มีแค่ไม่กี่คนที่รู้ว่าชีคอัลซามีรสนิยมทางเพศที่รุนแรงเข้าขั้นซาดิสต์ นางบำเรอบางคนถึงกับทนไม่ได้ต้องจบชีวิตคาเตียง หรือหากนางบำเรอคนไหนที่สนองอารมณ์ได้ไม่ถึงใจ และทำให้ชีคอัลซาต้องโกรธกริ้ว พวกเธอเหล่าจะถูกจบชีวิตด้วยการฝั่งให้เป็น ‘ปุ๋ย’ อยู่ก้นทะเล
ทรายอันร้อนระอุ
“ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้อยู่ที่ไหนพ่ะย่ะค่ะ”
ผู้พันฟาเรลล์ปัดความสงสารที่ก่อตัวขึ้นในใจออกไป เขาไม่สนใจว่าเชษฐาจะทำอย่างไรกับผู้หญิงคนนี้ เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือการทำทุกอย่างเพื่อให้คนในแคว้นมารีนหลุดพ้นจากเงื้อมมือของชีคอัลซา
“เธออยู่ไม่ไกลหรอกผู้พัน อยู่ในรัฐอัลยาส์นี่แหละ ในโรงแรมเดอะคิงสตาร์”
ผู้พันฟาเรลล์เลิกคิ้วขึ้นสูง ไม่นึกว่าผู้หญิงคนนี้จะอยู่ใกล้จมูกถึงเพียงนี้ และแน่นอนว่าโรงแรมดังกล่าว เป็นโรงแรมระดับห้าดาว มีชื่อชีคอัลซาเป็นเจ้าของด้วย
“เธอมาทำอะไรที่นี่หรือพ่ะย่ะค่ะ”
“เป็นบอดี้การ์ดให้กับพวกนางแบบจากประเทศไทย ที่มาเดินโชว์เครื่องเพชรในโรงแรมของพี่”
“ประเทศไทย?” ผู้พันฟาเรลล์ทวนคำเสียงสูง ก่อนจะเอ่ยถามต่อ “ผู้หญิงที่ท่านพี่ต้อง
การเป็นคนไทยหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“ใช่! เธอเป็นคนไทย และเป็นผู้หญิงคนแรกที่หยามเกียรติพี่ ไม่ยอมรับเงินที่พี่ซื้อตัวเธอ ทั้งๆ ที่เธอมีราคาไม่มากไปกว่าอูฐตัวหนึ่งของพี่”
ทุกครั้งที่พูดถึงหญิงสาวที่ถือดี ชีคอัลซาเต็มไปด้วยความโกรธกริ้ว ดวงเนตรฉายแววโหดเหี้ยมให้เห็น และพอนึกถึงของเล่นชิ้นใหม่ที่พระองค์เพิ่งสั่งซื้อมาจากอเมริกา ซึ่งพระองค์จะใช้กับผู้หญิงคนนี้เป็นคนแรก เพื่อสอนให้เธอรู้ว่าอย่าปฏิเสธความต้องการของชีคอัลซา ก็ยิ่งเต็มไปด้วยความหิวกระหาย ต้องการผู้หญิงคนนี้ให้มานอนอยู่ใต้เรือนกายของพระองค์ให้เร็วที่สุด
“บางที เงิน! ก็ใช้ซื้อสิ่งที่ต้องการไม่ได้ทุกอย่าง”
ผู้พันฟาเรลล์พึมพำอยู่ในลำคอ ชักอยากเห็นหน้าผู้หญิงที่เคราะห์คนนี้ซะแล้ว ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร สะสวยเหมือนในรูปภาพ และใช้เงินซื้อไม่ได้จริงหรือ?
“งานโชว์เครื่องเพชรจะแสดงเสร็จวันไหนพ่ะย่ะค่ะ”
“อีกสองวันข้างหน้า ก่อนพวกเธอจะย้ายไปแสดงที่ประเทศฝรั่งเศสต่อ ผู้พันต้องรีบเอาตัวเธอมาให้พี่โดยเร็วที่สุด”
แค่เพียงนึกถึงโซ่และแส้ รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับการทำโทษหญิงสาวผู้สาวผู้นี้ ชีคอัลซาก็เกิดอาการกระสั่นซ่านในกามารมณ์ทันที
ผู้พันฟาเรลล์ลอบถอนหายใจยาว ความสงสารในตัวหญิงผู้นี้เล่นจู่โจมเข้าสู่หัวใจอีกครั้ง เมื่อเห็นดวงเนตรของเชษฐาที่เผยแววหื่นกระหายให้เห็นอย่างชัดเจน
“น้องขอเวลาสำหรับการวางแผนในภารกิจนี้ก่อน หลังจากวันนี้ไปอีกหนึ่งวัน ท่านพี่เตรียมเอาเอกสารฉบับนั้นมาให้น้องได้เลย”
“ดีมากผู้พัน ให้มันได้แบบนี้สิ ถึงจะเรียกว่ารักกันจริง”
ชีคอัลซากระตุกยิ้มด้วยความพึงพอใจกับคำตอบที่ได้รับ พร้อมกับตบหนักๆ ลงไปบนบ่ากว้างของอนุชา
‘น้องไม่เคยคิดแม้แต่นิดเดียวว่าท่านพี่จะรักน้อง’
ผู้พันฟาเรลล์เค้นเสียงเยาะ เชื่อไม่ลงว่าชีคอัลซาจะรู้สึกตามที่ตรัสออกมา
“น้องขอตัวกลับก่อนน่ะพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อได้รับมอบหมายงานที่ไม่อยากทำสักเท่าไรแล้ว ผู้พันฟาเรลล์ก็เอ่ยขอตัวกับชีคอัลซา เพราะงานนี้เขาต้องกลับไปวางแผนกับลูกน้องให้รัดกุมที่สุด ก่อนจะลงมือทำภารกิจ
“อย่าทำให้พี่ต้องผิดหวังน่ะผู้พัน”
ชีคอัลซาตรัสย้ำด้วยสุรเสียงเย็น ตามหลังของคนที่กำลังเดินตรงไปยังประตูห้อง
“ไม่แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
ผู้พันฟาเรลล์รับคำเสียงหนักแน่น ก้าวเดินต่ออย่างองอาจตรงไปเปิดประตูห้องออกกว้าง และก่อนจะเดินออกพ้นประตู ก็หยุดชะงักอยู่ครู่หนึ่ง หันมาเอ่ยถามเชษฐาว่า
“ท่านพี่...ผู้หญิงคนนี้ชื่ออะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“พี่เขียนชื่อของเธอไว้บนภาพ ผู้พันลองอ่านดูสิ”
ผู้พันฟาเรลล์พยักหน้ารับ หมุนตัวเดินออกมาจากห้องทำงานของเชษฐาตรงไปยัง
รถยนต์ของตนเองที่จอดอยู่ด้านหน้าตำหนักแห่งนี้ พอเข้ามานั่งในรถได้แล้ว ก็หยิบภาพถ่ายของหญิงสาวผู้ที่กำลังถูกภัยมืดคืบคลานเข้าหาโดยไม่รู้ตัว มากวาดสายตาอ่านชื่อตามที่เชษฐาได้เขียนไว้บนนั้น
“ชา...ชายิกา...”
ผู้พันฟาเรลล์ออกเสียงสะกดตามตัวอักษรที่เห็น จากนั้นก็โยนภาพถ่ายไปบนเบาะรถอย่างไม่แยแส ขณะพึมพำออกมาว่า
“ชายิกา เธอโชคร้ายชะมัดที่ดันมาเตะตาท่านพี่ และโชคร้ายหนักกว่าเดิมที่ปฏิเสธความต้องการของเขา คงไม่ว่ากัน หากผมจะจับคุณมาเป็นเครื่องสังเวยให้กับชีคอัลซา”
ผู้พันฟาเรลล์พกความเครียดกลับมายังแคว้นมารีน ทันทีที่กระโจนลงจากรถยนต์ ก็โยนภาพถ่ายที่ได้จากเชษฐาทั้งหมด ลงไปบนโต๊ะดังโครม ทำเอาวงไพ่ที่กำลังเล่นกันอย่างสนุก
สนานถึงกับแตกฮือ สมาชิกวงไพ่ทุกคนซึ่งล้วนเป็นทหารอยู่ใต้อาณัติของผู้พันฟาเรลล์ ต่างก็ลุกพรึบ ยกมือตะเบ๊ะทำความเคารพผู้บังคับบัญชาด้วยสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน
“สวัสดีครับผู้พัน”
ผู้หมวดอาดีลซึ่งสูงวัย และมียศสูงกว่าทหารทุกคน ได้เอ่ยทักทายผู้บังคับบัญชา พร้อมกับแอบส่งสายตาหวาดๆ ให้กับลูกน้องคน ไม่รู้จะออกหัวหรือก้อย ไม่รู้ว่าจะถูกผู้พันฟาเรลล์เล่นงานหนักมากเพียงใด ที่พวกเขาพากันตั้งวงไพ่ในขณะที่ผู้พันไม่อยู่
แต่! ผู้พันฟาเรลล์ทำให้ลูกน้องทุกคนต้องเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความคาดไม่ถึง เมื่อยกมือตะเบ๊ะรับการทำความเคารพจากลูกน้อง จากนั้นก็โบกมือไล่ลูกน้องบางคน เรียกเฉพาะลูกน้องมือดีไว้สองคนเท่านั้น
“ผู้หมวดอาดีล ผู้หมวดซารุส มานี่”
ผู้หมวดทั้งสองที่เป็นเจ้าของชื่อ ต่างก็หันมามองหน้ากันด้วยความงุนงง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผู้พันฟาเรลล์
“ผู้พันมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมสีหน้าไม่สู้ดีเลยครับ” หลังจากทรุดตัวลงนั่งแล้ว คราวนี้ผู้หมวดซารุสเป็นฝ่ายเอ่ยถามบ้าง