บทที่ 14 หนูกลัวว่าสักวันเราจะต้องเลิกกัน

3164 Words
บทที่ 14 หนูกลัวว่าสักวันเราจะต้องเลิกกัน ที่คอนโด M.. พี่ราชันเดินจูงมือฉันมาตลอดทาง พอมาถึงห้องเขาก็ปล่อยมือฉัน แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างเหนื่อยๆ ฉันจึงเดินเลี่ยงเข้ามาในห้องนั่งลงที่เตียงก้มหน้าลงอย่างหงอยๆ เพราะรู้สึกไม่ดี วันนี้ฉันไม่น่าไปเลย ทำให้พี่ราชันไม่ได้อยู่งานวันเกิดของย่าเขา แล้วฉันก็กลัวว่าเขาจะทะเลาะกับครอบครัว พรึบ! พี่ราชันเข้ามาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ซึ่งเขาเข้ามานั่งคุกเข่าตรงหน้าฉัน มือใหญ่ของเขาจับมือฉันไปทาบไว้ที่หน้าของเขา “อย่าเครียด” ผมจูบมือน้อยเบาๆ เพื่อปลอบขวัญเธอ “พี่จะทะเลาะกับย่ารึเปล่า” ฉันเป็นกังวล เพราะกลัวท่านจะไม่พอใจ “ไม่หรอก” ผมส่ายหน้า “หนูกลัวว่าท่านจะให้พี่เลิกกับหนู” ฉันลูบหน้าหล่อของพี่เขาเบาๆ “ฟังนะเหมย พี่มายืนตรงนี้มันคือความต้องการของพี่ แล้วนี่คือชีวิตพี่ ถ้าพี่ฟังย่าตั้งแต่แรก พี่หมั้นกับโยชิตาไปตั้งนานแล้ว ไม่รอให้มาเจอเธอหรอก แต่พี่ไม่ได้รักโยชิตา ฉะนั้นจะไม่มีใครมาบังคับพี่ได้” ผมอธิบายยาวเหยียด แล้วมองหน้าเธออยากให้เธอรู้ว่าผมพูดจริงๆ “พี่ชัน” ฉันพยักหน้ารับรู้ เชื่อใจเขาแหละตอนนี้ “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้เชื่อใจพี่นะ” ผมบอกแล้วโน้มหน้าเข้าไปใกล้หน้างาม จูบแก้มและปลายคางของเธอเบาๆ “อื้ออ” ฉันร้องขึ้นในขณะที่ริมฝีปากถูกประกบเข้ามาอย่างเร็ว ฉันยกมือขึ้นโอบคอของพี่ราชัน จากนั้นพี่ราชันก็ดันช้าๆ ให้ฉันนอนลงบนที่นอน แล้วพี่ราชันก็ตามมาทาบทับโดยที่ริมฝีปากของเราสองคนประกบจูบกันอยู่ “เหมย” ผมกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อน้องจูบตอบผมไม่ประสีประสา “แฮ่ก แฮ่ก” ฉันหายใจเหนื่อยหอบเมื่อพี่ราชันถอนริมฝีปากออก และทันทีที่ถอนริมฝีปากออกพี่ราชันก็ก้มลงไปซุกไซ้ซอกคอฉันแทน “เหมยตัวหอมจัง” ตอนนี้พี่ราชันคำรามเสียงกระหึ่ม เมื่อจูบฉันลงไปถึงเท้า มือหนาก็จับชายกระโปรงฉันขึ้นแล้วลูบไล้ตามตัวฉัน “พี่ชัน หยุด” ฉันพยายามตั้งสติแล้วผลักให้เขาออกจากจุดอ่อนไหวของฉัน “พี่หยุดไม่ได้แล้ว” พี่ราชันตอบฉันมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแล้วทำตาเยิ้ม จากนั้นก็จับมือฉันไปจับที่เป้าของเขาที่ตอนนี้มันแข็งจนดันกางเกงออกมาแล้ว “บ้าไปแล้ว นี่พี่ชัน” ฉันพยายามชักมือกลับแล้วมองเขาอย่างเขินอาย “ขอนะ” พี่ราชันบอกแล้วก็เลิกชุดฉันขึ้นมาจนเห็นบราและแพนตี้ของฉัน จากนั้นเขาถอดชุดฉันออกโดยมีฉันให้ความร่วมมือ แล้วเอื้อมมือมาจับที่หน้าอกฉันแล้วบีบๆ ผ่านบราของฉัน “อื้อ พี่...ฉันรู้สึกโลกจะหยุดหมดค่ะ” ฉันครางเสียงกระเส่า มันซ่านสยิวบอกไม่ถูก เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันถูกผู้ชายสัมผัส พี่ราชันเอื้อมมือสอดไปด้านหลังแล้วปลดตะขอเสื้อในฉันออกทำให้เต้าปรากฏสู่สายตาเขา “พี่กินนมหน่อยนะ” พี่ราชันทำหน้าหื่นแล้วก้มจูบไปตามร่องนมฉัน “อื้ออ” ฉันร้องขึ้นทันทีที่พี่ราชันประกบปากเข้ากับยอดอกของฉัน แล้วดูดดึงจนเกิดเสียงดัง มือของเขาประกบที่เนินเนื้อลูบเบาๆ แต่สัมผัสนั่นทำให้ฉันเสียวท้องน้อยแปลกๆ “กลัวเหรอ” อาการสั่นระริกแตะตรงไหนผิวก็สะดุ้งตามมือของผม ผมถามน้องพร้อมถอดเสื้อผ้าออกจากตัว ผมโยนเสื้อและกางเกงไปกองรวมกับเสื้อผ้าของน้อง “พี่คะ” ฉันเม้มปากครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เมื่อมือของพี่ราชันลูบตรงนั้นของฉัน แล้วจากนั้นพี่ราชันก็ถอดแพนตี้ฉันออกโดยที่ปากยังไม่หยุดดูดนมฉัน เขาเล่นกับหน้าอกฉันเนิ่นนานจนฉันรู้สึกเปียกที่ช่วงล่าง มือใหญ่ที่วนลูบตรงของฉันแล้วเปลี่ยนมาจับขาสองข้างให้แยกออกจากกันแล้วสอดนิ้วเข้ามา จนฉันต้องแขม่วท้องเอาไว้ เสียงดูดนมกับเสียงด้านล่างดังแข่งกับเสียงครางของฉัน “อ๊ะ พะ พี่ชัน พะ พอ” ฉันร้องบอกเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว ฉันรู้สึกต้องการมากกว่านั้น พี่ราชันเงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉันที่มองเขาอย่างต้องการ แล้วเขาก็ผละออกไปเพื่อถอดกางเกงใน พอพี่เขาแปลงร่างเป็นเด็กแรกเกิดแล้วฉันก็มองเขาตาค้าง เพราะไอ้นั่นของเขาปรากฏแก่สายตาฉันตอนนี้มันใหญ่จนน่ากลัว แต่ไม่ทันได้คิดอะไรต่อพี่ราชันก็เข้ามาทาบทับตัวฉัน แล้วแทรกตัวเข้ามาที่หว่างขาฉัน มือร้อนบีบเคล้นที่หน้าอกฉันอย่างเมามัน ปากร้ายนั่นก็เข้ามาดูดดึงเต้าทั้งสองสลับกันไปมาอย่างแรงกลัวว่ามันจะน้อยใจ ฉันระบายความเสียวซ่านด้วยการจิกเล็บที่หัวของเขา “อ๊ะ เจ็บ” ฉันร้องขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรเข้ามาในร่างกาย มันแน่นจนฉันเจ็บ “ชู่วว์ ทนอีกนิดนะครับ” ผมถอนหายใจอย่างระงับอารมณ์แล้วยื่นหน้าลงมาจูบที่หน้าผากของน้องเพื่อปลอบประโลม รู้ว่าน้องยังบริสุทธิ์และผมเป็นชายคนแรกของเธอ “อื้ออ” ฉันเบิกตากว้างขึ้นทันทีที่รู้สึกว่าอะไรที่มันดันๆ อยู่ในตอนแรก แต่ตอนนี้มันพรวดเข้ามาอยู่ในร่างกายฉันแล้ว “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ” ผมเช็ดน้ำตาให้น้องด้วยริมฝีปากจูบซับความเจ็บของน้องให้มาเป็นของผม “ฮึก เจ็บ” ฉันเบ้ปากใส่เขาแล้วทำเสียงงอแง “ซี้ดด อย่ารัดแน่นที่รัก” ผมครางเสียงต่ำซี๊ดซ๊าดเหมือนกินพริกร้อยเม็ดยามขยับส่วนล่างในตัวน้องน้อย “พี่คะ” ฉันเผลอร้องครางออกมา เมื่อมือของพี่ราชันก็ยังไม่หยุดบีบที่หน้าอกฉันเพื่อสร้างอารมณ์ “แน่นจังที่รัก” พี่ราชันครางในลำคออย่างพอใจ แล้วโน้มตัวลงมาจูบที่ปากฉัน ฉันจึงยกมือขึ้นโอบรอบคอเขาแล้วจูบตอบเขา “พะ พี่ชัน” ฉันร้องครางออกมาอย่างไม่อาย เมื่อพี่ราชันถอนริมฝีปากออกแล้วขยับเอวเร็วขึ้น “ครับที่รัก” เสียงเนื้อกระทบดังแข่งกับเสียงครางของฉันและพี่ราชัน มือของพี่ราชันก็ยังคงฟอนเฟ้นหน้าอกฉันไม่หยุด แถมตอนนี้เขายังก้มลงไปดูดดึงยอดอกฉันอย่างหื่นกระหาย “พี่คะ ตะ ตรงนั้น” ฉันร้องขึ้นเพราะรู้สึกเสียวซ่านทั้งข้างบนและล่าง “ขอกินนมหน่อยนะครับ” ผมเงยหน้ามองน้องอย่างอ้อนๆ แล้วก้มลงไปดูดนมต่อ ส่วนท่อนล่างผมไม่หยุดพักยังขยับเร็วขึ้นและช้าบ้างตามอารมณ์ปรารถนา “พี่ชัน นะ หนู อ๊ะ” ฉันครางเสียงดังเพราะมันรู้สึกโหวงๆ แปลกๆ “อ่าส์ อ๊ะ ใกล้แล้วที่รัก” ผมยังคงกระแทกเข้าออกอย่างมัวเมา ก่อนที่ร่างกายของผมและเธอจะกระตุกเกร็ง “อ๊ะ กรี๊ดดด” ส่วนฉันก็ร้องกรี๊ดเสียงดัง ตอนนี้เหมือนว่าตัวฉันนั้นลอยอยู่ในปุยเมฆ ตัวฉันมันดูเลื่อนลอย “อ่าส์” พี่ราชันกระแทกเข้ามาครั้งสุดท้ายแล้วครางเสียงดัง “แฮ่ก แฮ่ก” ฉันหายใจอย่างเหนื่อยๆ ส่วนพี่ราชันก็ถอนตัวตนออกแล้วซบหน้าลงหน้าอกฉัน เขาหอบหายใจเหนื่อยไม่ต่างจากฉัน แต่ที่ต่างคือตอนนี้ลมหายใจร้อนๆ ของเขากำลังเป่ารดหน้าฉันอยู่นี่แหละ แต่ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะตอนนี้มันเหนื่อยจริงๆ “ต่อนะ” พอเริ่มหายใจสะดวก พี่ราชันก็เงยหน้าขึ้นมาจากหน้าอกฉันแล้วทำหน้าอ้อน “ห๊ะ พะ พี่ราชัน อ๊ะ” ฉันกำลังทำหน้างงก็ต้องร้องครางออกมาอีกครั้ง เมื่อเขาดันท่อนเอ็นฉ่ำน้ำรักของฉันและเขาเข้ามาอีกครั้งแล้วเริ่มขยับ โดยไม่ฟังเสียงห้ามของฉันเลยสักนิด พั่บๆๆ.. แล้วทั้งห้องก็มีแต่เสียงครางของฉันและเขาดังขึ้นอีกครั้ง ซึ่งกว่าพี่ราชันจะถอนท่อนเอ็นออกจากตัวฉัน ตาฉันก็แทบจะปิด พี่ราชันเข้ามาคลอเคลียที่หน้าฉันเหมือนแมวน้อยที่ได้กินปลา “พี่รักเธอนะเหมย” ผมก้มจูบปากอิ่มที่แดงระเรื่อเพราะผมเป็นคนทำ จูบครั้งไหนก็บอกรักเธอ รักเธออยู่อย่างนั้น อยากจะปลุกให้เธอตื่นขึ้นมาฟังคำบอกรัก แต่เขาก็ไม่อยากกวนเธอ เพราะผมคิดว่าผมยังมีเวลาบอกรักน้องตลอดชีวิต… เช้าวันใหม่.. ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการเจ็บปวดไปทั้งตัว ขยับไปทางไหนก็ต้องซูดปากกัดริมฝีปากไว้แน่น ฉันพยายามขยับตัวในผ้าห่ม หัวที่หนุนแขนใหญ่ก็หันมองไปรอบๆ ห้องแล้ววกสายตากลับมามองคนตัวโตที่นอนกอดเธออยู่ข้างหลัง “พี่ชัน” ฉันเรียกพี่เขา เมื่อวงแขนใหญ่ยังคงกระชับกอดฉันแน่นขึ้น แม้แต่ใบหน้าหล่อก็ยังซุกที่ซอกคอของฉันอีก “จะไปไหน” เมื่อน้องจับแขนผมออกจากเอวกิ่ว ผมก็ขยับตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนถามน้องชิดขมับนุ่ม “เข้าห้องน้ำ” ฉันไม่กล้าหันไปมองพี่ชัน ถ้าหันไปมองข้างแก้มแดงอมชมพูของฉันคงถูกจูบแน่ “ลุกไหวไหม” ผมถามน้องชิดหัวไหล “พี่” คำถามของพี่ชันทำให้ฉันอายมาก ซึ่งฉันไม่กล้าหันไปมองเขา ฉันจึงดึงผ้าห่มขึ้นมาคุมโปง “ฮาๆ” “พี่ชัน” เสียงหัวเราะของพี่ชัน ทำให้ฉันขยับตัวในผ้าห่มหันไปนอนหน้าอกของเข แล้วทุบหน้าอกของเขาหนึ่งที “อะไร” เพราะความน่ารักตัวหอมของน้อง ทำให้ผมจูบหัวเธอผ่านผ้าห่ม แล้วดึงผ้าห่มออกจนเห็นเนื้อตัวเปล่าเปื่อยของน้องแดงเถือก ส่วนฉันต้องรีบนอนงอตัวกอดตัวเองไว้ ไม่อยากให้เขาเห็นเลือดแห้งเกรอะติดซอกขาของตัวเอง “ซี้ดด” ฉันขยับก้นถอยหลังไปนั่งขอบเตียง แต่พอก้าวขาลงเหยียบพื้นแล้วพยุงตัวลุกขึ้นยืน ก็ล้มฟุบลงไปนั่งบนพื้นทันที “เหมย เป็นอะไรมั้ย ค่อยๆ ลุก” พี่ราชันรีบลงจากเตียงเข้ามาประคองฉันให้ขึ้นมานั่งลงบนเตียงอีกครั้ง “เพราะพี่นั่นแหละ หนูถึงเป็นแบบนี้” ฉันหน้าแดงอายมาก เมื่อสบตาเขา “พี่ทำอะไร” พี่ราชันทำหน้าตาย เหมือนไม่รู้สึกผิดต่อสิ่งที่เขาทำกับฉัน “ฮืออ” ฉันเบ้ปากร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ รู้แค่ว่าตอนนี้เจ็บมาก “โอ๋ๆ ขอโทษ” พี่ราชันดึงฉันไปกอดแล้วลูบหัวฉันเบาๆ “ฮึก พี่ทำหนูเจ็บ” ฉันทุบหน้าอกเขาเพื่อระบายความเจ็บผสมความอับอาย “ขอโทษครับ ไป...พี่พาไปอาบน้ำ” เขาพูดแล้วจูบที่ขมับฉัน แล้วอุ้มฉันพาเข้าห้องน้ำ… หลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำพี่ราชันก็พาฉันมากินข้าว พอกินเสร็จแล้วเขาก็ยื่นยามาให้ฉันสองสามเม็ด “อะไรคะ” ฉันเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา “ยาคุมฉุกเฉิน” เขาบอกแล้วยื่นแก้วน้ำมาให้ฉัน นั่นทำให้ฉันคิดได้ว่าเขาไม่ได้ป้องกัน ฉันจึงรับยามากินอย่างว่าง่าย “เดี๋ยวครั้งหน้าพี่จะป้องกันเอง” เขาบอกแล้วเอาแก้วที่มือของฉันไปถือไว้ “คะ ใครบอกว่าจะมาครั้งหน้า” ฉันถามเขาตื่นๆ นี่เขาคิดเองเออเองไปหมดเลย “หึ คิดว่าจะรอดเหรอ” เขากระตุกยิ้มร้ายกาจใส่ฉัน “นะ หนูไม่ยอมหรอก” ฉันพูดไปแล้วมองหน้าเขาอย่างไม่ไว้ใจ “ก็คอยดู ป่ะ...เดี๋ยวพาไปนอน” พี่ราชันวางแก้วไว้บนโต๊ะแล้วมาอุ้มฉันเดินเข้าห้อง วางฉันให้นอนบนเตียงที่มีผ้าปูพื้นใหม่ สงสัยเขาจะเป็นคนเปลี่ยนเพราะผ้าปูอันเก่ามันเปื้อนเลือดบริสุทธิ์ของฉัน “พี่” ฉันรีบลุกนั่งเมื่อเขาลุกยืน “นอนซะ เดี๋ยวพี่มา” เขาดันให้ฉันนอนลงเหมือนเดิน “ไปไหนคะ” ฉันจับแขนเขาไว้แล้วถาม “ไปเก็บของ” เขาบอกแล้วยกมือขึ้นมาแตะแก้มของฉัน “เก็บของอะไรคะ” ฉันถาม “ก็เก็บของเธอย้ายมาอยู่กับพี่ไง” เขาบอกนิ่งๆ “ห๊ะ ถามหนูมั้ย” ฉันชี้เข้าที่ตัวเอง “ไม่จำเป็น ผัวเมียกัน ก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ” พี่ราชันบอกแล้วเดินออกจากห้อง ปล่อยให้ฉันนั่งอ้าปากค้าง นี่ใจคอเขาจะไม่ถามฉันเลยใช่ไหมว่าตกลงจะอยู่กับเขาไหม นี่เขาจะมัดมือชกแบบนี้ไม่ได้นะ… สองวันต่อมาที่มหาวิทยาลัย M เวลา 14.56 น. วันนี้ฉันเข้ามามหาวิทยาลัยในตอนบ่าย เพราะสายรหัสเรียกมาตัดโมเดลช่วยพี่เฟรนด์ ทวดรหัสของฉัน ที่จริงวันนี้ไม่มีเรียน ส่วนพี่ราชันมีเรียนถึงบ่ายสามโมง ฉันจึงมานั่งรอเขาหลังจากแยกกับพี่ๆ ส่วนเรื่องวันนั้นน่ะ พี่ราชันเขาทำจริงค่ะ เขาไปเก็บของฉันจากบ้านแล้วฉันก็ยังไม่ได้กลับห้องเลย เพราะพี่ราชันไม่ยอมให้กลับ Rrrrrr.. สายเรียกเข้า : พี่ราชัน “ค่ะ” ฉันกดรับแล้วกรอกเสียงไปยังปลายสาย “เสร็จรึยัง” พี่ราชันถาม และฉันยังได้ยินเสียงพูดกันดังอยู่ใกล้ๆ สงสัยคงจะเป็นเพื่อนพี่เขานั่นแหละ “เสร็จแล้วค่ะ หนูนั่งรอพี่อยู่ใต้ตึกคณะ” ฉันบอกไป “เดี๋ยวไปรับ” “เรียนเสร็จแล้วเหรอคะ” ฉันยกแขนขึ้นเพื่อดูเวลาในนาฬิกา “ครับ” พี่ราชันตอบกลับมาอย่างสุภาพ “โอเคค่ะ” ฉันกดวางสายแล้วเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า แล้วลุกขึ้นเพื่อไปยืนรอพี่ราชันที่หน้าคณะ เวลาเขามาเขาจะได้ไม่ต้องลงรถให้เสียเวลา จึกๆ!! “คะ” ฉันหันไปมองคนที่มาสะกิดแขนฉัน “พี่ชื่อเรนนะ” พอหันไปก็เห็นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาดีนะ เขาอยู่ในชุดสีขาวสะอาด มองก็รู้ว่าอยู่ที่คณะแพทย์ “คะ เอ่อ เหมยค่ะ” ฉันมองเขางงๆ ที่จู่ๆ ก็มาแนะนำตัว “น้องน่ารักจัง” เขายิ้มให้ฉันตาหยี “เอ่อ ขอบคุณค่ะ” ตอนนี้ฉันงงมากกว่าจะเขินนะ เพราะจู่ๆ เขาก็มาชมฉันซะงั้น “มายืนรอใคร” เขาถาม “เอ่อ มารอฟะ..” “เหมย” เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยนั้นทำให้ฉันหยุดพูด แล้วหันไปมองคนที่มาใหม่แล้วยิ้มให้ “อ้าว นึกว่าใคร” พี่เรนทักขึ้นแล้วมองไปที่พี่ราชันอย่างกวนๆ “มึงมาทำอะไร” พี่ราชันเดินมายืนข้างฉัน แล้วมองพี่เรนนิ่งๆ นี่รู้จักกันเหรอ “เปล่า กูแค่ผ่านมาแล้วเห็นน้องเขายืนอยู่เลยเข้ามาทัก” พี่เรนบอกกวนโอ๊ยมาก “มึงมีเวลาว่างขนาดนั้น” พี่ราชันถามเสียงตึง “ก็ต้องมีสิวะ เลยเอาเวลาว่างมาหาจีบสาวนี่ไง” พี่เรนพูดแล้วหันมามองหน้าฉัน นี่ฉันไปเกี่ยวไรด้วยเนี่ย พอพี่เรนพูดอย่างนั้นพี่ราชันก็เอามือมาโอบไหล่ฉันไว้ “อ้าว นี่แฟนมึงเหรอ” พี่เรนมองมามือพี่ราชันที่โอบไหล่ฉันอยู่แล้วถามขึ้น “สาบานว่ามึงไม่รู้ว่านี่แฟนกู” พี่ราชันพูดแล้วจ้องหน้าพี่เรนตาเขม็ง “ถ้ารู้แล้วจะมาจีบเหรอ” พี่เรนพูดขึ้นอย่างกวนๆ จนฉันรู้สึกว่าเขาติดเล่นเกินไป