยความหงุดหงิด พยายามบอกกับตัวเองให้หยุดคิดถึงเจ้าสาวจอมปลอมที่อยู่ในห้องหอนั่นเสียที แต่เพราะความหอมหวานที่เขาได้ลิ้มลองนั้นหวานล้ำเกินห้ามใจมันกลับยิ่งทำให้ชายหนุ่มเกิดความกำหนัดมากขึ้นไปมากกว่าเก่า ความคับแน่นที่ซอกขาเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นจนเป้ากางเกงของเขานั้นแทบจะปริอยู่รอมร่อ “ไม่! ฉันต้องไม่รู้สึกอะไรกับเธอทั้งนั้นนอกจากความเกลียดแค้นและชิงชังเท่านั้น” เขาพูดบอกกับตัวเอง ก่อนที่จะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองออกจากกายอย่างรวดเร็ว แล้วเดินเข้าไปภายในห้องน้ำเพื่อหวังให้สายน้ำเป็นผู้ดับความร้อนรนกับความต้องการทางกายที่กำลังเผาไหม้กายของเขาในขณะนี้ให้มันหมดไป หาไม่แล้วเขาคงจะได้เดินกลับไปสานต่อเรื่องบ้าๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเขาที่ห้องหอนั้นแทนเป็นแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD