EPISODE01 คุณคู่หมั้น

1434 Words
เหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อน... “คุณทิวากร ทรัพย์วารี คู่หมั้นของน้องหนูนะ สวัสดีพี่เขาสิลูก” คุณแม่แนะนำให้ฉันได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งฉันรับรู้ว่าเขาคือคู่หมั้นจากการบอกเล่าของคุณแม่ ฉันหันมองบุคคลที่คุณแม่แนะนำ ว้าว พูดได้เต็มปากเลยว่า ว้าว ว้าว ว้าว คนอะไรหล่อ หล่อไม่บันยะบันยัง หล่อวัวตายควายล้ม เหมือนออกมาจากซีรีย์วายเลย ให้น้องหนูมองทั้งวันก็ไม่มีเบื่อ เห็นแล้วหัวใจทำงานหนัก ได้คนหล่อแบบนี้มาเป็นคู่หมั้น บุญหัวน้องหนูยิ่งนัก “สวัสดีค่ะคุณคู่หมั้น” ฉันส่งยิ้มหวานด้วยความหลงใหล เขาหล่อน่ารักถูกใจฉันมากเลย อยากจะกรี๊ดให้ดังสุดเสียง “นี่ค่ะ ทานด้วยกันไหมคะ” ฉันยื่นทาร์ตไข่ให้คู่หมั้น นี่ของที่ฉันโปรดปรานเลยนะ แบ่งให้เพราะถูกใจ อยากผูกมิตร “…” เขานิ่งเฉย นั่งนิ่งราวรูปปั้น ใช้สายตากวาดมองฉันแวบหนึ่งแล้วหันไปมองหน้าคุณแม่ เขินอาย หยิ่ง วางตัวเหรอ หรือเกรงใจน้องหนู จะอะไรก็ช่างเถอะ น้องหนูกินเองก็ได้ อย่ามาขอคืนแล้วกัน ว่าแล้วก็กัดทาร์ตไข่คำโต ๆ สิคะ 1 ชิ้นกินได้ 2 คำ ถ้าไม่มีคนอื่นนั่งอยู่ด้วย 1 ชิ้น 1 คำค่ะ “น้องหนูเพิ่งจะ 16 น้าก็เลยตามใจปากแกค่ะ เดี๋ยวน้าจะบอกให้แกลดน้ำหนักนะคะ” “ลดทำไมคะ น้องหนูไม่ลดหรอกนะคะ” รีบทักท้วงสิ โดยที่ทาร์ตไข่ยังอยู่ในปาก จู่ ๆ คุณแม่มาคิดเองเออได้ไง ไม่มีทางเด็ดขาด “น้องหนู” คุณแม่ใช้สายตาเอ็ดฉัน “น้องหนูไม่ลดค่ะ” ยืนยันเสียงแข็งสิคะ ของกินคือความสุข ไม่ได้กินเท่ากับความสุขหายไป ความสุขของน้องหนูมีไม่กี่อย่าง ของกินถูกจำกัดรวมในนั้นด้วย “ถ้าไม่ลดเธอคงต้องเปลี่ยนชื่อ” ว้าว น้ำเสียงคุณคู่หมั้นไพเราะจัง แววตาดุดัน ทว่าใบหน้าสวยหวาน แล้วยังน้ำเสียงน่ารัก ถูกใจน้องหนูมากเลย เกิดมาได้หมั้นกับผู้ชายแบบนี้โชคดีมาก ๆ เลยนะ “ให้น้องหนูเปลี่ยนชื่อเป็นอะไรคะ” ฉันส่งยิ้มหวานให้คุณคู่หมั้น ตั้งหน้าตั้งตารอคำที่คุณคู่หมั้นจะพูดออกมา โดยที่ปากก็ยังเคี้ยวทาร์ตไข่ตุ้ย ๆ ใบหน้าเปรี่ยมไปด้วยความสุข “น้องหมู” ฉันและคุณแม่ “…” ขณะที่น้องหนูอึ้งกับการถูกบูลลี่ คุณคู่หมั้นเผยอริมฝีปากอมชมพูอีกครั้ง “ไม่แปลกที่บ้านเธอกำลังจะล้มละลาย” “หืม? บ้านเราจะล้มละลายเหรอคะคุณแม่” สร้างความตื่นตัวให้น้องหนูได้เป็นอย่างดี อะไรกัน บ้านเรารวยมาก แต่ทำไม ทำไมถึงมีคำว่าล้มละลาย คุณคู่หมั้นคงจะเข้าใจผิดไปเป็นแน่ บ้านฉันไม่มีทางล้มละลาย “เอ่อ…” หากเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริง คุณแม่ทำไมทำหน้าลำบากใจล่ะ หรือมีอะไรที่ฉันไม่รู้อย่างนั้นเหรอ “16 ก็ถือว่าโตแล้วนะครับ ควรให้เขาได้รู้บ้างว่าโลกนี้ไม่ได้สวยงาม เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้ ข้างทางไม่มีร้านขนม โลกนี้มีอะไรโหดร้ายอีกเยอะ ไม่ใช่ว่าสอนให้เขาตื่นมาเจอแต่ของที่เขาชอบ ถ้าอยากให้เขาเป็นเจ้าสาวของผม ช่วยสอนสั่งให้ดีกว่านี้ด้วยนะครับ คำว่าเจ้าสาวก็คือเจ้าสาว ผมไม่ได้อยากได้ลูกสาวหรือน้องสาว” “ค่ะ น้าจะอบรมน้องหนูใหม่นะคะ” ทำไมกัน ทำไมคุณแม่พูดแบบนั้น น้องหนูนิสัยไม่ดีตรงไหน ที่โรงเรียนน้องหนูเคยเกือบจะได้รางวัลมารยาทไทยดีเด่นด้วยซ้ำ คุณคู่หมั้นพยักหน้ารับและวางกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินลงที่โต๊ะตรงด้วยหน้าเราทั้งสามคน “นี่แหวนหมั้น ส่วนเงินจะถูกโอนเข้าบัญชี กรุณารักษาคำพูดด้วย เพราะผมไม่ชอบพูดเยอะ ระหว่างนี้ผมจะให้คนของผมคอยดูแลเธออย่างดี ถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงผมจะชดเชยให้ตามที่คุณน้าเรียกร้องนะครับ” “ค่ะ ๆ” ทำไมคุณแม่ต้องทำเสียงสั่น ทำไมคุณคู่หมั้นพูดจาไม่น่ารัก ทั้งที่หน้าตาน่ารัก รู้สึกไม่ค่อยชอบคุณคู่หมั้นแล้วสิ “ผมลาครับ แล้วถ้าเกิดฝั่งคุณน้าผิดสัญญาผมจะไม่เสียให้สักบาทนะครับ และคืนของหมั้นด้วย” คำพูดทิ้งท้ายก่อนที่ชายร่างผอมสูงสวมชุดสูทสีกรมจะลุกจากโซฟาและเดินออกไปด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย ฉันรีบละสายตาจากคุณคู่หมั้นเมื่อคุณแม่กล่าวบางอย่างกับฉัน “ต่อไปนี้น้องหนูต้องเลิกขนม หันมาออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร และห้ามมีแฟน ห้ามชอบผู้ชายคนอื่นนอกจากคู่หมั้นของตัวเอง ซึ่งก็คือคุณทิวากร หรือน้องหนูจะเรียกพี่เขาว่า ไทเกอร์ก็ได้ เพราะนั่นคือชื่อเล่นของพี่เขา” “อะ อะไรกันคะคุณแม่” น้ำตาเอ่อคลอแล้วนะ ทำไมคุณแม่มาบังคับกันแบบนี้ ฉันไม่ได้สนที่ว่าห้ามมีแฟน หรือจะเรียกคุณคู่หมั้นว่าอะไร ที่ฉันสนคือ คุณแม่มาสั่งให้ฉันลดความอ้วนไม่ได้! “เพื่อที่จะได้เป็นเจ้าสาวของคุณทิวากร ตามที่ตกลงกันเอาไว้” คุณแม่ไม่ฟังน้องหนูเลยอะ “คุณแม่คะ” “ตามนั้น แม่ขอไปรื้อของกินในตู้เย็นมาจัดการก่อนนะ น้องหนูจะได้ไม่หิวทุกเวลา” คุณแม่เดินออกจากห้องรับแขกไปด้วยท่าทางมุ่งมั่นมาก ๆ ไม่ ไม่ได้เด็ดขาด บังคับเรื่องอื่นได้ แต่เรื่องลดความอ้วนน้องหนูไม่ยอม ที่ฉันโดนบังคับแบบนี้สาเหตุมาจากคุณคู่หมั้น เพราะอย่างนั้นฉันต้องไปจัดการเขา ฉันรีบวิ่งออกมาจากห้องรับแขก ด้วยกลัวว่าจะไม่ทัน คุณคู่หมั้นกำลังจะเข้าไปนั่งในรถ ฉันรีบร้องเรียกอย่างดัง “คุณคู่หมั้นคะ” ร่างสง่าผ่าเผยหันมามอง ออร่าความน่ารักส่องประกายระยิบระยับรอบตัวเขา เห็นแล้วใจฟูฟ่องเลย ไม่ได้น้องหนู ไม่ใช่เวลาแบบนี้ “อะไร นิ้วเธออ้วนจนใส่แหวนไม่ได้หรือไง” บูลลี่น้องหนูอีกแล้วนะ เพราะฉันถือตลับกำมะหยี่มาด้วยสินะ ทำไมปากร้าย น้องหนูไม่ได้อ้วนมากมายสักหน่อย “น้องหนูยังไม่ได้ลองค่ะ และจะไม่ใส่ด้วย น้องหนูจะไม่หมั้นกับคุณคู่หมั้นปากร้าย คนรักของน้องหนูต้องเป็นเจ้าชายแสนดี ไม่ใช่หน้าสวยนิสัย วายร้ายแบบนี้” “คิดว่าตัวเองเป็นใคร” ดวงตาคมมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า “…” ทำไมถามแบบนี้ น้องหนูก็คือน้องหนูไง คุณคู่หมั้นสมองเสื่อมหรือไง “ไม่ได้เรื่อง” อะไรกัน ไม่เห็นต้องพูดและมองด้วยสีหน้ารังเกียจขนาดนี้เลย ชักจะไม่น่ารักขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ “ถ้าน้องหนูไม่ได้เรื่อง คุณคู่หมั้นก็เอาแหวนคืนไปสิคะ น้องหนูไม่ได้อยากหมั้นสักหน่อย” ฉันยื่นตลับกำมะหยี่คืน ถึงหน้าจะเหมือนพระเอกซีรีย์ ถึงเครื่องหน้าส่วนสูง ความสมดุลของร่างกายจะทำให้น้องหนูใจเต้น แต่ถ้านิสัยไม่น่ารักแบบนี้ น้องหนูไม่สนหรอกนะ “เธอคิดว่าฉันอยากหมั้นกับใครก็ไม่รู้หรือไง” “งั้นมาหมั้นกับน้องหนูทำไมคะ” “ฉันแค่ทำตามคำสั่ง" “งั้นก็ไม่ต้องทำตามค่ะ น้องหนูไม่อยากได้คุณคู่หมั้นมาเป็นคู่หมั้นแล้ว คุณคู่หมั้นนิสัยไม่น่ารักเอาซะเลย” เมื่อน้องหนูแสดงเจตจำนงค์อย่างชัดเจน คุณคู่หมั้นก้าวเท้าเข้ามาใกล้น้องหนูสามก้าว โน้มใบหน้าอันน่ารักมาเสมอกับใบหน้ากลม ๆ ของน้องหนู คุณคู่หมั้นใช้สายตาอันทรงเสน่ห์มองทั่วทุกอณูรูขุมขนบนใบหน้าของน้องหนู แล้วใบหน้าน่ารักก็แนบเข้ามาใกล้อีก จนน้องหนูต้องเบี่ยงหน้าหลบ จึงได้ยินเสียงคุณคู่หมั้นพูด “ข้อตกลงนั้นฉันรับมันเพื่อผู้หญิงอีกคน ฉะนั้นเธออย่าสำคัญตัว และอย่าสร้างปัญหากับฉันให้มาก” ฉันหันขวับกลับมาทันที ทำให้แก้มชนเข้ากับปลายจมูกของคุณคู่หมั้น เอิ่ม น้องหนูคนนี้ควรตกใจเรื่องไหนก่อนดี เรื่องที่คุณคู่หมั้นมีคนรัก หรือเรื่องที่คุณคู่หมั้นหอมแก้มน้องหนู
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD