ช่วงสายของวันหนึ่ง
" ใครอะหล่อจัง " เสียงซุบซิบของพนักงานสาวเมื่อเจอเข้ากับชายหนุ่มรูปร่างสูงดูดีใบหน้าขาวใสสะอาดราวกับอาบน้ำวันละสิบรอบกำลังเดินตรงมาทางพวกเธอ
" สวัสดีครับ มาหากวิน " รามิลเอ่ยขึ้น
" สักครู่นะคะ ให้เรียนว่าใครมาคะ " พนักงานคนนึงถามขึ้นมา
" รามิลครับ " เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มเรียกแขก พนักงานกดโทรศัพท์ติดต่อขึ้นไปก่อนจะได้รับคำตอบจากปลายทาง
" เชิญค่ะ " พนักงานคนนั้นผายมือก่อนเดินนำเขาขึ้นไปที่ชั้นทำงานของกวิน ระหว่างทางลิฟท์ก็ทำเอาหัวใจของพนักงานสาวเต้นระส่ำเพราะความหล่อของเขาไหนจะไอ้รอยยิ้มบางๆบนใบหน้านั่นอีกทำเธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ด้านหลัง
ติ้ง~~~~~~
" เชิญทางนี้ค่ะ "
" ขอบคุณครับ " พนักงานเปิดประตูส่งเขาเข้าไปด้านในก่อนจะเดินกลับลงไปเมื่อเสร็จสิ้นงานที่ต้องรับผิดชอบ
" ท่านประธานผมมาขออนุญาติรับเด็กฝึกงานของท่านไปรับประทานข้าวเที่ยงได้หรือเปล่าครับ " รามิลเดินไปนั่งที่เก่าอี้หน้าโต๊ะทำงานของกวินก่อนจะเอ่ยด้วยท่าทียียวน จนเขาละสายตาจากกองเอกสารมามองเขาแวบหนึ่ง
" ที่มานี่เพราะเรื่องนี้? " กวินเอ่ยออกมาสั้นๆ ทำเอารามิลหัวเราะหึในลำคอ
" ก็ตั้งใจจะมาดูนี่แหละว่าเธอฝึกงานกันเป็นยังไงบ้าง มาสร้างเรื่องอะไรให้ลำบากใจหรอเปล่า " รามิลเข้าโหมดจริงจัง กวินปิดแฟ้มเอกสารเล่มสุดท้ายลงก่อนจะเงยหน้ามาสบตากับรามิล
" เรียนรู้งานเร็วดี " กวินบอกออกมาทำเอารามิลยิ้มออกมาเขาคิดไม่ผิดที่ช่วยสองคนนี้ให้มาฝึกงานที่นี่
" กูจะแวะมาชวนเกลกับมะลิไปกินข้าวเที่ยงมึงไปด้วยกันไหม กูจะมาบอกลาเธอด้วย " รามิลพูดพร้อมกับแววตาเศร้าลงในประโยคสุดท้าย
" ทำไมวะ ไปไหน " คำถามของกวิน รามิลเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กวินฟัง
" เอาใจช่วย ไม่ไหวก็เรียกกูได้ตลอด " กวินรับรู้เรื่องราวก่อนจะพูดออกมาอีกใจก็อยากจะช่วยเพื่อนแก้ปัญหา ทว่าหากยอมรับความช่วยเหลือง่ายๆคงไม่ใช่นิสัยของรามิล
" เรื่องสองคนนั้น กูฝากมึงหน่อยได้หรือเปล่า " รามิลพูดมาทำให้กวินจ้องตากับเขาจริงจัง
" ถ้าเขาสนุกกับการทำงานที่นี่มึงช่วยรับพิจารณาได้ไหมวะ " รามิลพูดราวกับร้องขอ
" คนเก่งอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ "
" แต่.... "
" เอางี้ หากเธออยากทำงานที่นี่ต่อกูก็จะรับ แต่ถ้าหากเธอไม่ต้องการอยู่กูก็ทำอะไรไม่ได้ " กวินเมื่อมองเห็นท่าทางของเพื่อนที่ดูเหมือนห่วงนักศึกษาฝึกงานสองคนนั้นมากเขาจึงพูดประโยคที่ยาวที่สุดในรอบปีออกมาจึงทำให้รามิลคลายกังวลลงไปเล็กน้อย
ย้อนกลับก่อนหน้าสองปี
" แสกนจ่ายครับ " รามิลที่พึ่งกลับจากต่างประเทศเขาจึงไม่รู้ว่าที่ประเทศไทยยังมีบางร้านที่รับเฉพาะเงินสด เขาแวะซื้อกาแฟที่ร้านข้างทางแต่ดันไม่มีเงินสดติดตัวไป
" ขอโทษด้วยค่ะทางร้านรับแค่เงินสด " เจ้าของร้านวัยกลางคนพูดขึ้นเขาหน้าเจื่อนเล็กน้อยพอมองไปรอบๆก็ไม่มีตู้กดเงินสดที่พอจะกดได้
" เท่าไหร่ครับ "
" 35 บาทค่ะ " ชายหนุ่มตกใจกับคำตอบเพราะไม่คิดว่ามันจะถูกขนาดนี้ ด้วยความเคยชินตอนอยู่ต่างประเทศกาแฟแก้วนึงถ้าคิดเป็นเงินไทยก็สองสามร้อยเข้าให้แล้ว
" นี่ค่ะ " หญิงสาวตัวเล็กน่ารักในชุดนักศึกษาเดินมาพร้อมกับยื่นเงินให้แม่ค้าไปสี่สิบบาท
" ขอบคุณครับ บัญชีคุณอะไร " รามิลถามกลับเธอ
" ไม่เป็นไรค่ะ เกลเลี้ยง " หญิงสาวที่มีรอยยิ้มสดใสสะกดใจของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ
" ไปก่อนนะคะ " ว่าแล้วเธอก็เดินจากไป ปล่อยให้ชายหนุ่มมองตามแผ่นหลังบางๆจนสุดสายตา เขาขับรถตามไปแต่ก็ไม่พบเธอแล้ว จนกระทั่งในวันหนึ่งเขาได้เข้าสอนในวันแรกและทำให้ได้เจอกับหญิงสาวคนนั้นอีกครั้ง
" โชคดีจังเจอเธออีกแล้ว " เขาพูดกับตัวเองเบาๆรอยยิ้งบางๆผูดขึ้นใบหน้าเมื่อมองร่างเล็กเดินขึ้นอาคารไปฉับๆ
และนั่นทำให้เขาหาโอกาสเข้าหาและพูดคุยกับเธอจนสนิทกับเหมือนในตอนนี้ ทว่าเขาเองต้องซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงไว้ ถึงแม้ว่าเขาจะชอบเธอมากแค่ไหนแต่ด้วยลูกศิษย์กับอาจารย์รู้ถึงไหนคนที่เสียหายก็คือเธอ เกวลิน
end//
" เกลโทรศัพท์เข้า " เป็นดิวที่กำลังสอนงานเกวลินอยู่พูดขึ้นเพราะเธอปิดเสียงไว้แต่ดิวดันเหลือบไปเห็นแสงไปที่หน้าจอพอดี
" เกลขอรับแปปนึงได้ไหมคะ "
" รับเลยเที่ยงพอดี ตอนบ่ายค่อยมาต่อนะ " ว่าแล้วเขาก็เดินจากไปทันที
" ค่ะ " เกวลินรับสาย
" ได้ค่ะ ที่ไหนคะ "
" ห้ะ รออยู่หน้าลิฟท์ ที่เกลทำงานนี้หรอคะ " เกวลินถามกลับท่าทีตกใจเพราะไม่คิดว่าเขามาถึงที่นี่
" มะลิไป พี่รามิลรออยู่หน้าลิฟท์ " เกวลินดึงแขนมะลิให้รีบวิ่งออกมาเพราะเกรงใจว่าเขาจะรอนานเพราะคนอื่นๆก็ออกไปทานข้าวกันตั้งแต่ 11โมงแล้ว
" แฮ่กๆ มารอนานหรือยังคะ " เกวลินถามพร้อมเสียงเหนื่อยหอบ รามิลมองใบหน้าหวานก่อนจะยิ้มออกมา
" ไม่นานพี่แวะไปหากวินมา " เขาบอก
" พี่รามิล " มะลิทักทาย
" ไงมะลิทำงานเหนื่อยไหม " เขาถามมะลิก่อนที่เธอจะยิ้มและส่ายหัวเป็ฯคำตอบ
" ปะไปกินข้าวกัน " เขาเดินข้างเกวลินโดยที่มะลิได้แต่มองตามแผ่นหลังของสองคน
" เหมือนเป็น กขค. เลยแฮะ " มะลิเป็นคนฉลาดพอมองออกว่ารามิลคิดอะไรกับเพื่อนสาวแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรไปปล่อยให้เป็นเรื่องของเขาสองคน เธอเดินตามมาเงียบๆจนมาถึงรถ
" เดี๋ยวมะลิขับรถไปเองค่ะ ร้านไหนคะ "
" ไปด้วยกันนี่แหละ เดี๋ยวผมกลับมาส่ง " รามิลพูด
" เออไปด้วยกันนี่แหละ " มะลิคร้านจะขัดเลยต้องจำใจขึ้นรถมาคันเดียวกัน แต่รามิลเองก็ลอบมองมะลิผ่านกระจกมองหลังอยู่บ่อยครั้งด้วยแววตาสงสัย
ร้านอาหาร
" นั่นไง...กวินนั่งรออยู่ก่อนแล้ว " รามิลพูดพลางมองไปยังชายหนุ่มชุดสูทสีดำเข้มที่นั่งหันหลังมาทางพววกเขา
" มาด้วยหรอคะ " เกวลินถามในใจคิดกลัว
" ทำไมยังไม่เลิกกลัวมันอีกหรือไง " รามิลถามเสียงปนขำ
" ตั้งแต่มาฝึกงานได้หนึ่งอาทิตย์ไม่เจอคุณกวินเลยค่ะ " เกวลินตอบก่อนจะมองไปยังคนไกลเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาหันมาและสบตาเข้ากับเธอเข้าพอดี
" มาถึงนานยังวะ " รามิลเดินเข้าไปนั่งข้างกวินพร้อมกับเอ่ยถามเพื่อน
" ก่อนมึงไม่นาน " เขาตอบก่อนจะหันไปมองสองสาวที่เดินตามทีหลัง
" คุณกวินสวัสดีค่ะ " มะลิเอ่ยทักทายด้วยท่าทีเกร็งๆแต่เกวลินนี่ไม่กล้าสบตาเขาเลย แต่กระนั้นก็พยายามพูดทักทายออกมา
" สวัสดีค่ะคุณกวิน " ว่าแล้วเธอก็นั่งลงก่อนจะหยิบเมนูที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูและปิดหน้าเอาไว้ เกวลินเกร็งหายใจแทบไม่ออกยิ่งได้ยินเสียงหายใจฮึดฮัดของเขายิ่งทำให้เธออยากจะเดินหนีจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด
" กินอะไรสั่งเลยนะ " รามิลพูดก่อนจะยกมือส่งสัญญาณเรียกพนักงานของร้านมาและสั่งอาหารไปหลายอย่าง
" กวินมึงทำหน้าดีหน่อยดูดิน้องๆเขาเกร็งกันหมดแล้ว " รามิลพูดหลังจากมองท่าทีของเกวลินที่บ่งบอกชัดเจน
" กลัวรึไง " กวินถามออกมาสั้นๆ
" ใครไม่กลัววะ เป็นกูก็ไม่กล้าคุยกับมึงหรอก " รามิลพูดเชิงตำหนิเพื่อให้เพื่อนเขาคิดได้ว่ากำลังทำหน้ายักษ์อยู่ พอเห็นเขาเงยหน้ามาสบตาสองคนก็ก้มหน้าต่ำลงพร้อมกันเพื่อหลบตาคมคู่นั้น
อาหารมาเสริฟตรงหน้าคนที่เป็นผู้บริหารระดับสูงอย่างกวินใช้เวลากินเพียงไม่ถึงสิบนาที
" กูต้องเข้าประชุมด่วน กลับก่อน " กวินรับข้อความจากเลขาก่อนเช็ดปากเช็ดมือและลุกขึ้นจากโต๊ะ สองสาวจะยืนขึ้นและก้มหัวให้เขาเล็กน้อย โดยที่แววตาคมเหลือบมองเกวลินแวบหนึ่ง