ต่างจากพี่ราชันที่ตอนนี้ดูจริงจังมาก “กูไม่เล่นไอ้เรน” พี่ราชันพูดขึ้นเสียงนิ่ง “กูก็ไม่เล่น” พี่เรนยักไหล่ขึ้นแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “กลับ” พี่ราชันหันมามองหน้าฉันนิ่งๆ แล้วแย่งกระเป๋าฉันไปถือ “เฮ้ยๆ ใจเย็นนนน” แล้วพี่เรนก็ร้องขึ้น เมื่อพี่ราชันตั้งท่าจะพาฉันเดินหนี “มีอะไรก็ว่ามา อย่ากวน” พี่ราชันชี้หน้าพี่เรน “เห็นนมบอกว่าแฟนมึงน่ารัก เลยอยากมาทำความรู้จักว่าที่พี่สะใภ้” พี่เรนพูดแล้วหันมามองฉันตาหวาน “มึงนี่แม่ง อย่ามองมาก กูหวง” พี่ราชันสบถออกมาอย่างหัวเสียแล้วเอาตัวมาบังฉันไว้ “พี่ราชัน เกินไปแล้วนะ แล้วนี่ยังไงคะ หนูงงไปหมดแล้ว” ฉันดันตัวเขาออก ไม่ยอมให้เขายืนบัง “ไอ้เรนเป็นลูกพี่ลูกน้องพี่” พี่ราชันถอนหายใจแล้วแนะนำ “อ๋อค่ะ” ฉันพยักหน้ารับแล้วหันไปยิ้มให้พี่เรน “อย่ายิ้มให้มัน” พี่ราชันเอามือมาปิดปากฉันแล้วพูดเสียงดุ วันนี้พี่ราชันเหมือนเด็กเลย เด็กที่หวงของเล่นอ่ะ “เกินไป เกินไปแล้วไอ้ชัน” พี่เรนพูดขึ้นอย่างเอือมๆ “มึงมีอะไรอีกมั้ย” พี่ราชันหันไปมองแรงใส่พี่เรนแล้วถามขึ้น “พรุ่งนี้มึงพาน้องเหมยไปเปล่า” พี่เรนทำหน้าขรึม “ไป” พี่ราชันตอบเสียงนิ่ง “ไปไหนคะ” เป็นอีกครั้งที่ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย ได้แต่ยืนงง ดูเขาคุยกันเนี่ย “ไปบ้านเด็กกำพร้าครับ” พี่เรนบอก “ย่าอยากไปทำบุญ” พี่ราชันพูดเสริม “หนูไม่ไปได้มั้ย” ฉันทำท่าอึกอัก บอกตรงๆ ไม่อยากไปเลย “ไปเถอะน้องเหมย ไม่งั้นนะไอ้ชาโดนยัยโยคาบไปแดกแน่” พี่เรนพูดขึ้นขำๆ “เธอจะไปด้วยเหรอคะ” ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องไปทุกงานด้วย แล้วยิ่งรู้ว่าพี่ราชันมีแฟนแล้วเธอควรถอยหรือเปล่า “โอ๊ย!! รายนั้นน่ะไปทุกงาน” พี่เรนพูดติดตลก แต่ฉันไม่ตลกเลยสักนิด ฉันทำท่าคิดหนักใจ เพราะกลัวว่าจะไปทำให้งานกร่อย “น้องเหมยต้องสู้นะ พี่เชียร์เรา พี่ไม่ชอบยัยนกหวีดนั่น” พี่เรนพูดแล้วทำหน้าขยาดเมื่อพูดถึงโยชิตา “งั้นไปก็ได้ค่ะ” ฉันทำท่าคิดแล้วบอกพี่ๆ ว่าฉันจะไป ฉันไม่ยอมให้ยัยนั่นไปทำคะแนนฝ่ายเดียวหรอก แม้ว่าคุณย่าจะปลื้มยัยนั่นมากก็เหอะ…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD